จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 715

“ข้าเห็นด้วย ในเมื่อพวกเรามีกันแค่ไม่กี่สิบคน จึงไม่ควรแยกย้ายกัน ทุกคนไปตามหาพร้อมกัน หากตามหาเจอทีมของหลีอ๋อง ใครก็ห้ามออมมือเด็ดขาด” หยุนไห่เทียนหัวเราะเย้ย

ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้สั่งสอนหลีอ๋อง ตอนนี้ในฐานะที่เขาเป็นทีมแอบลอบโจมตี จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องเป็นลูกผู้ชาย

พวกหยุนไห่เทียนรอวันนี้ รอมานานมากแล้ว ครั้งนี้เขาไม่มีทางออมมือเด็ดขาด

“ไม่เสียแรงที่เป็นพี่ชายใหญ่ของข้า ทุกคนออกเดินทาง” หยุนเสี่ยวลิ่วพูดขึ้นมาอย่างพอใจ

ทหารคนอื่นรีบตามไป พวกเขาล้วนเป็นคนสนิทกันหยุนไห่เทียน จึงเคียดแค้นแทนกับทุกสิ่งที่คุณหนูใหญ่หยุนเคยเจอมา

ระหว่างทาง พวกหยุนไห่เทียนเจอคนทีมสอง คนทีมหนึ่งต่างก็ไม่ลงมือ มีเพียงเจอทีมที่สาม เจอใครก็จัดการคนนั้น ฆ่ากำจัดทั้งหมด

เดิมก็เป็นทีมที่รวมตัวกันขึ้นมากะทันหัน ยังมีขุนนางบุ๋นมากมาย ล้วนเป็นพวกที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำศึก จึงสู้กับพวกหยุนไห่เทียนไม่ได้

มีคนตกรอบอย่างต่อเนื่อง พวกทหารที่คอยติดตามตะโกนขึ้นมา อีกคนหนึ่งได้ยินแล้วก็ตะโกนขึ้นมา ตะโกนจนมาถึงนอกกระโจมด้านนอกป่า แล้วทูลรายงานฮ่องเต้

คนที่อยู่ในป่าไม้ ได้ยินว่าคนของทีมสามตกรอบอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะคาดคิดไว้แล้ว แต่มีก็รวดเร็วเกินไปไหม

โดยเฉพาะจี้อวี๋ ทีมที่นางพามาไม่ได้ออกไปจากสถานที่ตั้งเลยมาตลอด เลือกที่จะหลบซ่อนอยู่ตรงที่ใกล้ที่สุด

แทนที่จะพาคนไปโจมตีคนอื่นที่อยู่ตั้งไกล สู้เอากำลังมาเฝ้าป้องกันสถานที่ของตนเองให้ดีดีกว่า จากนั้นให้ทุกคนหลบซ่อนตัวให้ดี แสร้งทำเป็นเหมือนการเฝ้าป้องกันนั้นเบาบาง

เมื่อมีคนหมู่โจมตีมาตรงค่ายของพวกเขา ก็ทำการปิดประตูตีสุนัข เหมือนจับตะพาบในไห

แบบนี้ไม่ต้องสูญเสียกำลัง สามารถรักษากำลังไว้ และยังสามารถฆ่ากำจัดคนที่มาหาถึงที่ได้ทั้งหมด ถือเป็นแผนการที่ดี

ดังนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืน จี้อวี๋กับลูกน้องของนางถึงแม้จะไม่ได้ไปไหน แต่ก็ฆ่าคนไปแล้วเกือบร้อยคน

ทหารทุกคนต่างชื่นชมจี้อวี๋อย่างมาก ไม่เสียแรงที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของแคว้นเทียนจิ่ว เฉลียวฉลาดมากจริงๆ

ได้ยินว่าคนของทีมสามตกรอบอย่างต่อเนื่อง จี้อวี๋ก็พูดขึ้นมาอย่างค่อนข้างกังวลว่า “หรือว่าเป็นโม่หลาน นางจู่โจมดุเดือดขนาดนี้เลยหรือ?”

“แม่ทัพจี้ งั้นพวกเราทำอย่างไรดี?” ทหารคนหนึ่งถามขึ้นมา

“หากนางจู่โจมตีแบบนี้ จะต้องสูญเสียกำลังอย่างมาก คนครึ่งหนึ่งตามข้าไปที่ป่าข้างหน้าเพื่อวางกับดักและซุ่มโจมตี คาดว่าไม่นานพวกเขาก็จะมาที่นี่แล้ว” จี้อวี๋พูดขึ้นมา

“ขอรับ”

ส่วนทางด้านโม่ฉือหานซึ่งมีความเชื่อมั่นมาตั้งแต่เริ่มแรก นำพาทุกคนเข้าจู่โจมตลอด ซึ่งก็ตกรอบไปหลายสิบคน

แต่ถึงสุดท้าย ยิ่งอยู่คนก็ยิ่งน้อย ผ่านไปหนึ่งวัน พวกโม่ฉือหานกลับหาคนทีมสองกับทีมหนึ่งไม่เจอเลย

“พวกเขาต้องหลบซ่อนตัวไว้แล้วแน่ ทุกคนระวังตัวด้วย เดินหน้าต่อไป” โม่ฉือหานพาทุกคนเดินหน้าโจมตีต่อไป

ได้ยินว่าสามารถแลกสิ่งของได้ เขารีบแลกของกินอาวุธมากมาย นำมาแจกจ่ายให้กับทุกคน

ทุกคนตื้นตันในน้ำใจของหลีอ๋องอย่างมาก ติดตามเขาไปข้างหน้าต่อ แต่ยังไงก็ไม่เคยผ่านการฝึกฝน ขุนนางบุ๋นหลายคน เดินมาทั้งวันก็ต่างเหนื่อยอย่างมากแล้ว

“ตีให้ตายข้าก็ไม่เดินแล้ว หลีอ๋องอยากเดินก็เดินไปเองเลย” ฟู่อี้เฉินนั่งลงบนพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน

ขุนนางบุ๋นคนอื่นอีกมากมายก็หมดแรง ล้มกองลงบนพื้น

โม่ฉือหานมองดูพวกเขาอย่างรังเกียจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อพวกเจ้าเดินไม่ไหว งั้นก็พักผ่อนอยู่ที่นี่ คนอื่นๆ ตามข้าบุกไปข้างหน้าต่อ ฉวยโอกาสตอนฟ้ามืด ตามหาทั้งสองทีมให้เจอ แล้วจัดการอย่างรวดเร็ว”

“ขอรับ” นายพลจำนวนหนึ่งกับคนที่มีฝีมือการต่อสู้ รีบติดตามไป

ฟู่อี้เฉินมองดูโม่ฉือหานจากไป แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยามว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้นั้นคือความสามัคคี เขากลับทิ้งพวกเราไว้แบบนี้ ไม่กลัวว่าพวกเราจะถูกฆ่าหรือ? ไม่มีน้ำใจเลยจริงๆ”

ในใจขุนนางบุ๋นคนอื่นก็รู้สึกแย่ แต่ไม่กล้าพูดออกมา

“พวกเจ้าว่าพวกเราจะทนเหน็ดเหนื่อยทั้งวันแบบนี้ไปทำไม ข้าเสียใจแล้วจริงๆ ไม่เป็นการหาความทุกข์ใส่ตัวหรือ ข้าไม่เล่นแล้ว” ฟู่อี้เฉินพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ