จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 124

ช่วงบ่ายในวันเดียวกัน

หลังจากที่จ้าวเทียนออกไปรับลี่เหยาเหยากลับมาที่คฤหาสน์ดาราสวรรค์ เขาก็ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับสถานะของตัวเองให้เธอฟัง ทั้งเรื่องที่เคยไปอยู่แดนสวรรค์เกือบแสนปี และเรื่องสำนักดาราสวรรค์

ซึ่งนั่นได้สร้างความตกตะลึงให้กับลี่เหยาเหยาเป็นอย่างมาก…

วูป!

เทพธิดาตัวจิ๋วได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แล้วถามออกมาด้วยความตกใจ

“ คุณกำลังจะบอกว่า…อาจารย์ของคุณมีความสามารถในการย้อนเวลาได้งั้นเหรอ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร แม้แต่แดนสวรรค์โบราณที่อยู่ในยุครุ่งเรืองที่สุด ยังไม่เคยมีใครทำได้เลยเลย ”

“ มันเป็นความจริง…หลักฐานที่ชัดเจนก็คือตัวฉันในตอนนี้ยังไงล่ะ ” จ้าวเทียนพูดอย่างจริงจัง

“ นี่มัน…คุณรู้ไหมการย้อนเวลานั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกฎของจักรวาลทั้งหมดเลยนะ หรือว่าอาจารย์ของคุณบรรลุขอบเขตผู้ปกครองเอกภพแล้ว ” เทพธิดาตัวจิ๋วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

ในอดีตก่อนที่จะเกิดมหาสงครามขึ้นนั้น ตัวเธอเป็นน้องสาวของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวัน ทำให้ได้รู้เรื่องราวมากมาย ของสามผู้ก่อตั้งแดนสวรรค์โบราณ

สิ่งที่จ้าวเทียนบอกออกมานั้น ตรงกับเรื่องราวที่พี่ชายของเธอเล่าให้ฟังมาก

“ ขอบเขตผู้ปกครองเอกภพ…นั่นเป็นขอบเขตของสามผู้ก่อตั้งใช่ไหม อาจารย์ของฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ฉันจำได้ว่าในชาติที่แล้ว เธออยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวจักรพรรดิเทพเท่านั้น ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยท่าทางครุ่นคิด

และที่จ้าวเทียนเคยเล่าเรื่องต้นกำเนิดของจักรวาลที่ได้รู้จากอ๋าวเฟิงให้พวกลี่เหยาเหยาฟัง มันก็ตรงกับสิ่งที่เทพธิดาตัวจิ๋วได้ยินมา

ยกเว้นเพียงข้อเดียวก็คือ…เรื่องของสามผู้ก่อตั้ง

“ สามผู้ก่อตั้ง…พวกเขาได้ต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานจากภายนอก จนดับสูญไปด้วยกัน ”

นี่คือความลับสุดยอด ที่เทพธิดาตัวจิ๋วได้ยินมาจากจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ

คำว่าศัตรูจากภายนอกนั้นหมายสิ่งมีชีวิต ที่มาจากนอกจักรวาลของเรา ซึ่งครั้งแรกที่จ้าวเทียนได้ยิน เขาก็นึกไปถึงภาพดวงตาขนาดใหญ่เท่ากาเล็กซี่ ที่ได้เห็นก่อนตายในชาติที่แล้ว

‘ บางทีเต๋าสวรรค์…คงจะไม่ใช่สิ่งที่ควรมีอยู่ในจักรวาลของเรา รวมทั้งเทพอสูรผมแดงที่เคยต่อสู้กับฉันเองก็เช่นกัน ’

“ จริงสิ…นายรู้เรื่องงานจัดแสดงเครื่องประดับในอีกสามวันหรือยัง ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยความกังวล

“ ฉันรู้แล้ว…ซินหยางเพิ่งโทรบอกฉันเมื่อวานนี้ อีกฝ่ายนั้นสามารถเชิญดาราระดับโลกอย่างออโรร่ามาได้ นั่นมันก็ทำให้ฉันตกใจเหมือนกัน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด

ตั้งแต่ที่สอบถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับศาสนจักรแห่งแสงคราวก่อน เขาก็ไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายเลยจนถึงวันนี้

หลังจากที่ลองคิดดู บางทีออโรร่าคงจะไม่ได้รู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างเขากับบริษัทของจางสุยผิง เหตุผลเดียวที่เธอรับงานนี้ คงเป็นเพราะต้องการดำเนินแผนการสร้างขุมกำลังของศาสนจักรแห่งแสงในประเทศจีน

ที่จริงแล้วจ้าวเทียนอยากจัดการเรื่องลงทะเบียนปีศาจกับตรวจสอบจุดประสงค์ที่แท้จริงของศาสนจักรแห่งแสงก่อน จึงจะอนุญาตให้พวกเขาเริ่มปฏิบัติการในประเทศจีนได้

‘ โดยเฉพาะเรื่องตัวตนของโซเฟีย…จะต้องวางแผนให้เธอมาพบกับท่านอาจารย์เสียก่อน ถึงจะสามารถใช้งานพวกศาสนจักรได้อย่างวางใจ เพราะสถานะของตัวฉันในตอนนี้สุ่มเสี่ยงมาก หากความลับของฉันถูกเปิดเผยไป ’

‘ สิ่งที่เคยเกิดกับนิกายจูเซียน…มันอาจจะเกิดซ้ำกับสำนักดาราสวรรค์และคนรอบๆตัวฉันบนโลกก็ได้ ’

“ ตอนนี้…ซินหยางกังวลกับเรื่องนี้มาก เพราะรู้เบื้องหลังของออโรร่าดี เขากลัวว่าพวกศาสนจักรแห่งแสงจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก อำนาจขององค์กรอันดับ 1 ของโลกนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“ งั้นไปหาซินหยางกันเถอะ…ตอนนี้เขาคงยังอยู่ที่บริษัท ”

ในเวลาเดียวกันบนท้องฟ้า

ภายในห้องโดยสารของเครื่องบินกัลฟ์สตีม G700 สุดหรู ออโรร่ากำลังนั่งตรวจดูเอกสารข้อมูลขุมกำลังต่างๆในประเทศจีนอยู่อย่างจริงจัง

ผ่านมาหลายวันแล้ว หลังจากที่ทำข้อตกลงกับจ้าวเทียนครั้งก่อน แต่จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย ทำให้เธอกับอาจารย์รู้สึกเป็นกังวลมาก กลัวว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ดังนั้นเมื่อมีการติดต่องานมาจากบริษัทจิวเวลรี่ของตระกูลจาง เธอจึงตอบรับเอาไว้ด้วยความยินดี เพื่อจะได้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการเข้าตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศจีน และคอยประสานงานกับจ้าวเทียน

ต้องรู้ก่อนว่าตัวเธอในตอนนี้ถูกหลายฝ่ายกำลังจับตาดูอยู่…

โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ระเบิดฐานลับของบริษัท HTI มีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าศาสนจักรแห่งแสงต้องมีส่วนรู้เห็นด้วยแน่นอน ทำให้การเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง เลยต้องรอบคอบเป็นพิเศษ

‘ อีกสี่ชั่วโมง…ฉันคงไปถึงเมืองเทียนจิน ถึงตอนนั้นค่อยโทรหาจ้าวเทียนก็แล้วกัน ’

ณ บริษัทจ้าวหนิงจิวเวลรี่

ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ตอนนี้จ้าวเทียนได้นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน ด้านข้างเขาคือลี่เหยาเหยา และหวังซินหยางกับทีมบริหารของเขา

“ ซินหยาง…ตอนนี้ความพร้อมเรื่องงานจัดการแสดงเครื่องประดับของพวกเราเป็นอย่างไรบ้าง ”

เมื่อได้ยินคำถามของจ้าวเทียน หวังซินหยางก็พูดขึ้นด้วยท่าทีมั่นใจ

“ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วครับ…ผมได้ใช้ช่องทางพิเศษจัดหาเครื่องเพชรมาเตรียมเอาไว้แล้วแบบลับๆ โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ตัว ตอนนี้พวกเขาคงคิดว่าเราใช่ช่องทางจัดหาเดิมเหมือนในอดีต ”

“ ส่วนพวกพาร์ทเนอร์เก่าๆที่เคยหักหลังบริษัทเราไปครั้งก่อน ผมก็ส่งคนเข้าไปติดต่อพวกเขาให้นำของมาที่งานแสดงของเราตามแผนที่วางเอาไว้ ”

หลังจากนั้นหวังซินหยางก็หยิบเอกสารแผ่นหนึ่งออกมาให้จ้าวเทียนดู

“ นี่คือสัญญาที่ผมส่งให้พวกเขาเซ็นต์…หลังจากนี้อีกสามวัน รายละเอียดบางจุดของสัญญาจะเปลี่ยนไป เพราะมันถูกทาทับไว้ด้วยหมึกชนิดพิเศษที่เพื่อนผมส่งมาให้จากองค์การ NASA ”

“ ถ้าครั้งนี้พวกเขาหักหลังพวกเราอีกครั้ง…จะถูกปรับเป็นค่าเสียหาย 100 เท่าของมูลค่าสินค้าที่ตกลงกันไว้ทั้งหมด ”

จ้าวเทียนหยิบเอกสารเหล่านั้นมาดูด้วยท่าทีสนใจ เขาพบว่ามันเป็นชุดเดียวกับที่พ่อเขาเคยใช้ในอดีต ซึ่งถ้ามีฝ่ายใดผิดสัญญา จะถูกปรับด้วยจำนวนเงินเพียงครึ่งเดียวของมูลค่าสินค้าเท่านั้น

แต่ในอีกสามวัน ตัวเลขนี้จะเปลี่ยนไปโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

‘ ก็ถือว่า…ให้โอกาสพวกเขาได้เลือกชะตาชีวิตตัวเองก็แล้วกัน ’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน