ดวงตาปิดเล็กน้อยของเวินฉิงพลันโบกโพลงขึ้น แต่ก็เพียงแค่ตะลึงไม่กี่วินาที จากนั้นก็บอกอย่างเรียบเฉยไม่ลนลานว่า “ซวนอ๋องนี่ช่างกล้าจริงนะ มาบุกรุกจวนเจ้าเมืองของข้ากลางดึก แล้วยังเข้าใกล้ข้าขนาดนี้ หรือว่าซวนอ๋องอยากจะร่วมหอสุขสันต์กับข้ารึ?”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอด ทั้งหยอกล้อ และยั่วยวน
โม่เหลิ่งเหยียนพลันสีหน้าเย็นชาลงทันที พลางสะบัดนางออกอย่างรังเกียจ
เวินฉิงเองก็ไม่โกรธ จังโต๊ะข้างๆพยุงตัวยืนขึ้น พลางเอนกายยืนพิง เอี้ยวคอมองโม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ด้านหลัง
ใบหน้าเย็นชาทุ้มลึก ประหนึ่งรูปแกะสลักเทพสรรค์สร้าง งดงามเยี่ยมยอดอย่างไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด ดวงตาสีดำคู่นั้นประหนึ่งน้ำแข็งเย็นหมื่นปี เย็นอย่างไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด เฉียบขาดและอันตราย ประหนึ่งว่ามองแวบเดียวก็อ่านใจคนได้ทะลุปรุโปร่งทันที
ถึงชุดจะเป็นสีดำธรรมดา แต่กลับไม่กระทบความเย็นยะเยือกหล่อเหลาของซวนอ๋องเลย
เวินฉิงพลันมองโม่เหลิ่งเหยียนอย่างเคลิบเคลิ้ม “ที่แท้ก็เป็นซวนอ๋องที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่แคว้นนี่เอง หน้าตาดีไม่น้อยเลยนี่”
โม่เหลิ่งเหยียนตะคอกดังอย่างเดือดดาล “หากจะพล่ามเหลวไหลอีก ข้าไม่รังเกียจที่จะส่งเจ้าไปพบเจ้าเมืองคนก่อน!”
น้ำเสียงเย็นเยียบเฉียบขาด อย่างห้ามบิดพลิ้วโดยเด็ดขาด
เวินฉิงแสร้งทำท่าหวาดกลัว และยังเอามือไปลูบเส้นผมที่หน้าอก “ข้ากลัวนัก แต่พวกท่านบุกรุกห้องข้ากลางดึก ไม่กลัวข้าร้องเรียกคนรึ?”
“ในใต้หล้านี้ยังไม่มีใครห้ามข้าไว้ได้ ทำไมเจ้าต้องฆ่าเจ้าเมืองของเมืองชิ่งหรวน และยังขโมยเสบียงด้วย?” โม่เหลิ่งเหยียนถามอย่างตรงประเด็น
“รู้สึกว่าสนุกน่ะสิ”
“เจ้าฆ่าเจ้าเมืองและยังแย่งชิงเสบียง เพียงเพราะว่าสนุกรึ?” โม่จิ่วที่ตามเข้ามาจากด้านนอกก็ใบ้กินไปเลย
“เบื่อไม่มีอะไรทำดังนั้นเลยหาทางเป็นเจ้าเมืองดูน่ะ เดิมก็รู้สึกไมมีอะไร แต่วันนี้ซวนอ๋องยังมาหาข้าเลย รู้สึกว่าเป็นเจ้าเมืองนี่ก็ไม่เลวนะ” เวินฉิงพูดยิ้มๆ พลางชม้ายชายตาให้โม่เหลิ่งเหยียน
โม่เหลิ่งเหยียนยังอยากพูดอะไร จู่ๆก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมา ร่างกายเริ่มร้อน เรี่ยวแรงค่อยๆหายไป เขาพลันเงยหน้าขึ้นมองสตรีตรงหน้าทันที
นางที่อยู่ในชุดบางเบาสีแดงอันห่อหุ้มผิวขาวราวหิมะเอาไว้ ใบหน้างดงาม ไม่เหมือนกับความเย็นชาเย่อหยิ่งแบบหยุนถิง สตรีตรงหน้าคิ้วตางดงามเย้ายวนยิ่งนัก ดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นเล็กน้อย อรชรแน่งน้อยนัก การยกมือย่างเท้ายิ่งดูเย้ายวนยิ่งนัก ประหนึ่งนางปีศาจที่กำลังยั่วยวนคน
โม่เหลิ่งเหยียนพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นที่แทบจะกลั้นไว้ในกายไม่อยู่ สีหน้าบูดบึ้งไม่น่าดู “เจ้าทำอะไร?”
“ท่านอ๋อง เป็นกระไรรึ?” โม่จิ่วพึ่งพูดจบ ก็ตัวอ่อนยวบลงพี้นอย่างไร้เรี่ยวแรงทันที
เวินฉิงหัวเราะออกมา “ซวนอ๋องที่หล่อเหลาสง่างาม น่าเกรงขามมาหาถึงที่ทั้งที เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรล่ะ?”
น้ำเสียงเย้ายวน ล่อลวง ทำให้โม่เหลิ่งเหยียนรู้สึกร้อนรุ่มทั่วร่างฉับพลัน อสูรร้ายที่หลับลึกอยู่ในใจพลันโดนปลุกให้ตื่นขึ้น
เขาได้รับการฝึกฝนนานาชนิดตั้งแต่เล็ก รวมถึงยาปลุกกำหนัดและยาพิษต่างๆด้วย ของพวกนั้นปกติแล้วใช้ไม่ได้ผลกับเขา แต่สตรีตรงหน้านี้กลับทำให้เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้ เห็นชัดว่าเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก
มือที่อยู่ในแขนเสื้อของโม่เหลิ่งเหยียนกำแน่น “ดังนั้น เจ้าวางหลุมพรางดักข้ารึ?”
“ใช่ ข้าได้ยินว่า ในใต้หล้านี้นอกจากหยุนถิงแล้ว ซวนอ๋องก็มิมีสายตาแลสตรีนางใดอีกเลย ดังนั้นข้าเลยวางแผนการใหญ่ขนาดนี้ เพื่อล่อให้ท่านมา คืนนี้ท่านหนีไม่รอดแน่ ท่านวางใจเถอะ หลังจากคืนนี้ไปท่านก็จะเป็นคนของข้าแล้ว” เวินฉิงบอก พลางยื่นมือไปดึงสายรัดเอวของโม่เหลิ่งเหยียนออก
เพียงแต่มือยังไม่ทันโดน ก็โดนโม่เหลิ่งเหยียนคว้าจับข้อมือไว้หมับ “เจ้าคู่ควรรึ!”
เวินฉิงยังไม่ทันรู้ตัว ก็โดนโม่เหลิ่งเหยียน ซัดฝ่ามือใส่จนสลบ โม่เหลิ่งเหยียนที่เดิมทรมานนักพลันกลับเป็นปกติทันที
โชคดีที่มียาของหยุนถิงที่ให้ไว้ก่อนออกเดินทางมา ก่อนเข้าจวนเจ้าเมือง โม่เหลิ่งเหยียนก็บอกให้ทุกคนกินคนละเม็ดก่อนเลย ถึงจะเรี่ยวแรงหายไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...