เมืองนี้ใหญ่กว่าสองเมืองที่พวกเขาพบเจอมาก่อนหน้านี้เสียอีก หนำซ้ำนี่เป็นเพียงรอบนอก ใช้เวลาไม่นานนักจวินหย่วนโยวก็พานางวนครบรอบหนึ่งแล้ว ถึงได้กลับไป
หลังกลับมาถึงห้อง หยุนถิงรีบหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจากในมิติ วาดแผนที่ลักษณะของทั้งเกาะออกมา
“มีแผนที่อันนี้แล้ว ก็สามารถเห็นได้ชัดเจนเยอะมาก ถ้ามีคนอื่นเข้ามาอีก มองแวบเดียวก็เห็นได้ชัดเจน!” หยุนถิงกล่าว
“อืม ถิงเอ๋อร์คิดได้รอบคอบเชียว!” จวินหย่วนโยวยื่นมือไปกอดหยุนถิงไว้
เพราะออกไปบินมารอบหนึ่ง ลมเย็นของเกาะยามค่ำแรงมาก ถึงแม้ร่างกายของจวินหย่วนโยวถูกเป่าจนเย็นมาก แต่ไฟในร่างกายนั้นกลับลุกโชนอย่างน่าประหลาด
อยู่กลางทะเลเป็นเวลาเกือบจะสองเดือน อยู่ด้วยกันกับคนกลุ่มหนึ่งมาตลอด ต่อให้จวินหย่วนโยวอยากทำอะไรสักนิดก็ทำไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดทางมีอันตรายมากมาย จวินหย่วนโยวก็ไม่กล้ามีความคิดอะไร กลัวถูกคนลอบโจมตีหรือวางแผนร้ายใส่
เวลานี้อยู่ในโรงเตี๊ยม ห้องไม่ใหญ่มากมีเพียงสองคน ในที่สุดเขามีโอกาสอยู่กับหยุนถิงตามลำพังแล้ว จวินหย่วนโยวยังอดทนไหวที่ไหน
“ถิงเอ๋อร์ ข้าอยาก!” จวินหย่วนโยวขยับเข้ามา กอดหยุนถิงไว้
หยุนถิงได้ยินน้ำเสียงลุ่มลึกทุ้มต่ำของเขา ชั่วขณะหนึ่งเข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไร ชั่วพริบตาเดียวหน้าแดงจนถึงหลังคอ
ถึงแม้ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังมีลูกอีกสองคน เวลานี้จวินหย่วนโยวเข้าใกล้เพียงนี้ แม้กระทั่งลมหายใจอบอุ่นของเขายังพ่นอยู่บนต้นคอของหยุนถิง ชั่วขณะนั้นหยุนถิงใจเต้นเร็วขึ้น
“ท่านพี่!”
เสียงดูงงงวยอยู่บ้าง และอบอุ่นอยู่บ้าง ฟังจนไฟที่หน้าอกนั้นซึ่งจวินหย่วนโยวเพิ่งกดลงไว้ ชั่วพริบตาลุกไหม้ขึ้นมา ทั่วทั้งตัวร้อนผ่าวถึงที่สุด
จวินหย่วนโยวยังอดทนได้ที่ไหนอีก พลิกตัวกดหยุนถิงไว้ด้านล่างตัว บ้าคลั่งทั้งคืน จนกระทั่งฟ้าสว่าง
เช้าวันต่อมา คนอื่นๆ ลุกขึ้นกันหมดแล้ว แต่ประตูห้องของหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวยังคงปิดสนิท
“นายท่าน พวกเขาคงไม่ได้แอบออกไปกันแล้วกระมัง?” อี้ชิวถาม
มุมปากฮวาเชียนจั่นวาดขึ้น “เมื่อคืนจวินหย่วนโยวทรมานมาทั้งคืน ตอนเช้าต้องลุกไม่ไหวแน่ ลูกน้องของเขาล้วนอยู่ที่นี่หมด ยังกลัวพวกเขาผิดสัญญาอีกหรือ”
เมื่อคืนฮวาเชียนจั่นจงใจจัดห้องของตนเองไว้ข้างห้องของหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว ก็คือกลัวมีเรื่องไม่คาดฝันอะไร
ถึงแม้เมื่อคืนหยุนถิงพยายามจะควบคุม ไม่กล้าให้ตนเองร้องเสียงดังเกินไป แต่ฮวาเชียนจั่นที่หูดีอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไรยังได้ยินแล้ว
จวินหย่วนโยวคนนี้ ยังโหดร้ายเสียจริงเชียว
“เจ้าค่ะ!”
อี้ชิวรอจนถึงช่วงเที่ยง ก็ไม่เห็นหลิงเฟิงและคนอื่นๆ ออกมา ชั่วขณะนั้นนั่งไม่ติดแล้ว “นายท่าน เหตุใดไม่เห็นพวกเขาออกมาเลย พวกเขาไม่ออกมากินข้าวหรือเจ้าคะ?”
“พวกเขาออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถึงตอนนี้ไม่ได้กลับมา นี่คือหน้าที่ในฐานะองครักษ์ลับ น่าจะอยากใช้ความเร็วไวที่สุดคุ้นเคยกับเมืองนี้ จะได้รับมือกับสถานการณ์ใดๆ สะดวกขึ้น!” ฮวาเชียนจั่นตอบ
วินาทีนี้อี้ชิวอดเลื่อมใสเจ้านายไม่ได้เลย คาดไม่ถึงเดาความคิดของพวกเขาได้
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวพักอยู่คราวนี้เป็นเวลาสามวัน หลังจากสามวันทั้งสองคนถึงออกไปข้างนอก
ย่อมไม่ใช่ว่าสามวันอยู่แต่ที่โรงเตี๊ยม แต่ว่าแปลงโฉมออกไปเดินเที่ยว สามวันนี้พวกเขาก็รู้จักทั้งเมืองนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
วันที่สี่ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวถึงออกมา หลงยีและคนอื่นก็ออกมาครบหมด ส่วนที่สวมใส่บนตัวพวกเขาก็เป็นเสื้อผ้าของเมืองนี้ หยุนถิงปรับแต่งรูปโฉมภายนอกให้ทุกคนนิดหน่อย พอทุกคนออกมาอีกทีหนึ่งรูปโฉมดูธรรมดาลงแล้ว
ฮวาเชียนจั่นมองเห็นพวกเขา ก็อดตกใจไม่ได้ “วิชาแปลงโฉมของพวกเจ้านี้ยอดเยี่ยมมากนัก ข้าเกือบจะจำไม่ได้”
“มันแน่อยู่แล้ว วิชาแปลงโฉมของเจ้านายข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้” หลงเอ้อพูดอย่างภูมิใจ
“คิดว่าทุกคนพักผ่อนมาหลายวันแล้ว คงพักกันเต็มที่แล้ว วันนี้สำนักหมอเทวดากับสำนักบู๊เซียนคัดเลือกศิษย์พอดี พวกเจ้าสามารถแทรกซึมไปในนั้นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...