หยุนถิงก็สงสัยอย่างยิ่งเช่นกัน “ตามนิสัยโหดเหี้ยมอำมหิตของผิงหนานอ๋อง จะต้องหนีเอาชีวิตรอดทันทีแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าในจวนอ๋องมีสิ่งที่สำคัญมาก สำคัญ กว่าชีวิตของเขา!”
“หรือว่าจะเป็นเซียจิ่วเซียว?” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวด้วยความสงสัย
หยุนถิงส่ายหน้า “เขาหาผู้หญิงเพื่อคลอดลูกแล้ว ต้องละทิ้งเซียจิ่วเซียวไปแล้วแน่นอน ข้าสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกับหนอนกู่ผีเสื้อโลหิตของซื่อจื่อ หรือไม่เบื้องหลังของเขาก็ยังมีปลาที่ตัวใหญ่กว่าอยู่อีก!”
“เราเข้าไปดูกัน” โม่เหลิ่งเหยียนเสนอแนะ
“ตกลง”
ตอนนี้จวนผิงหนานอ๋องถูกเสวี่ยเชียนโฉวกับหยุนหลีกวาดล้างจนราบคาบไปนานแล้ว ประตูเปิดทุกทิศทั่วทาง องครักษ์และองครักษ์ลับล้วนนอนกันอยู่เต็มลาน สลับตัดกันไปมา เลือดไหลเป็นแม่น้ำ
“ระวังตัวด้วย” โม่เหลิ่งเหยียนเอ่ยปาก
“ท่านก็เหมือนกัน”
ขณะที่พูดคุยทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในจวนผิงหนานอ๋อง เดินอ้อมซากศพเหล่านั้นไป พวกเขามุ่งหน้าเดินเข้าไปข้างใน เพียงแต่ว่าจวนผิงหนานอ๋องใหญ่เกินไป หยุนถิงกับโม่เหลิ่งเหยียนได้แต่ค้นหาไปทีละห้องเท่านั้น
ผิงหนานอ๋องในเวลานี้เข้าไปในห้องลับกับคนชุดดำคนนั้นนานแล้ว เจว๋กู่ถึงได้ปลดผ้าเช็ดหน้าสีดำบนใบหน้าลงมา
เมื่อผิงหนานอ๋องเห็นว่าเป็นเขา ก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง “เจว๋กู่ใช่เจ้าจริงๆด้วย เจ้ามาช่วยข้าจริงๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีทางทนเห็นพ่อไปตายได้!”
“ข้าไม่มีพ่ออย่างท่าน!” เสียงของเจว๋กู่เย็นชาดุร้าย ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของผิงหนานอ๋องกระอักกระอ่วน และอับอายอย่างยิ่ง แต่กลับไม่รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกดีใจมาก
“ข้ารู้ ในสายตาของเจ้าข้าก็คือขยะไร้ประโยชน์คนหนึ่ง แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอเพียงสามารถทำงานให้แม่เจ้าได้ ถึงแม้ต้องตายข้าก็ยินดี”
เพราะว่าตื่นเต้น ผิงหนานอ๋องไอขึ้นมาอย่างรุนแรง ตรงแขนและไหล่มีเลือดไหลตลอดเวลา เจว๋กู่ไม่ได้ช่วยห้ามเลือดให้เขา ผิงหนานอ๋องในเวลานี้สีหน้าซีดขาว
เจว๋กู่ที่อยู่ตรงหน้าก็คือลูกชายของผิงหนานอ๋อง พูดให้ถูกคือบุตรนอกสมรส
เพียงแต่ว่าสถานะของเขาพิเศษ หรือจะบอกว่าแข็งแกร่งเกินไป เดิมทีผิงหนานอ๋องยังกลัวว่าเขาจะข่มขู่องค์หญิงใหญ่ ไม่คิดว่าสถานะของเขาลึกลับ และแข็งแกร่งเช่นนั้น ไม่สนใจมองทุกสิ่งทุกอย่างในจวนผิงหนานอ๋องด้วยซ้ำ ดังนั้นหลายปีมานี้ผิงหนานอ๋องจึงช่วยพวกเขาสองคนแม่ลูกทำงานตลอด
สั่งสมอิทธิพลอำนาจ รีดไถเงินไปทั่วทิศทุกทาง ค้นหาของมีค่าหายาก-------
แม้แต่เรื่องที่ผิงหนานอ๋องต้องการจะเป็นฮ่องเต้ ก็เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งและความสามารถนี้ จะได้ให้แม่ของเจว๋กู่เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อตนเอง
เจว๋กู่มองไปทางเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านแม่บอกว่า ครั้งหนึ่งนางเคยมอบตราสัญลักษณ์ให้ท่าน ตอนนี้ตราสัญลักษณ์อยู่ที่ไหน?”
“อยู่นี่ ข้าจะไปเอาให้เจ้าเดี๋ยวนี้”
ผิงหนานอ๋องหันหลังเดินไปทางม้วนภาพต้นสนเขียวชอุ่มที่แขวนอยู่บนกำแพง ด้านหลังม้วนภาพคือช่องลับช่องหนึ่ง เขาอดทนต่อความเจ็บปวดและเปิดมันออก หยิบกล่องที่อยู่ข้างในออกมา
“นี่ก็คือตราสัญลักษณ์ที่แม่เจ้ามอบให้ข้าในตอนนั้น บอกว่าสามารถใช้ตราสัญลักษณ์นี้เข้าออกสถานที่แห่งนั้นได้ เพียงแต่ว่าหลายปีมานี้ข้าไม่เคยใช้มาก่อน แค่กๆ ตอนนี้สามารถไปดูได้แล้ว!” ผิงหนานอ๋องกล่าวพร้อมกับไอขึ้นมาอย่างรุนแรง
เจว๋กู่ไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ ยื่นมือไปรับตราสัญลักษณ์แผ่นนั้นมา หันหลังก็เดินจากไป
ผิงหนานอ๋องเห็นเขาจากไป ก็จะตามไปด้วย แต่ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเกินไป เลือดไหลตลอดทางที่มา สูญเสียพละกำลังไปเยอะมาก คนทั้งคนก็ยืนไม่มั่นคงแล้วด้วยซ้ำ
“เจว๋กู่ รอข้าด้วย ข้าจะไปพร้อมกับเจ้า!”
เจว๋กู่หยุดฝีเท้าลง แต่กลับไม่ได้หันกลับมา “ข้าไม่เคยบอกว่า จะพาท่านไปด้วย”
ผิงหนานอ๋องตกตะลึง “เจ้าว่าอะไรนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...