เริ่นเซวียนเอ๋อร์ชำเลืองมองน้ำแกงโสมที่หกบนพื้น ยังมีหนอนพิษกู่ตัวนั้น พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “หนอนพิษกู่ที่เก่งกาจปานนี้ยังตายแล้ว เห็นได้ว่ายาพิษนี้ร้ายแรงนัก”
หยุนถิงมองทางลั่วผิน “ท่านควรจะขอบคุณลูกสาวข้า ถ้าไม่ใช่นางทำน้ำแกงโสมของท่านหก กลัวว่าเวลานี้ท่านคงเป็นศพร่างหนึ่งแล้ว”
ลั่วผินตกใจจนมึนงงไปตั้งนานแล้ว “ขอบใจมากนะจวิ้นจู่น้อย ขอบใจมาก เป็นข้าที่ไม่รู้จักถูกผิด เป็นข้าเข้าใจผิดจนตำหนิเจ้าแล้ว”
ลั่วผินพูดอยู่ รีบมองทางฝ่าบาททันที “ฝ่าบาทเพคะ ขอให้ฝ่าบาททรงจัดการให้หม่อมฉันด้วยเพคะ คาดมิถึงมีคนวางยาพิษหม่อมฉันในงานเลี้ยงต้อนรับ ถ้าหม่อมฉันเกิดเรื่องขึ้นเช่นนั้นลูกในท้องของหม่อมฉันก็คงไม่รอดเช่นกัน นี่คือเขากำลังฆ่าทายาทฮ่องเต้นะเพคะ ฝ่าบาทได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันด้วยเพคะ!”
ฮ่องเต้แคว้นเทียนจิ่วโกรธเคืองทันใด “กล้าวางยาพิษที่งานเลี้ยงต้อนรับทำร้ายทายาทของข้า ร้ายกาจที่สุดเสียจริง ชิวรื่อป่ายข้าขอสั่งเจ้าไปสืบค้นเรื่องนี้ จักต้องหาคนที่วางยาพิษมาให้ได้ ไม่ว่าเป็นผู้ใด ข้าไม่ปล่อยไปเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ชิวรื่อป่ายลุกขึ้นรับบัญชา
หยุนถิงชายตามองเขาแวบหนึ่ง รูปร่างทั่วไป หน้าตาก็ธรรมดามาก เป็นคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองแวบหนึ่งก็จำไม่ได้ประเภทนั้น เมื่อสักครู่หยุนถิงก็ไม่ทันสังเกตเห็นคนผู้นี้
“แคว้นเทียนจิ่วมีคนกล้าวางยาพิษในงานเลี้ยงต้อนรับของข้า ขัดความสนุกเสียจริง งานเลี้ยงนี้อยู่ต่อไปก็เท่านั้น! ถิงเอ๋อร์ พวกเราไปกันเถิด” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเย็นชา
“ได้!” หยุนถิงรีบจูงมือของจวินเสี่ยวเหยียนไว้ หมุนตัวแล้วเดินไป
ฮ่องเต้ทรงทำหน้าเคร่งขรึมและหงุดหงิด กลับไม่ได้เรียกจวินหย่วนโยวเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้ว พระองค์ก็ทรงกลัดกลุ้มใจที่สุด เดิมทีไม่มีความคิดจะฉลองต่อไป
เวลานี้จวินหย่วนโยวพูดออกมา กลับไม่ต้องให้พระองค์ตรัสออกมา
“งานเลี้ยงต้อนรับในวันนี้ก็พอแค่นี้ ทุกคนแยกย้ายเถิด” ฮ่องเต้ลุกขึ้นแล้วเสด็จไป
ทุกคนต่างพากันกลับ ผิงหนานอ๋องมองทางภาพด้านหลังของจวินหย่วนโยวกับหยุนถิง นัยน์ตาอันเฉยชาเผยความชั่วร้ายออกมา ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปตาม
ออกมาจากพระราชวัง เริ่นเซวียนเอ๋อร์รีบตามเข้ามา “หยุนถิงคืนนี้ขอโทษด้วย ข้าก็นึกไม่ถึงว่าจะมีคนวางยาพิษลั่วผิน นางผู้นั้นปกติปากไม่มีหูรูด ไม่รู้ว่าผิดใจผู้ใดไปบ้างแล้ว พรุ่งนี้เช้าข้าจะเข้าไปหาเจ้า พาพวกเจ้าไปเที่ยวชมรอบๆ”
“ได้ ขอบคุณนะ” หยุนถิงและคนอื่นขึ้นรถม้ามุ่งตรงไปที่ตำหนักรับรอง
จวินเสี่ยวเทียนกินอาหารไปไม่น้อย เวลานี้แอบอิงอยู่ในอ้อมอกจวินหย่วนโยวหลับไปแล้ว ส่วนจวินเสี่ยวเหยียนเพราะไม่มีหนอนพิษกู่แล้ว อารมณ์หดหู่มากนัก นั่งอยู่ไม่พูดจา
“ท่านพี่ เรื่องคืนนี้ท่านมองเช่นไร?”
ดวงตาที่ดำมืดดุจยามค่ำคืนของจวินหย่วนโยวหรี่ขึ้นเล็กน้อย “น่าจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ ไม่ใช่พุ่งเป้ามาที่พวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเสี่ยวเหยียนจะวิ่งเข้าไปเล่น และชนลั่วผินเข้าพอดี!”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ไม่รู้ว่าผู้ใดใจกล้าปานนี้เชียว คาดไม่ถึงกล้าลงมือในงานเลี้ยงต้อนรับ ดูแล้วพระราชวังของแคว้นเทียนจิ่วนี้สถานการณ์ไม่มั่นคงนัก” หยุนถิงพูดทอดถอนใจ
“ไม่ว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายเป็นเช่นไร ขอเพียงพวกเขาไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พวกเรา ย่อมไม่ต้องสนใจ!” จวินหย่วนโยวพูดปลอบใจ
“ได้!”
ทางนี้ ลั่วผินกลับมายังตำหนักของตนเอง ตกใจแทบแย่ รีบให้คนนำข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดในตำหนักมาตรวจสอบอย่างละเอียดรอบหนึ่ง
เป็นผู้ใดคิดร้ายต่อตนเองกันแน่ คาดไม่ถึงวางยาพิษต่อตนเองในงานเลี้ยงต้อนรับ มีความคิดชั่วร้ายมาก
วินาทีนี้ ลั่วผินรู้สึกซาบซึ้งใจต่อจวินเสี่ยวเหยียนทันใด ถ้าไม่ใช่นางไม่ระวังมาชนตนเองเข้า กลัวว่านางคงตายแล้ว
ทันใดนั้นลั่วผินก็นึกถึงคนผู้หนึ่งแล้ว จะต้องเป็นเซียวเฟยแน่ ก่อนหน้านี้นางพูดจาอย่างมีนัยแฝงปานนั้นต้องเป็นนางที่วางยาพิษตนเองแน่
ลั่วผินคิดถึงตรงนี้ จึงรีบลุกขึ้นเรียกสาวใช้คนสนิทของตนเองแล้ว มุ่งตรงไปที่ตำหนักของเซียวเฟย
“เซียวเฟย เป็นเจ้าที่วางยาพิษในน้ำแกงโสมของข้าหรือไม่?” ลั่วผินถามอย่างตรงไปตรงมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...