“เพราะเขาเฉลียวฉลาดมีพรสวรรค์ ใจกล้าละเอียดอ่อน ไม่ได้คร่ำเคร่งกฎจนไม่รู้จักพัฒนาตนเอง แถมยังมีความคิดเป็นของตนเอง ไม่เอาแต่ย่ำอยู่กับที่เพราะคำพูดอาจารย์ ข้าต้องการคนเช่นนี้
ถึงเจ้าจะร่ำเรียนในเรือนอวี๋มาหกปี เย่อหยิ่งจองหอง รังแกศิษย์ใหม่ ไม่เห็นผู้อาวุโสอยู่ในสายตา ไม่วางใจไว้ในเรื่องการเรียนแพทย์ แต่กลับเอาแต่คิดกำจัดศัตรู แบ่งพรรคแบ่งพวก ดังนั้นข้าเลยไม่เคยคิดจะถ่ายทอดวิชาฝึกกู่ให้กับเจ้า
ในเมื่อเจ้าทำเรื่องเมื่อคืนออกมา ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าไว้อีก ใครก็ได้ โยนโอจื่อโฝวทิ้งลงถ้ำหลังเขา ให้มันเอาตัวรอดเอาเอง!” น้ำเสียงผู้อาวุโสอวี๋เย็นชาไร้หัวใจ โหดเหี้ยมยิ่งนัก
โอจื่อโฝวอึ้งบื้อไปเลย นี่คืออาจารย์ที่ตนเคารพนับถือคนนั้นรึ การติดตามร่ำเรียนตลอดหกปีของตนกลับโอจื่อโฝวในใจเขาเพียงนี้
โอจื่อโฝวยิ้มเย็น หัวเราะไปหัวเราะมาน้ำตาไหลพราก
หัวใจ ด้านชาแล้ว
คนเมื่อคืนจะเป็นตนหรือไม่นั้นไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือ อาจารย์ไม่เคยคิดจะถ่ายทอดให้ตนมาก่อนเลย
วินาทีนี้โอจื่อโฝวถึงพบว่าตนไม่เคยรู้จักเลย
เขาดูแปลกหน้า โหดเหี้ยมขนาดนั้น
ความเจ็บปวดบนร่างกายราวกับมดนับหมื่นรุมกัดกิน เส้นชีพจรทั่วร่างกระตุกพันกันเป็นปม เขาเจ็บปวดจนอยากตาย โอจื่อโฝวเจ็บจนอยู่ไม่สู้ตาย
เสียงร้องนั้นทำให้คนที่ได้ฟังขนหัวลุก น่าอนาถนัก
“ยังไม่รีบพามันออกไปอีก!” ผู้อาวุโสอวี๋ตะคอกดังอย่างเดือดดาล
“ขอรับ!” ฉินเจี่ยรีบนำคนออกไปด้วยตัวเองทันที
“คนอื่นแยกย้ายกันไปได้แล้ว” ผู้อาวุโสอวี๋สั่งเสียงเย็นพลางหมุนตัวจากไป
ศิษย์คนอื่นรีบแยกย้ายไปทันที ใครก็ไม่คิดว่า ศิษย์พี่โอจื่อโฝวที่อยู่เหนือคนอื่นและอยู่ใต้อาจารย์เพียงผู้เดียวจะมามีจุดจบเช่นนี้
โดยเฉพาะศิษย์พวกนั้นที่ติดสอยห้อยตามโอจื่อโฝวก่อนหน้านี้ พากันอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน
ศิษย์พี่ใหญ่ที่พวกเขาภูมิใจหนักหนากลับมาโดนศิษย์เข้าใหม่คนหนึ่งเบียดลงไป ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่เชื่อ แต่อาจารย์พูดอย่างนี้ออกมาต่อหน้าทุกคน พวกเขาจำต้องเชื่อ
มีหลายคนที่เคยรังแกหยุนถิงมาก่อน ตอนนี้ได้แต่เสียใจกลัดกลุ้มยิ่งนัก หากรู้ก่อนว่าอาจารย์จะให้ความสำคัญกับศิษย์ใหม่ขนาดนี้ พูดยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางหาเรื่องหยุนถิงแน่
บัดนี้ทุกอย่างสายไปแล้ว
กว่าหยุนถิงจะตื่นมาก็เที่ยงกว่าแล้ว นางแต่งกายเรียบร้อยก็ไปกินข้าวที่ห้องครัว
สุดท้ายพอถึงห้องครัว ศิษย์ทุกคนที่กำลังกินข้าวอยู่พากันเข้ามาแสดงความยินดีกับนาง ทำเอาหยุนถิงงุนงงไปหมด
“สหายถิงหยุน ยินดีด้วยที่เจ้ากลายเป็นศิษย์ก้นกุฏิของอาจารย์!” ฉินเจี่ยเดินเข้ามาพูดอย่างเป็นกันเอง
“ศิษย์พี่ ท่านรู้ได้อย่างไรกัน?” หยุนถิงแสร้งทำไม่เข้าใจ
“ตอนนี้ทั่วทั้งเรือนอวี๋ต่างรู้กันทั่วแล้ว เจ้าหนูนี่ช่างมีบุญนักนะ ต่อไปศิษย์พี่ยังต้องพึ่งพาเจ้าอีก อาหารโต๊ะนี้ข้าสั่งมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ กินให้สบายได้เลย!” ฉินเจี่ยดึงหยุนถิงไปที่โต๊ะตน
หยุนถิงมองอาหารเต็มโต๊ะ ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นาน
นางแน่ใจเลยว่า ฉินเจี่ยนี่จงใจแน่ๆ หากเป็นศิษย์พี่คนอื่นเลี้ยงข้าวนางต้องดีใจแน่ แต่ยาพิษเต็มโต๊ะขนาดนี้ หยุนถิงไม่กล้ากินจริงๆ
“ขอบคุณศิษย์พี่มาก แต่อาหารมากขนาดนี้ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก” หยุนถิงอิดออด
“นี่ศิษย์น้องไม่ไว้หน้าข้ารึ?” ฉินเจี่ยสีหน้าเย็นชาลงทันที
“แน่นอนว่าไม่ใช่ สามารถทำให้ศิษย์พี่เลี้ยงข้าวได้นี่เป็นบุญของข้านัก ก็ข้าเห็นว่ามันมากเกินไปไง กินไม่หมดก็สิ้นเปลืองสิ” หยุนถิงอธิบายทันที
“มิเป็นไร เงินแค่นี้ข้ายังพอมี ศิษย์น้องเชิญเถอะ!” สายตาฉินเจี่ยมีแววสงสัยเคลือบแคลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...