จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 974

“เป็นผู้ชายคนหนึ่ง หน้าซีดมาก ดูเหมือนป่วยหนัก” องครักษ์ตอบ

หยุนถิงขมวดคิ้ว นางเพิ่งมาที่นี่ไม่ถึงสองวันก็มีคนได้ยินชื่อเสียและมาหานาง ไม่ใช่ว่ามีคนคอยเฝ้าตามนางก็คือมีคนคอยเฝ้าตามจวนเจ้าเมืองโดยตลอด

“ให้เขาไปเลย ซื่อจื่อเฟยไม่มีเวลารักษาเขา” จวินหย่วนโยวส่งเสียงหึอย่างเย็นชา

“ขอรับ!” องครักษ์รีบไปแจ้งตามคำสั่ง

หยุนถิงเห็นแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่นางคิดในใจนั้นจวินหย่วนโยวก็คงได้นึกถึงแล้วเหมือนกัน ถึงปฏิเสธอย่างเย็นชา

“ท่านพ่อ ทำไมไม่รักษาโรคให้คนนั้นนะ” จวินเสี่ยวเทียนถาม

“เพราะคนนั้นไม่ได้ป่วยจริง แต่กลับจงใจมาสอดแนมข่าวหรือไม่ก็คือคิดทำอะไรไม่ดีต่อแม่ของพวกเจ้า เราเพิ่งมาที่นี่ไม่กี่วันก็มีคนมาขอการรักษา ข่าวมันแพร่เร็วเกินไปไหม” จวินหย่วนโยวอธิบาย

“เข้าใจแล้ว” จวินเสี่ยวเทียนพยักหน้าอย่างแรง

ณ นอกจวนเจ้าเมือง

เมื่อหรันจู๋ซีนั่งอยู่บนรถม้านั้นได้ยินคำตอบขององครักษ์ก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับยกรอยยิ้มที่แฝงความหมายรู้สึกสนุก

ถ้าหยุนถิงจะยินยอมอย่างง่ายๆ มันก็ไม่สนุกแล้ว

“ไปกันเถอะ” หรันจู๋ซีพูดอย่างเนิบๆ

คนลากรถรีบขับรถม้าไปจากที่นี่ หลงยีที่เพิ่งกลับมารายงานเสร็จเห็นเข้าก็รีบแอบไล่ตามไป

รถม้าเคลื่อนตรงไปที่เมือง มีเสียงไอของหรันจู๋ซีจากภายในรถ เห็นได้ชัดว่าอาการไอของเขาค่อนข้างรุนแรงและในที่สุดรถม้าก็หยุดที่โรงเตี๊ยมที่ใกล้สุด

คนลากรถประคองหรันจู๋ซีเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม หลงยีที่ซ่อนอยู่ในที่ลับเห็นว่าโรงเตี๊ยมนี้เป็นร้านของจวนซื่อจื่อพอดี เรื่องมันบังเอิญเกินไปจึงทำให้หลงยีเกิดความสงสัยโดยอดไม่ได้

ช่วงเย็นวันนั้น ผู้จัดการโรงเตี๊ยมนั้นวิ่งไปยังจวนเจ้าเมืองด้วยความป่วนปั่น “ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย แย่แล้ว มีลูกค้าคนหนึ่งอาเจียนเป็นเลือดและหมดสติในโรงเตี๊ยม ผู้คนพากันล้อมชมอยู่ ข้าน้อยกลัวเรื่องมันจะเข้าหนักอีก และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี จึงมาขอพบซื่อจื่อ”

หยุนถิงได้ยินดังนั้น และหวนรำลึกถึงสิ่งที่หลงยีเล่าให้ฟัง นางก็เดาว่าต้องเป็นคนที่มาขอการรักษาในตอนกลางวันนั้นอย่างแน่นอน “ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ ข้าไปพบเขาก็แล้วกัน”

“ข้าจะไปกับเจ้า” จวินหย่วนโยวรีบเอ่ยขึ้น

“ได้”

โม่เหลิ่งเหยียนช่วยดูแลเด็กๆทั้งสอง หยุนถิงและจวินหย่วนโยวก็ออกไปแล้ว

ณ โรงเตี๊ยม

เมื่อหยุนถิงและจวินหย่วนโยวมาถึงโรงเตี๊ยม ก็เห็นว่าห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คน “ทุกคนถอยไปหน่อย ซื่อจื่อเฟยมาแล้ว!” ผู้จัดการโรงเตี๊ยมรีบเอ่ยขึ้น

ทุกคนจึงหลีกทางให้ทันที หยุนถิงเดินเข้าไปก็เห็นว่ามีชายในชุดสีฟ้านอนอยู่บนพื้น มุมปากของเขามีรอยเลือดเล็กน้อย ใบหน้าซีดมาก และเม้มริมฝีปากเบาบางนางย่างแน่น หน้านิ่วคิ้วขมวด

“ผู้จัดการ ท่านกลับมาได้สักที คุณชายหมดสติตั้งนานแล้ว ข้าน้อยก็ไม่กล้าขยับเขา กลัวจะทำให้อาการของเขาแย่ลงอีก ท่านรีบมาดูให้หน่อย”คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างกังวลใจ

“เจ้าไว้ใจเถอะ ทักษะทางการแพทย์ของซื่อจื่อเฟยไม่มีใครเทียบได้” ผู้จัดการโรงเตี๊ยมเอ่ย

หยุนถิงรีบย่อกายลงเพื่อตรวจชีพจรให้เขา จากนั้นสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที “เขาเป็นโรคปอด เหมือนไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นชั่วคราวในระยะหลัง ดูเหมือนว่าได้เกิดจากการถูกพิษมากกว่า”

บรรดาผู้คนต่างตกตะลึง และมองไปที่ผู้จัดการโรงเตี๊ยมพร้อมกันโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้จัดการโรงเตี๊ยมรู้สึกหวาดกลัวทันที “พวกเจ้าอย่ามองข้าเลย อาหารของโรงเตี๊ยมข้าล้วนทำจากวัตถุดิบอาหารสดใหม่ ไม่อาจมีพิษได้หรอก”

“เขาไม่ได้ถูกพิษในวันนี้ อย่างน้อยก็มีเวลาสิบปีแล้ว ตอนนี้ร่างกายของเขาถูกทำลาย อ่อนแอมากจึงทำให้สารพิษระเบิดอีก” หยุนถิงอธิบาย

ทุกคนจึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผู้จัดการโรงเตี๊ยมก็รู้สึกโล่งใจอย่างลับๆ “ซื่อจื่อเฟย ยังมีวิธีทำให้เขาฟื้นตัวหรือไม่”

“ข้าก็ไม่เคยเห็นพิษนี้มาก่อน ต้องตรวจสอบอีกที” หยุนถิงหยิบเข็มเงินที่เก็บไว้ในเส้นผมของนางและเจาะไปยังจุดฝังเข็มบนร่างกายของหรันจู๋ซีในขณะที่พูด

ผ่านไปเวลานาน หรันจู๋ซีที่หมดสติและนอนบนพื้นก็ได้สอบสนองจริงๆแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ