จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 661

วินาที่ต่อมา เสวี่ยเชียนโฉวคว้าแขนหยุนหลีไว้มั่น “ที่นี่ไม่เหมาะกับเจ้า ไปกับข้า” พูดพลางลากหยุนหลีออกไป

“ท่านอา จะไม่เหมาะกับข้าได้อย่างไรกัน ข้าว่าดีออกนะ” หยุนหลีไม่เข้าใจ

“ข้าบอกว่าไม่เหมาะก็ไม่เหมาะสิ” น้ำเสียงเสวี่ยเชียนโฉวฉาบอำนาจอย่างห้ามบิดพลิ้ว

เริ่นเซวียนเอ๋อร์เห็นสีหน้าทะมึนของเสวี่ยเชียนโฉว ก็รู้สึกสนุกขึ้นมา นางก็ว่าอยู่ว่าเหตุใดท่านอาผู้นี้ตามหยุนหลีมา ที่แท้ก็ชอบพอหยุนหลีนี่เอง

“ท่านอา หาโอกาสยากนักที่ข้าจะได้มาที่นี่ ขอข้าเล่นสักครู่เถอะ ขอร้องล่ะ” หยุนหลีรีบอ้อนวอน

พอเห็นท่าทางน่าสงสารของนางแล้ว เสวี่ยเชียนโฉวทำใจแข็งไม่ไหว ปล่อยแขนนางที่รั้งไว้ “ดื่มกินได้ ห้ามหาผู้ชาย”

“เพราะเหตุใดเล่า?”

“หากพี่หญิงใหญ่เจ้ารู้ว่าเจ้าทำเช่นนี้ ต้องเป็นกังวลแน่ หากท่านพ่อเจ้ารู้ว่าเจ้ามาเที่ยวที่แบบนี้ในแคว้นเทียนจิ่ว เจ้าคิดว่าเขาจะทำอย่างไร?” เสวี่ยเชียนโฉวย้อนถาม

หยุนหลีทำคอย่นในบัดดล “ท่านพ่อต้องตีข้าจนตายแน่”

เสวี่ยเชียนโฉวเห็นนางรับฟัง ก็ไม่พูดอะไรอีก

เริ่นเซวียนเอ๋อร์พาพวกเขาเข้าไปในห้องส่วนตัว สั่งอาหารเลิศรสมาเต็มโต๊ะ มีเพียงแค่ดื่มกินอาหารจริงๆ

หยุนหลีอายุน้อยกว่าเริ่นเซวียนเอ๋อร์หลายปี ทั้งสองกลับสนิทสนมกับอย่างรวดเร็ว ไม่เจอกันสองปี สองสาวน้อยมีเรื่องให้พูดกันมากนัก พูดคุยกันไม่หยุด

เสวี่ยเชียนโฉวที่อยู่ข้างๆเริ่มรำคาญ ไม่พูดอะไร เอาแต่ดื่มชา

สุดท้ายเริ่นเซวียนเอ๋อร์กับหยุนหลีดื่มมากไปหน่อย เริ่นเซวียนเอ๋อร์เอนตัวฟุบโต๊ะหลับไปเลย ส่วนหยุนหลีหงายหลังล้มลงพื้นไปเลย

เสวี่ยเชียนโฉวตกใจมาก นังหนูนี่โง่หรือเปล่า กล้าหงายหลังไปเช่นนี้ หากทำสมองกลับขึ้นมา ไม่กลายเป็นคนโง่ไปเลยรึ วางใจไม่ได้เลยจริงๆ

เขาออกแรงดึงหยุนหลีลุกขึ้น หยุนหลีโผเข้าอ้อมกอดเสวี่ยเชียนโฉวทันที

“ไอ้โหย เจ็บนะ ท่านอา ท่านทำข้าหัวชนแล้ว” หยุนหลีเบ้หน้าน้อยๆอย่างเจ็บปวด

เสวี่ยเชียนโฉวหน่ายใจ นังหนูนี่มาชนเขาเองต่างหาก

พอเห็นแก้มแดงเรื่อของนาง ดวงตาเหม่อลอย เสวี่ยเชียนโฉวถอนหายใจยาว จะถือสากับคนเมาทำไมกัน

“ท่านอา ท่านหน้าตาหล่อเหลานัก จมูกโด่งเชียว ดวงตาก็งดงาม ยังมีริมฝีปากนี่อีก ริมฝีปากบางเยี่ยงนี้ต้องเป็นคนใจดำแน่” หยุนหลีบอก มือลูบไล้ใบหน้าเสวี่ยเชียนโฉวมั่วไปหมด

เสวี่ยเชียนโฉวหายใจติดขัดขึ้นมาทันที เขารับรู้ได้ถึงมือน้อยๆอ่อนนุ่มไร้กระดูกนั้นลูบไล้ไปทั่วใบหน้าตนอย่างมั่วซั่ว เขาเพียงรู้สึกว่าร้อนรุ่มไปทั่วร่างกาย

พอสบตากับดวงตาเหม่อลอยของหยุนหลี เห็นนางยิ้มร่าให้ตน รอยยิ้มออบุ่นบริสุทธิ์นั้นทำให้เสวี่ยเชียนโฉวสูญเสียการควบคุมทันที

“หน้าตาหล่อเหลาปานนี้ ให้ข้าลองชิมรสชาติดูหน่อยสิ” หยุนหลีที่สะลึมสะลือพลันยื่นหน้าเข้าใกล้ และจูบริมฝีปากบางของเสวี่ยเชียนโฉวทันที

คราวนี้เสวี่ยเชียนโฉวตัวแข็งเป็นหินไปเลย เขารับรู้ได้ถึงความอ่อนนุ่มที่ริมฝีปาก พลันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าไปทั้งร่าง สมองว่างเปล่า ลืมโต้ตอบไปเลย

นังหนูนี่กล้าจุมพิตตน

นางคิดจะทำอะไรกันแน่ เหตุใดยังไม่พออีก

เสวี่ยเชียนโฉวตัวแข็งข้างราวกับหิน รออยู่ครู่หนึ่งยังไม่เห็นหยุนหลีลุกขึ้น เขาตัวเอนจนเอวจะหักอยู่แล้ว ระหว่างลังเลว่าจะพูดกับหยุนหลีอย่างไรดี ก็ได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาของนางดังมา

พอเสวี่ยเชียนโฉวก้มหน้าไปดู หยุนหลีก็หลับไปแล้ว

ทำเขาตื่นเต้นเสียนาน คิดว่าจะอธิบายเรื่องเมื่อครู่อย่างไรดี นางช่างใจดำเสียจริง

เสวี่ยเชียนโฉวนั่งตัวตรง อุ้มหยุนหลีขึ้นไปวางนอนบนเก้าอี้ยาว มองดูใบหน้าแน่งน้อยที่หลับสนิทของนางแล้ว คิดถึงเมื่อครู่ที่นางจูบเขา เสวี่ยเชียนโฉวยิ้มมุมปาก

จวบจนฟ้ามืด หยุนหลีก็ยังไม่กลับมา องครักษ์ลับที่หยุนถิงส่งไปอารักขาหยุนหลีอย่างลับๆบอกว่า พวกหยุนหลีสามคนไปเที่ยวหอนางโลมหนึ่งวัน ทำให้หยุนถิงประหลาดใจ

เสวี่ยเชียนโฉวยอมไปสถานที่แบบนั้นเป็นเพื่อนหยุนหลี มันทำให้คนอดประหลาดใจไม่ได้จริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ