จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 729

แต่หมูพวกนั้นฟังคำพูดของวี่อู๋เสียรู้เรื่องเสียที่ไหน เนื้อตัวที่อ้วนท้วนส่ายหางไปมา เหยียบย่ำไปมาทั้งหมด วี่อู๋เสียร้องเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น

เขาเจ็บปวดยังไม่หาย หมูตัวอื่นก็มาอีก ทรมานทุกรูปแบบ เวลานี้วี่อู๋เสียอยากจะสับหมูพวกนี้เป็นชิ้นๆ เอาไปทำหมูตุ๋นน้ำแดงทั้งหมด

เขามีคนคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างนับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เกิด รักความสะอาดอย่างมาก ตอนนี้ถูกคนนำมาทิ้งในคอกหมู อยู่กับหมูโสโครกเหม็นเน่า ทำให้เขารู้สึกทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย ทหาร” วี่อู๋เสียรีบตะโกนร้องเรียกขึ้นมา

แต่รอบตัวเขานอกจากหมูหลายร้อยตัวแล้ว ก็ไม่มีใครเข้ามา ยิ่งไม่มีใครสนใจ

จู่ๆ วี่อู๋เสียก็คิดถึงตอนที่อยู่สำนักสิ้นรัก วิธีการทรมานเหยียบหยามตนเองขนาดนี้ เขาไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะต้องเป็นจวินหย่วนโยว

“เจว๋กู่ชั่ว ไม่ช่วยเขาออกไป ชั่วช้าที่สุด ทหาร ข้าต้องการพบจวินหย่วนโยว เขามีเงื่อนไขอะไรก็เรียกร้องมาได้เลย ขอเพียงให้ข้าได้ออกไปจากที่นี่ ข้าไม่อยากอยู่กับฝูงหมูพวกนี้ ช่วยด้วย” วี่อู๋เสียร้องตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง

ด้านนอกคอกหมูมีคนของจวนซื่อจื่ออยู่แล้ว ได้ยินเสียงร้องขอชีวิตข้างใน ก็รีบไปรายงานซื่อจื่อเฟย

หลังจากจวินหย่วนโยวฟังแล้ว ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “ปล่อยให้เขาอยู่ในนั้น กล้าแตะต้องลูกชายของข้าก็ควรที่จะคิดได้ถึงผลที่จะตามมา ห้ามให้เขาตาย อีกหนึ่งเดือนค่อยมารายงาน”

“ขอรับ” คนคนนั้นรีบจากไปทันที

เมื่อหยุนถิงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเที่ยงวันที่สองแล้ว ทานข้าวอย่างง่ายๆ จากนั้นหยุนถิงก็ปรึกษากับจวินหย่วนโยว นับจากนี้เป็นต้นไป ต้องฝึกความสามารถของลูกทั้งสองให้อยู่รอดในป่า

ผ่านเรื่องของเสี่ยวเทียนในครั้งนี้ หยุนถิงยิ่งมุ่งมั่นกับการตัดสินใจของตนเอง

ที่ผ่านมา คิดมาตลอดว่าพวกเขายังเด็กเกินไป คิดว่ารอให้พวกเขาโตอีกหน่อย แต่การหายตัวไปอย่างกะทันหันของเสี่ยวเทียนทำให้นางเข้าใจ เวลาไม่รอคอยคน

เจ้าทำใจกับลูกของตนเองไม่ลง แต่คนร้ายไม่เห็นว่าลูกของเจ้ายังเด็ก

ดังนั้นหยุนถิงจึงรีบพาลูกทั้งสองคน ไปฝึกฝนที่เรือนด้านหลัง พร้อมทั้งจิ่งไป๋ ม่อเซิงด้วย

พูดว่าฝึกฝน แต่เพียงแค่สอนวิธีกับความสามารถในการเอาชีวิตรอดบางอย่างให้พวกเขาเท่านั้น

ลูกทั้งสองคนเรียนรู้อย่างตั้งใจ โดยเฉพาะจวินเสี่ยวเทียน เขารู้ว่าแม่หวังดีกับเขา

จวินหย่วนโยวมองอยู่ด้านข้างตลอด สั่งคนยกขนมกับน้ำหวานมา ระหว่างที่พวกเด็กๆพัก เขาก็รีบปลอบโยนอย่างห่วงใย

พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วครึ่งเดือน แล้วก็ถึงวันครบรอบวันเกิดของจวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียน

ทั่วทั้งจวนซื่อจื่อเตรียมพร้อมแล้วตั้งแต่แรก หยุนเฉิงเซี่ยงจัดเตรียมงานด้วยตนเอง เห็นจวนซื่อจื่อเป็นเหมือนบ้านของตนเอง เช้ารุ่งวันนี้ ทุกคนต่างช่วยกันจัดเตรียม

เด็กทั้งสองคนตื่นขึ้นมาแล้วก็เห็นความรื่นเริงภายในจวน ต่างก็ชื่นชอบอย่างมาก วันนี้หยุนถิงไม่ได้ให้พวกเขาไปฝึกฝน ให้พวกเขาได้พักผ่อนหนึ่งวัน

หยุนเฉิงเซี่ยงพาเด็กทั้งสองคนไปเล่น หยุนถิงเข้าครัวด้วยตนเอง ทำเมนูอาหารที่พวกเด็กๆชอบทานเต็มโต๊ะ

ซวนอ๋องรีบมาตั้งแต่เช้า มอบป้ายสัญลักษณ์ให้เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนคนละอัน ซึ่งสามารถที่จะสั่งการกองกำลังลับของเขา ล้ำค่าขนาดนี้ จวินหย่วนโยวยังตกตะลึง

“คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะใจกว้างขนาดนี้ ขอบใจมาก” จวินหย่วนโยวพูดขึ้น

ซวนอ๋องกลอกตามองบน เมื่อหันไปมองจวินเสี่ยวเหยียน สายตากลับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนรักใคร่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้อง ข้าให้เด็กทั้งสองคน ไม่ได้ให้เจ้า”

จวินเสี่ยวเหยียนเห็นโม่เหลิ่งเหยียนมา ก็รีบวิ่งมาหา พร้อมซบกอดแนบอกเขาไม่ยอมออกมา

จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้าง ยื่นมือกอดความอ้างว้าง เขาไม่เข้าใจ ทำไมเสี่ยวเหยียนถึงชอบเขาขนาดนี้

โม่หลานกับโม่ฉีเฟิงก็มาแล้ว คนหนึ่งให้ดาบยาว คนหนึ่งให้มีดเล่มโต ไม่ดูก็รู้เป็นฝีมือตระกูลแม่ทัพ

หยุนถิงให้อาวุธลับแก่ลูกสองคนคนละอันเป็นของขวัญ เสวี่ยเชียนโฉวก็ติดตามมาด้วย ให้โสมม่วงพันปีเป็นของขวัญ

คนของตระกูลหยุนต่างก็ทยอยมา คนอื่นเมื่อรู้ข่าว ก็นำของขวัญต่างๆมายังจวนซื่อจื่อ

หยุนถิงไม่ได้จัดงานใหญ่โต เรียกแค่คนของตระกูลหยุน ยังมีเพื่อนสนิททานข้าวด้วยกันอย่างง่ายๆ ล้วนต่างก็รู้จักกันดี จึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีคนคิดไม่ซื่อแทรกซึมเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ