จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 92

งานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ หยุนถิงสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเมืองหลวง ทุกคนต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ แพร่กระจายออกไปเริ่มจากสิบ จากสิบเป็นร้อย แค่เพียงคืนเดียวหยุนถิงก็ได้ลบล้างชื่อเสียงของนางในฐานะตัวสวะไร้ค่า แล้วถูกเรียกว่าเป็นสตรีที่เก่งกาจอันดับหนึ่งในเมืองหลวง

เริ่มแรกทุกคนต่อให้ถูกตีตายก็ไม่มีใครเชื่อ แต่เพราะมีคนที่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดจำนวนมาก บรรดาคนรับใช้ที่ทำงานจิปาถะก็มีนับไม่ถ้วน ทั้งหมดล้วนเห็นด้วยตาของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องที่หยุนถิงประชันการแต่งกลอนและวาดภาพชนะฟู่อี้เฉิน ฟู่อี้เฉินคนนี้เป็นถึงฟู่ซื่อจื่อคนปัจจุบันเชียวนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องชายสายเลือดแท้ของฝ่าบาท หลานชายฝั่งมารดาสายเลือดแท้ของไทเฮา เขาถึงกับพ่ายแพ้แล้ว ดังนั้นย่อมเป็นเรื่องจริงไม่แหกตาแน่

เมืองหลวงโกลาหลดั่งถูกระเบิดลูกใหญ่ทิ้งลงกลางเมืองก็ไม่ปาน ตัวสวะไร้ค่าที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างคนหนึ่ง จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาโต้กลับคำครหา กลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ ยังมีอะไรที่มันชวนสั่นสะเทือนได้มากกว่านี้อีกล่ะ

เวลานี้ ณ.จวนซื่อจื่อ

คนรับใช้ทั้งหมดเข้ามารายล้อมอยู่รอบ ๆ หลิงเฟิงกับหลงเอ้อ ฟังพวกเขาเล่าเรื่องที่ฮูหยินเอาชนะฟู่อี้เฉินอย่างไรในงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่ แต่ละคนล้วนตื่นเต้นยินดีไม่หาย

“ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ ว่าฮูหยินของพวกเราต้องไม่ใช่คนธรรมดา แค่ดูจากชานมและผลไม้ชุบที่นางทำขึ้นมาเหล่านั้น ก็รู้แล้วว่าต้องเป็นยอดฝีมือ” คนรับใช้คนหนึ่งพูดด้วยความชื่นชม

“เจ้านี่มันเป็นจอมตะกละจริง ๆ เลย รู้จักแต่เรื่องกิน”

“ชอบกินแล้วจะทำไมล่ะ? ทุกวันนี้ของกินทุกอย่างที่ฮูหยินทำออกมา ล้วนทำเงินได้มากมายในร้านสุราของซื่อจื่อ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้หรอกนะ”

“แต่จะพูดไปก็ถูกนะ ซื่อจื่อของพวกเราทั้งฉลาดมากความสามารถขนาดนั้น คนที่ท่านแต่งงานด้วยจะต้องไม่ใช่พวกอ่อนด้อยแน่ ข้าตัดสินใจแล้วว่านับจากนี้ไปเทพธิดาในใจข้าจะไม่ใช่ซ่างกวนหรูอีกต่อไป แต่เป็นฮูหยินของพวกเรา”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วสิ แม้ว่าซ่างกวนหรูจะเป็นคุณหนูผู้เพียบพร้อม แต่ก็มักทำตัวสูงส่งห่างเหินอยู่เสมอ ไหนเลยจะทำตัวติดดินเหมือนฮูหยินของพวกเรา จะอาหารหรือเครื่องดื่มเลิศรสก็เอามาแบ่งปันให้พวกเราทุกอย่าง”

"ถูกต้อง ดูซิว่าจากนี้ไปใครยังจะกล้าพูดว่าฮูหยินของพวกเราเป็นตัวไร้ประโยชน์อีก นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ ๆ เลยล่ะ หลีอ๋องตอนนี้คงไม่ใช่ว่านึกเสียใจในภายหลังแทบตายไปแล้วหรอกนะ"

หลงเอ้อได้ยินคำชื่นชมและยกย่องของทุกคนที่มีต่อหยุนถิง ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดียิ่งกว่าตอนที่ตัวเองได้รับคำชมเสียอีก

หลงซื่อเดินเข้ามา แล้วดึงตัวหลงเอ้อไปอีกด้าน: "หลงเอ้อ ปกติแล้วข้าก็ดีต่อเจ้าไม่น้อยถูกไหม เจ้าพอจะช่วยบอกฮูหยินให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ว่าหลังจากนี้ข้าก็อยากขอเป็นผู้ติดตามนางด้วย ?"

หลงเอ้อรีบสับขาหลบทันที สร้างระยะห่างพลางพูดว่า: "ข้าไม่ได้รู้จักสนิทสนมกับเจ้า ฮูหยินเรียกชื่อข้าเลือกข้าเป็นผู้ติดตาม นั่นย่อมแปลว่าเจ้าไม่เข้าตาฮูหยิน เจ้าล้มเลิกความคิดนี้เสียเถอะ"

“เชี่ยเอ๊ย! พูดจาหมา ๆ อะไรแบบนี้ หมายความว่ายังไงที่บอกว่าข้าไม่เข้าตาฮูหยิน? ข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ไม่ช่วยก็ช่างเถอะ พรุ่งนี้ข้าไปแนะนำตัวกับฮูหยินเองก็ได้” หลงซื่อเดินจากไปด้วยอารมณ์โกรธจนเดือดปุด ๆ

ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาหลงเอ้อขึ้นมาทันที พากันพูดยกยอปอปั้นเขา นี่ทำให้หลงเอ้อรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอย่างมาก จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเขาติดตามฮูหยิน ดูจะมีอนาคตไกลกว่าการติดตามซื่อจื่อเสียอีก

หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวที่อยู่ในห้องเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ด้วยความที่กินเลี้ยงในงานวันเกิดมาอิ่มเกินไป หยุนถิงยังไม่อยากเข้านอนทันที จึงฝึกโยคะบนเตียง

เมื่อจวินหย่วนโยวเห็นการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของนาง ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย: "นี่เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?"

"ฝึกโยคะ เมื่อหัวค่ำกินอาหารมากเกินไป เลยต้องย่อยสักหน่อย นี่คือการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของร่างกาย ทำให้ผู้หญิงมีรูปร่างที่ดีได้" หยุนถิงอธิบาย

ตอนนี้เองจวินหย่วนโยวถึงค่อยเข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นวิธีการรักษารูปร่างลักษณะนี้ การเคลื่อนไหวเหล่านั้นแปลกมากจริง ๆ เขาเห็นร่างของหยุนถิงม้วนจนกลายเป็นเหมือนลูกบอลกลม ๆ จุนหยวนโยวจึงลุกเดินไปที่โต๊ะ แล้วหยิบพู่กันกับกระดาษมาวาดรูป

จวินหย่วนโยวตวัดพู่กันสองสามจังหวะ แล้วหยุด เงยหน้าขึ้นมองหยุนถิงอีกแวบหนึ่ง แล้ววาดต่อ

“ซื่อจื่อ นี่เจ้ากำลังวาดรูปข้าหรือ?” หยุนถิงเริ่มรู้สึกสนใจ

"อื้ม วันนี้เจ้าวาดรูปให้ข้าหนึ่งรูป ข้าก็วาดให้เจ้าหนึ่งรูป  ปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นปฏิบัติกับตัวเอง ถือเป็นมารยาทอันดี" จวินหย่วนโยวตอบ

"ดีเลย ถ้าอย่างนั้นซื่อจื่อช่วยวาดข้าให้สวย ๆ หน่อยล่ะ" หยุนถิงพูดพลางหัวเราะคิก ๆ

"ไม่มีปัญหา"

"ซื่อจื่อ วันนี้ข้าทำให้เจ้าได้หน้ามากเลยใช่หรือไม่?" หยุนถิงพูดอย่างภาคภูมิใจ

“เป็นเช่นนั้นจริง” จวินหย่วนโยวหวนนึกถึงท่วงท่าอันน่าตื่นตะลึงของนางวันนี้ มุมปากจึงอดยกขึ้นมาเป็นรอยยิ้มไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ