“ ไม่หรอก…แกได้ตายคืนนี้แน่นอน! ”
เงาร่างของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าทางเข้าโกดัง เขาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมทั้งลากศพลูกน้องของหม่าจิ้ง อีก2คนเข้ามาด้วย
ซึ่ง 2คนนี้น่าจะเป็นลูกน้องของหม่าจิ้ง ที่ลอบฆ่ามือสไนเปอร์ของหลงซูฉี
“ แก…จ้าวเทียน ” หม่าจิ้งพูดขึ้นด้วยความตกใจ
“ หืม…จำฉันได้ทันทีแบบนี้ แสดงว่าไม่ผิดคนสินะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างเย็นชา
หลงซูฉีกับตำรวจที่เหลือมองจ้าวเทียนด้วยความสงสัย ชายคนนี้เป็นใครและเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร แถมยังจัดการลูกน้องของหม่าจิ้งได้แบบสบายๆอีก
“ นี่…นายโทรเรียกตำรวจแล้วใช่ไหม พวกเขามาถึงแล้วใช่ไหม ” หลงซูฉีถามขึ้นอย่างมีความหวัง ชายคนนี้ไม่มีทางกล้าเดินเข้ามาที่นี่คนเดียวแน่
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซูฉีถาม หม่าจิ้งก็หน้าเปลี่ยนสีทันที หากมีตำรวจเข้ามาเพิ่มพวกเขาต้องแย่แน่
“ ฉันมาคนเดียว…ไม่ได้บอกใคร ” จ้าวเทียนพูดความจริงออกไป ล้อเล่นหรือเปล่า ถ้าแจ้งตำรวจแล้วเขาจะจัดการหม่าจิ้งได้อย่างไร
“ นี่มัน…พวกเราจบสิ้นแล้ว ” หลงซูฉีพูดขึ้นอย่างหมดหวัง เธอมองจ้าวเทียนเหมือนมองคนบ้า
สายตาแบบนี้อีกแล้ว มันเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุด
จ้าวเทียนพยายามไม่สนใจหลงซูฉี เขาโยนศพที่ลากเข้ามาลงตรงหน้าของหม่าจิ้ง
“ เมื่อวานแกส่งคนไปฆ่าฉันกับน้องสาวใช่ไหม ” เขาถามขึ้น ทุกอย่างมันบังเอิญจนเกินไป หากไม่ใช่เพราะตัวเขาได้ย้อนกลับมา แสดงว่าเขากับน้องสาวจะต้องโดนฆ่าตายในวันเดียวกัน
ตัวเขากับจางถงแม้จะเกลียดหน้ากัน แต่มันก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าแกงกัน แสดงว่ามันต้องมีคนอื่นวางแผนอยู่เบื้องหลัง
ฮ่า ฮา ฮ่า
“ ฉันละยอมแกจริงๆ อุตส่าห์รอดไปได้ ก็ยังจะรนหาที่ตายอีก ” หม่าจิ้งหัวเราะขึ้นเสียงดัง เขาไม่ได้กลัวจ้าวเทียนเลย ต่อให้มันเก็บลูกน้องเขาที่นอกโกดังได้แล้วยังไง
ข้างตัวเขามีผู้เชี่ยวชาญอยู่ตั้งสองคน วันนี้ยังไงมันก็ต้องตาย
“ ผู้อาวุโสทั้งสอง…ชายคนนี้เป็นคนที่เจ้านายต้องการให้ตาย ขอให้ท่านทั้งสองช่วยจัดการให้ด้วย ” หม่าจิ้งพูดขึ้นอย่างมีความสุข
หลังจากที่ฆ่ามันแล้วก็ค่อยไปฆ่าน้องมันต่อ ตัวเขาก็ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ เหลือแค่โยกย้ายกิจการให้เรียบร้อย ก็กลับไปปักกิ่งได้
“ หืม…เจ้าเองเหรอจ้าวเทียน ” ชายชราที่ยืนอยู่ด้านซ้ายถามขึ้น
“ ใช่แล้ว…ฉันนี่แหละจ้าวเทียน พวกท่านเป็นใครกัน ” จ้าวเทียนพยามหลอกถามข้อมูล
“ พี่เจ็ดไม่ต้องเสียเวลาคุยกับมัน…เดี๋ยวฉันจัดการเองเรายังมีงานที่ต้องทำต่อ ” ชายชราที่อยู่ด้านขวาพูดขัดขึ้น เขาไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก
ฟุบ!
เขาก้าวไปด้านหน้าเพียงก้าวเดียว ก็หายตัวไปโผล่ที่ด้านหลังของจ้าวเทียนทันที
“ ช่างน่าเสียดาย…ต้นกล้าที่ดีของตระกูลจ้าวแท้ๆ ” ผู้อาวุโสเจ็ด พูดขึ้นด้วยความเสียดาย เขาหันหน้าไปทางอื่น เพราะไม่อยากเห็นรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ ของตระกูลตนเองถูกฆ่าตาย
ตูม!
“ จบแล้วสินะ…น้องแปดเอาศพเขากลับไปด้วย อย่างน้อยเขาก็มีสายเลือดตระกูลจ้าว ” ผู้อาวุโสเจ็ดหันกลับไปออกคำสั่ง
!!
“ นี่มัน…เป็นไปไม่ได้ ” เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ตอนนี้ผู้อาวุโสแปดถูกจ้าวเทียนจับหัวกดจมลึกไปในหลุมบนพื้น จากรอยแตกและเศษปูนที่กระจายเป็นชิ้นเล็กๆ บ่งบอกถึงความรุนแรงของการกระแทกได้เป็นอย่างดี
“ หืม…ยังไม่ตายงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนผิดคาดเล็กน้อย อย่างที่คิดไว้พวกผู้เชี่ยวชาญนี่ฆ่าไม่ได้ง่ายๆเลย แต่ก็ไม่เป็นไรเขาแค่ต้องออกแรงมากขึ้น
ตูมๆๆๆ
จ้าวเทียนกระหน่ำชกไปที่หัวของผู้อาวุโสแปดไม่ยั้ง จนพื้นดินสั่นสะเทือน
“ ไอสารเลว…หยุดเดี๋ยวนี้ ” ผู้อาวุโสเจ็ดปามีดสั้นใส่จ้าวเทียน แล้วพุ่งเข้าโจมตีทันที
“ ปล่อยข้านะโว้ย…ไอเด็กชั่ว ” ผู้อาวุโสแปดที่ตั้งตัวได้ก็ ตอบโต้สุดแรงทันที เขาชกหมัดทั้งสองไปที่มือของจ้าวเทียนที่กำลังกดหัวเขาอยู่
การโจมตีทั้งสามทางแทบจะเกิดขึ้นพร้อมกัน
แกร่ก พั่ก!
มีดสั้นที่พุ่งมาถึงก่อนกระเด็นตกลงบนพื้น มันไม่อาจสร้างบาดแผลให้จ้าวเทียนเลยซักนิด
เขาดึงมือที่จับหัวของผู้อาวุโสแปดกลับมาด้วยความรวดเร็ว แล้วชกสวนเข้าไปที่หมัดของผู้อาวุโสเจ็ดอย่างรุนแรง
จนหมัดของอีกฝ่ายถูกขยี้กระดูกหักแทงทะลุเนื้อออกมา เลือดสาดกระจายไปทั่ว
ทำให้ตัวของผู้อาวุโสเจ็ดล้มลงกระแทกพื้น เขากุมมือที่ถูกบดขยี้ไว้ด้วยความเจ็บปวด
“ เป็นไปไม่ได้…ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง” ผู้อาวุโสเจ็ดพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเทา ตัวเขาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับกลางกลับแพ้การปะทะตรงๆ แสดงว่าอีกฝ่ายต้องเหนือกว่าตน1ขั้น
ที่จริงแล้วจ้าวเทียนก็อยู่ในระดับกลางเช่นกัน แต่เพราะวิชาที่เขาฝึกนั้นเป็นวิชาชั้นยอดในแดนสวรรค์ มันเหนือกว่าวิชาในโลกมากอยู่แล้ว ทำให้ผู้อาวุโสเจ็ดเข้าใจผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน