ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบ ไม่มีใครส่งเสียงออกมาแม้แต่คนเดียว ทุกคนนั่งมองภาพเหตุการณ์ในจอตรงกลางด้วยสีหน้าเหม่อลอย
แม้ว่าการต่อสู้ตรงฐานของหลงเป่ยหู่จะจบลงอย่างรวดเร็ว แต่สงครามอีกด้านยังไม่จบ เจ้าหน้าที่จึงนำภาพเหตุการณ์ตรงนั้นมาขึ้นจอภาพทั้งหมดแทน เพื่อให้คนที่อยู่ในห้องประชุมได้ชมในหลายๆมุมมอง
มองเห็นขบวนรบกายาเทวะของกองกำลังของจ้าวเทียนประสานเป็นหนึ่งเดียว รุกไล่พวกหลงเป่ยหู่จนถอยร่นไปเรื่อยๆอย่างไร้ทางสู้
พวกเขาได้ทดลองทำจนหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งให้ทุกคนรุมยิงไปที่จุดเดียว หรือปรมาจารย์ทั้งสามคนโจมตีพร้อมกัน แต่มันกลับไม่มีประโยชน์
ด้วยการประสานพลังของปรมาจารย์ยี่สิบห้าคน ทำให้ม่านพลังของขบวนรบนี้แข็งแกร่งมาก การโจมตีทุกอย่างไม่อาจสั่นคลอนมันได้
แม้แต่บรรพชนตระกูลหลงที่นั่งดูอยู่ยังถอนหายใจยาว เพราะต่อให้เป็นเขาเองก็คงทำลายไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าได้ความช่วยเหลือจากเซียนอีกคนก็น่าจะทำลายมันได้
ตามการคาดการณ์ของบรรพชนตระกูลหลง ถ้าปรมาจารย์ขั้นต่ำยี่สิบคนใช้ขบวนรบนี้ จะสามารถป้องกันการโจมตีสุดแรงของเซียนขั้นกลางได้สบาย
ถ้าหากเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงยี่สิบคนล่ะ ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดจะสามารถทำลายได้ไหม นี่เป็นสิ่งที่เขายังคงสงสัยอยู่
ส่วนเรื่องเดิมพันนั้น เขาเลิกหวังไปนานแล้ว เพราะผลมันชัดเจนตั้งแต่ที่ปรมาจารย์ทั้งสี่สิบห้าคน ในกองกำลังของจ้าวเทียนเปิดเผยตัวออกมา
‘ ที่แท้…นี่คือหลุมกับดักที่ถูกขุดเอาไว้ ล่อให้ฉันกระโดดลงไปเอง ’
‘ เอาเถอะ…ชายคนนั้นคงหมายตาพวกกากเดนตระกูลจ้าว กับพวกนักวิจัยตระกูลหลี่เอาไว้นานแล้ว อย่างน้อยฉันก็เสียเพียงธุรกิจของตระกูลที่หลงเป่ยหู่ดูแลอยู่เท่านั้น ’
บรรพชนเซียนตระกูลหลงคิดเข้าข้างตัวเอง สายตาของเขามองไปยังฉางกวนผิง ที่ใบหน้าซีดขาวเหมือนคนกำลังจะตาย ดวงตาเหม่อลอยของเขาจ้องมองจอภาพแบบตาไม่กะพริบ
‘ คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นเขา…ศูนย์วิจัยอาวุธแห่งนั้นเป็นเหมือนชีวิตของเขาทีเดียว ’
‘ เห็นที…การร่วมมือกับพวกกองทัพคงต้องคิดดูใหม่อีกครั้ง ’
ตอนนี้ภาพบนจอแสดงให้เห็นการล่าถอยอย่างสิ้นท่าของพวกหลงเป่ยหู่ พวกเขาสละกองกำลังทั้งหมดเพื่อเอาตัวรอด หลบหนีกลับฐานของตัวเอง
แต่ทว่า
สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือ…ปรมาจารย์สาวขั้นสูงทั้งยี่สิบคน
พวกเธอโหดร้ายกว่าพวกที่ไล่ตอนเขามามากนัก หากพวกเขายอมแพ้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับพวกที่อยู่เฝ้าฐาน
จบแล้ว…
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ธงสีแดงยังคงปักอยู่บนฐานของทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครเข้าไปแย่งชิงแม้แต่น้อย แต่การแข่งขันมันจบแล้วจริงๆ
เพราะฝ่ายหลงเป่ยหู่ไม่มีใครยืนอยู่ได้แม้แต่คนเดียว…
“ การแข่งชิงตำแหน่งผู้บัญชาการซิงหลงรู้ผลแล้ว…ฉันขอแต่งตั้งหลงซานถงขึ้นเป็นผู้บัญชาการซิงหลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ”
“ พิธีรับตำแหน่งผู้บัญชาการจะจัดขึ้นอีกสามวันข้างหน้า ส่วนเย็นวันนี้ให้หน่วยลับทั้งสี่ไปรับโอสถได้ที่กองบัญชาการ ” ต้วนมู่เฉียนประกาศออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาและท่านผู้นำก็พาพวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลเดินออกไปทันที
เรื่องหลังจากนี้ เขายกให้จ้าวเทียนจัดการได้อย่างเต็มที่
“ พรุ่งนี้…ฉันจะส่งคนไปจัดการเรื่องโอนย้ายธุรกิจให้ ” บรรพชนตระกูลหลงหันไปบอกจ้าวเทียน แล้วหายตัวไปเช่นกัน
ในเมื่อรู้ตัวว่าหลงกลอีกฝ่าย เขาเองก็ไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว
“ เอาล่ะ…ตอนนี้ฝ่ายของฉันชนะแล้ว พลเอกฉาง คุณอย่าลืมเรื่องเดิมพันของเราล่ะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างเฉยชา
“ ฉัน…ฉันไม่ลืมแน่นอน เพียงแต่มันต้องใช้เวลาซักสองวัน ” ฉางกวนผิงตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ อย่างไรศูนย์วิจัยแห่งนี้ก็ต้องมอบให้ไป เพราะการเดิมพันครั้งนี้มีพยานรู้เห็นมากมาย เขาไม่สามารถผิดคำพูดได้
‘ ภายในวันนี้…ฉันจะต้องเคลื่อนย้ายพวกนักวิจัยกับผลการทดลองออกไปให้หมด ให้ไอ้เด็กนี่ได้ไปแต่ศูนย์วิจัยเปล่าๆก็แล้วกัน ’
นี่เป็นการลดความสูญเสียให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อครู่เขาก็ได้สั่งให้เจียงฮุ่ยจัดการเคลื่อนย้ายคนออกไปแล้ว
“ อ้อ…ฉันลืมบอกคุณไปอย่างหนึ่ง ฉันส่งคนไปจับตาดูศูนย์วิจัยของคุณไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้พวกเขาคงกำลังเข้าไปจัดการธุระให้ฉันอยู่ ”
“ ช่วยโทรกลับไปบอกคนของคุณด้วยว่า…นักวิจัยทุกคนและผลการทดลองทุกอย่างเป็นของฉัน ให้พวกเขาย้ายกำลังทหารออกไปก็พอ ”
“ ไม่อย่างนั้น…ฉันก็รับประกันไม่ได้นะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตาเย็นชา สิ่งที่อีกฝ่ายคิดไม่ได้อยู่นอกเหนือจากการคาดการณ์ของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน