นับตั้งแต่ที่เฉินจิ้งเริ่มใช้เลือดมังกรสยบพิษมารอเวจีก็ได้ผ่านสี่ชั่วโมงแล้ว ในตอนนี้ร่างกายของเขาไม่ต้องกังวลเรื่องพิษอีกต่อไป เพราะมันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเขาแล้ว
ซึ่งเท่ากับว่า ตอนนี้เฉินจิ้งก็สามารถใช้พิษมารอเวจีได้เช่นกัน…
สิ่งนี้เป็นผลลัพธ์ที่จ้าวเทียนไม่ได้คาดคิดมาก่อน นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เฉินจิ้งกลายเป็นมังกรมารอเวจี ถึงแม้จะไม่ใช่สายเลือดแท้ แต่ก็เป็นเผ่าพันธุ์ในตำนานที่หายสาบสูญไปพร้อมกับสงครามสวรรค์บรรพกาล
ทันใดนั้น
เปลวไฟสีดำที่ลุกโชนก็ถูกดูดกลับเข้าไปในร่างของเฉินจิ้งในพริบตา
โฮกกกกก!
เสียงคำรามดุจมังกรดังสนั่นหวั่นไหว มันก้องกังวานไปเกือบร้อยกิโลเมตร ถึงขนาดที่ผู้คนปกติภายในเมืองข้างเคียงยังต้องรีบเอามือปิดหูไว้ด้วยความตกใจ
เพล้งง!
อาคมผนึกที่จ้าวเทียนใช้ในตอนแรกแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เพราะพลังที่เฉินจิ้งระเบิดออกมา โชคยังดีที่เขาได้เตรียมการไว้แล้ว
“ แหวนเขตแดน…เปิด! ”
โดมครึ่งวงกลมโปร่งใสปรากฏขึ้นครอบห้องนี้เอาไว้ ที่จริงอาณาเขตของมันคือหนึ่งร้อยเมตร สามารถปกคลุมบ้านพักได้ทั้งหลัง แต่จ้าวเทียนควบคุมให้อาณาเขตเหลือเพียงในห้องนี้
แหวนวงนี้เป็นอุปกรณ์เวทมนต์ระดับเทพ ที่จ้าวเทียนได้มาจากการทดสอบของนิกายจูเซียน มันสามารถป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่าขอบเขตเซียนนภาได้ทั้งหมด เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
ชิ้ง!
ดวงตาสีแดงฉาน กำลังจับจ้องมาทางจ้าวเทียนด้วยความต้องการสังหาร
ลักษณะของเฉินจิ้งในตอนนี้ มีเกล็ดสีดำปกคลุมร่างกายทั้งหมดยกเว้นใบหน้า มือและเท้าถูกเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกร นับว่ายังโชคดีที่เขายังมีโครงร่างแบบมนุษย์อยู่ ไม่อย่างนั้นชีวิตหลังจากนี้คงจะลำบากแน่นอน
“ เฉินจิ้ง…นายได้ยินที่ฉันพูดไหม ”
โฮกก!
เปรี้ยง! ตูมม!
เฉินจิ้งคำรามด้วยความคลุ้มคลั่ง แล้วพุ่งตวัดกรงเล็บใส่จ้าวเทียนอย่างรุนแรง แต่ก็ถูกจ้าวเทียนต่อยสวนกลับไปอย่างง่ายดาย จนเขากระเด็นไปกระแทกกับผนังเขตแดนเสียงดังสนั่น
ในโลกนี้ภายใต้ขอบเขตเซียนนภา ไม่มีผู้ใดสามารถดวลเรื่องพละกำลังกับจ้าวเทียนได้ เพราะความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาทะลุขีดจำกัดไปไกลแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นเผ่าพันธุ์มังกรที่ขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังมหาศาลก็ตาม
แฮ่รร!
เฉินจิ้งพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง ตอนนี้เขาต่อสู้แบบสัตว์ร้ายที่พึ่งพาเพียงสัญชาตญาณเท่านั้น ไม่ได้มีกระบวนท่าใดๆ ทำให้จ้าวเทียนรับมือได้แบบไม่ต้องต้องใช้แรงนัก ถึงขนาดใช้เพียงมือเดียวคอยปัดป้องและหาจังหวะสวนกลับแบบไม่เปลืองแรง
ตูมม!ๆๆ
แรงระเบิดจากการปะทะในแต่ละครั้งทำให้เขตแดนสั่นสะเทือน จนปรากฏรอยร้าวขึ้น แต่ไม่นานมันก็ประสานกันใหม่เหมือนเดิม
‘ นี่ถ้าฉันไม่ป้องกันไว้ก่อน…บริเวณนี้คงไม่เหลือซากแน่ ’
‘ เห็นทีฉันคงต้องลงมือหนักหน่อย…เผื่อเฉินจิ้งจะได้สติขึ้นมา คิดว่าเป็นการทดสอบพลังของเขาไปในตัวก็แล้วกัน ’
ครืนนนน!
บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไปในพริบตา เมื่อเปลวเพลิงสีทองระเบิดออกมาจากร่างจ้าวเทียน
“ เพลิงสุริยัน! ”
คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ร่างของเฉินจิ้งกระเด็นกลับไปอีกครั้ง เปลวเพลงสีทองได้เผาผลาญเกล็ดสีดำจนไหม้เกรียม ตอนนี้แววตาของเฉินจิ้งเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวแล้ว เหมือนกับสัตว์ร้ายที่เจอกับศัตรูตามธรรมชาติ
‘ ดูเหมือนว่า…เปลวไฟที่มีพลังหยางรุนแรงจะเป็นจุดอ่อนของเขา ’
“ เฉินจิ้งตั้งสติหน่อย…อย่าปล่อยให้พลังครอบงำนาย ” จ้าวเทียนตะโกนออกมาเสียงดัง
ทันใดนั้น
หมอกสีดำก็กระจายออกมาจากร่างกายของเฉินจิ้ง แล้วรวมตัวกันเป็นเงาร่างของบุรุษชุดทำที่จ้าวเทียนไม่เคยพบมาก่อน
เขายืนอยู่ด้านหลังเฉินจิ้ง แล้วจ้องมองมาที่จ้าวเทียนด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“ เด็กน้อย…เราพบกันอีกครั้ง ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน