จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 105

“ ท่านอาจารย์ได้แบ่งดวงวิญญาณส่วนหนึ่ง…สร้างเป็นร่างจำแลงไว้บนโลก ”

คำพูดนี้ของหลินซูซินถึงกับทำให้จ้าวเทียนมีสีหน้าเคร่งเครียดทันที ระดับขอบเขตของท่านอาจารย์นั้นสูงมาก การจะลงมาอยู่ในโลกวัตถุมีเพียงต้องสร้างร่างทิพย์แล้วส่งลงมาเท่านั้น แต่ร่างทิพย์เองก็ใช่ว่าจะสามารถอยู่บนโลกนี้ได้นาน เมื่อพลังหมดก็จะสลายหายไป

หากให้อธิบายง่ายๆ สมมุติว่าท่านอาจารย์สร้างร่างทิพย์ลงมายังโลก ร่างทิพย์นั้นจะคล้ายกับหุ่นกลที่ถูกควบคุมโดยท่านอาจารย์

โดยที่พลังงานของร่างทิพย์จะหมดลงไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีการต่อสู้ หรือใช้เคล็ดวิชา จนกระทั่งเมื่อใช้พลังงานจนหมดมันก็จะสลายไป

ในการจะส่งร่างทิพย์ลงมาในโลกวัตถุนั้น จะสิ้นเปลืองพลังเพิ่มเป็นร้อยเท่าของปกติ เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎจักรวาล

โดยปกติแล้วหลังจากที่ส่งร่างทิพย์ลงมา ร่างต้นอาจจะอยู่ในสภาพอ่อนแอนานหลายปีเลยทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่มักค่อยไม่มีใครทำกัน

ส่วนการแบ่งดวงวิญญาณเพื่อสร้างร่างจำแลงนั้น มันเกิดผลเสียยิ่งกว่าร่างทิพย์เสียอีก เพราะที่เสียไปคือดวงวิญญาณอันเป็นบ่อเกิดของพลังทั้งมวลในร่างกาย

นั่นหมายความว่าตอนนี้ท่านอาจารย์จะมีพลังลดลงไปหนึ่งส่วนเป็นการถาวร และการที่มีดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ มันจะทำให้ความหวังที่จะบรรลุขอบเขตจักรพรรดิหายไปอีกหลายส่วน

สำหรับขอบเขตเทพโลกกาขั้น 9 แบบท่านอาจารย์ มันถือเป็นการทำลายเส้นทางในอนาคตของตัวเองอย่างรุนแรง นี่เป็นเหตุผลที่จ้าวเทียนรู้สึกกังวลมาก

‘ สิ่งที่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องตัดสินใจแบบนี้…มันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ’

หลินซูซินได้ให้จ้าวเทียนอุ้มเธอเข้าไปในห้องลับตรงชั้นหนังสือเหมือนครั้งก่อน ในเวลานี้มันได้เปลี่ยนแปลงไปจนจ้าวเทียนตกตะลึง

สิ่งที่เขาพบด้านในคือสวนดอกไม้ขนาด 1 ไร่ ถูกตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม ตรงกลางมีตัวตึกที่สร้างจากหินอ่อนดูหรูหรา ถูกสร้างเลียนแบบตามที่พักของท่านอาจารย์บนแดนสวรรค์

ในขณะที่จ้าวเทียนกำลังมองดูสิ่งต่างๆรอบตัวอย่างสนใจ ประตูห้องพักก็เปิดออกมา

“ เข้ามาสิ…ฉันกำลังรอพวกเธออยู่เลย ”

หญิงงามชุดขาวส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้ เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะน้ำชาด้านใน เหมือนคาดเดาการมาถึงของพวกจ้าวเทียนเอาไว้แล้ว

“ คารวะท่านอาจารย์ครับ/ค่ะ ”

จ้าวเทียนกับหลินซูซินพูดขึ้นพร้อมกัน หลินซินเยว่ก็พยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วแสดงท่าทีให้พวกเขารีบเข้ามา

ที่โต๊ะน้ำชา จ้าวเทียนได้เอาตุ๊กตาวางเอาไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา เพื่อความสะดวกเวลาสนทนากัน

“ ท่านอาจารย์มาถึงที่นี่นานหรือยังครับ ” จ้าวเทียนถามขึ้นอย่างสงสัย

“ อาจารย์มาถึงได้สองวันแล้ว…ที่ไม่ได้บอกเพราะไม่อยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอ ” หลินซินเยว่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอได้ทำนายไว้แล้วว่าจ้าวเทียนได้จะรับโชควาสนาครั้งใหญ่ แต่ถ้าบอกเรื่องของเธอออกไปจากดีจะกลายเป็นร้ายแทน

จ้าวเทียนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ลองคิดย้อนกลับไป หากเขารู้ว่าท่านอาจารย์จะมา บางทีเหตุการณ์เมื่อวานอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะเขาคงเลือกที่จะรอพบท่านอาจารย์มากกว่าที่จะออกไปเจอตัวแทนมหาอำนาจ

ซึ่งนั่นคงทำให้เขาไม่ได้รับเลือดมังกร และเครื่องสร้างประตูมิติ…

“ ทำไมท่านอาจารย์ถึง… ” จ้าวเทียนกำลังจะถามสิ่งที่เขาสงสัย แต่หลินซินเยว่ก็ได้ส่ายหน้าเบาๆ

“ สาเหตุที่ฉันทำแบบนี้…มันยังไม่ถึงเวลาที่เธอควรรู้ ไม่อย่างนั้นอนาคตมันจะเปลี่ยนไป ทำให้ความพยายามทั้งหมดไร้ความหมาย ” หลินซินเยว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

การตัดสินใจในครั้งนี้ของเธอ มันมีสาเหตุมาจากความทรงจำในอนาคตที่ปรากฏขึ้นในความคิดเธอ ตอนที่จ้าวเทียนย้อนเวลากลับมา

!!

ตอนนี้จ้าวเทียนมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาเพิ่งนึกบางสิ่งที่สำคัญได้ สายตาของเขามองที่ตุ๊กตาหมีตรงหน้า

‘ หรือมันจะเกี่ยวข้องกับศิษย์พี่หญิง…สิ่งที่ท่านอาจารย์ทำไปก็เพื่อเปลี่ยนอนาคตของศิษย์พี่หญิงงั้นเหรอ ’

เรื่องของหลินซูซินนั้นสร้างความสับสนให้จ้าวเทียนมานานแล้ว เพราะชาติที่แล้วตลอดเวลานับแสนปีบนแดนสวรรค์ เขาไม่เคยได้ยินเรื่องของศิษย์พี่หญิงมาก่อน เหมือนเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่ แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองก็ไม่เคยพูดถึง

“ วันนี้…เธอมาหาฉันด้วยเรื่องอะไรงั้นรึ ” หลินซินเยว่ถาม

เมื่อเห็นว่าท่านอาจารย์ไม่ต้องการให้เขาคิดเรื่องนี้ จ้าวเทียนก็บอกจุดประสงค์ออกไป พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้พบเมื่อวานให้ท่านอาจารย์ได้ฟัง

แววตาของหลินซินเยว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อจ้าวเทียนเล่าถึงตัวตนที่แท้จริงของอ๋าวเฟิง นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน

วิ้งง!

ภาพจำแลงของแผนที่ดวงดาวขนาดย่อส่วนได้ปรากฏขึ้น สภาพแวดล้อมทั้งหมดเหมือนเปลี่ยนไปเป็นจักวาลอันกว้างใหญ่

วิถีโคจรของดวงดาวนับไม่ถ้วนได้สลับสับเปลี่ยน กำเนิดและแตกดับไปตามวัฏจักร เหมือนกับโชคชะตาของมนุษย์

หลินซินเยว่หลับตาลงช้าๆ มือขวาของเธอยกขึ้นขยับนิ้วทำนายเรื่องราวของอ๋าวเฟิง เธอต้องการรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่าย ในการเข้าหาจ้าวเทียน

อย่าได้เห็นว่าตอนที่เธออยู่กับพวกจ้าวเทียนเป็นคนที่มีเมตตาและอ่อนโยน นั่นมันสำหรับศิษย์หลักทั้งสี่คนของเธอเท่านั้น

เพราะทั้งชีวิตของเธอทุ่มเทให้กับการฟื้นฟูสำนัก และการค้นคว้าศาสตร์แห่งการทำนายเลยทำให้ไม่มีคู่ครอง เธอก็เลยมองศิษย์หลักทั้งสี่เหมือนเป็นลูกแท้ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน