จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 201

ตำหนักเจ้าเมืองตระกูลฉิน

สถานที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางการปกครองของเมืองเหล็กดำ ร่วมกับสภาอาวุโสและจวนแม่ทัพรักษาเมือง

โดยที่ตำแหน่งเจ้าเมือง จะได้รับการสืบทอดต่อให้ทายาทสายตรงของตระกูลเท่านั้น ไม่เคยมีคนนอกได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน

เมื่อสี่พันปีก่อน บรรพบุรุษของตระกูลฉินได้รับแต่งตั้งให้เป็นอ๋องแห่งทิศประจิม นำพากองกำลังส่วนตัว ออกจากเมืองหลวงเดินทางไปถึงสถานที่ห่างไกล แล้วก่อตั้งเมืองเหล็กดำขึ้นมา

เนื่องจากเขาเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่งและกล้าหาญ และเป็นน้องชายแท้ๆของปฐมฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ต้าฉิน ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจที่สุดในเวลานั้น

เขาจึงได้รับมอบหมายหน้าที่อันสำคัญ ในการปกป้องพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นต้นกำเนิดของตระกูลฉินทั้งหมด สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าชีพจรมังกรจักรพรรดิ

ตราบใดที่สร้างสุสานบรรพชนไว้ที่นี่ ราชวงศ์ฉินจะรุ่งเรืองต่อเนื่องไปอีกหลายพันปี เรื่องนี้ถือเป็นความลับสุดยอด ที่มีเพียงแค่ปฐมฮ่องเต้กับบรรพบุรุษตระกูลฉินเท่านั้นที่รู้ความจริง ส่วนคนอื่นที่รู้ล้วนถูกสังหารทิ้งจนหมด เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล

จนกระทั่ง ถึงตอนที่บรรพบุรุษตระกูลฉินกำลังสิ้นอายุขัย เขาก็ไม่ได้บอกความลับนี้ออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวนี้เล็ดลอดออกไปเข้าหูฝ่ายศัตรู เขาเพียงแค่ทิ้งคำสั่งเสียไว้ให้ลูกหลานปกป้องเมืองแห่งนี้ด้วยชีวิต

แต่ก็ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือสวรรค์เบื้องบนลิขิตเอาไว้ ในการปฏิบัติภารกิจลับครั้งหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน ผู้อาวุโสฉินซู่โหวซึ่งเป็นสายลับของสำนักซงซานเกิดไปพบความลับนี้เข้า

เขาได้รู้ถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิด ว่ามันคือเส้นชีพจรมังกรจักรพรรดิที่ตั้งอยู่บนเหมืองหินวิญญาณระดับสูงขนาดใหญ่

ด้วยความโลภ เขาจึงนำข่าวนี้ไปรายงานต่อเจ้าสำนักซงซาน และได้รับค่าตอบแทนมหาศาล จนสามารถยกระดับขึ้นมาสู่ขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยสาเหตุที่เมืองเหล็กดำ อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของแค้วนต้าฉินนัก มันจึงถูกจัดอยู่ในอาณาเขตปกครองของพรรคกระยาจกซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสำนักใหญ่

เจ้าสำนักซงซานจึงไม่กล้าทำการโดยประมาท เขาต้องการยึดครองสถานที่แห่งนี้โดยไม่มีใครรู้

บนโลกหมิงหลงแห่งนี้ มีเหมืองหินวิญญาณระดับสูงที่ถูกค้นพบแล้ว เพียงแค่สองแห่งเท่านั้น ซึ้งล้วนแต่ถูกควบคุมโดยสมาพันธ์บู๊ลิ้มอย่างเข้มงวด ในแต่ละปีสำนักโบราณอื่นๆจะได้รับหินวิญญาณระดับสูงเพียงสองร้อยก้อนเท่านั้น

สิ่งนี้เป็นของสำคัญที่ช่วยให้ขอบเขตเซียนฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว ถ้าสำนักซงซานสามารถเป็นเจ้าของเหมืองหินวิญญาณระดับสูงได้ เพียงไม่ถึงสิบปีพวกย่อมสามารถให้กำเนิดยอดฝีมือระดับเซียนขั้นสูงสุดมากมาย

หรือแม้กระทั่งขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาที่เป็นเป้าหมายของพวกเขา ก็ยังมีโอกาสบรรลุเพิ่มขึ้นหลายส่วน

เมื่อถึงเวลานั้น สำนักซงซานจะกลายเป็นสำนักใหญ่อันดับที่หกของสมาพันธ์บู๊ลิ้มอย่างแน่นอน

ดังนั้นตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงดำเนินการอย่างรัดกุม โดยให้ผู้อาวุโสฉินซู่โหวเข้ายึดอำนาจจากตระกูลเจ้าเมืองอย่างช้าๆ

ทำให้เหมือนกับเป็นการแย่งชิงอำนาจของผู้คนในโลกหมิงหลงเอง ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักโบราณ เป็นแบบนี้จะได้ไม่กระตุ้นความสนใจจากพรรคกระยาจก

ภายในตัวตึกด้านใน ที่ได้การคุ้มกันอย่างหนาแน่นโดยยอดฝีมือตระกูลฉิน สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักของฉินป๋ออวิ๋น อดีตผู้นำตระกูลฉินที่กำลังจะสิ้นอายุขัย

เพราะข้อมูลที่ได้รับมา มันถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ตัดสินชะตากรรมของเมืองเหล็กดำทั้งหมด คังหลินจึงตัดสินใจเล่าให้พ่อและปู่ของเขาฟัง

พวกเขาจำเป็นต้องหาวิธีรับมืออย่างรวดเร็วที่สุด

“ ไม่นึกเลย…ฉินซู่โหวจะเป็นคนทรยศมาตั้งแต่ต้น นี่เป็นความผิดพลาดของฉันเองที่มอบตำแหน่งสำคัญให้เขา หากไม่ได้ฉินหวงช่วยไว้ ตระกูลเราคงจบสิ้นแล้ว ” ฉินกวงลี่พูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด

เมื่อสิบปีก่อนเป็นตัวเขาเองที่มอบตำแหน่งผู้บัญชาการเงาปีศาจให้อีกฝ่าย แถมหลังจากนั้นยังดึงมาเข้าร่วมสภาอาวุโสอีก นี่เหมือนเป็นการเรียกโจรเข้าบ้านแท้ๆ

“ อาหนาน…เรื่องผู้คุมคนนั้นเธอจัดการไปหรือยัง ” ฉินป๋ออวิ๋นถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เรื่องนี้จะปล่อยให้คนนอกรู้ไม่ได้เด็ดขาด

“ ผมสั่งให้ควบคุมตัวเขาเอาไว้แล้ว...จนกว่าเรื่องนี้จะจบ เขาจะต้องเก็บตัวอยู่ในห้องของตัวเองห้ามออกมาหรือพูดคุยกับใคร ” คังหลินเข้าใจความหมายของปู่ตัวเอง แต่ตัวเขาไม่ใช่คนเลือดเย็น ผู้คุมคุกทำงานรับใช้ตระกูลฉินมายี่สิบปี จะให้สังหารทิ้งโดยไม่มีความผิดนั้นเขาทำไม่ได้

“ เอาเถอะ…ถ้าหลานเลือกแบบนั้น ปู่ก็จะไม่ยุ่งก็แล้วกัน ” ฉินป๋ออวิ๋นถอนหายใจเบาๆที่คังหลินใจอ่อน ไม่ยอมสังหารผู้คุมเพื่อรักษาความลับ

แต่ยังไงซะ วิธีของคังหลินก็ถือว่ารอบครอบในระดับหนึ่ง เขาจึงไม่อยากให้ผิดใจกันด้วยเรื่องแค่นี้

“ เรื่องนี้เราจะจัดการยังไงดี…หากเอาข้อมูลนี้ไปบอกพรรคกระยาจก จุดจบก็คงไม่ต่างกัน พวกเราและประชาชนทั้งหมดคงถูกขับไล่ไปจากเมืองแห่งนี้ สุสานบรรพชนตระกูลฉินจะถูกขุดขึ้นมา และเปลี่ยนเป็นเหมืองหินวิญญาณแทน ”

“ หรือต่อให้เราแจ้งทางราชสำนักไปก็คงไม่ต่างกัน…พวกเขาไม่สามารถต่อต้านสำนักซงซานได้อยู่ดี ” ฉินกวงลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่มีหนทางรอดสำหรับตระกูลฉินเลย

“ หลานรู้วิธีที่ฉินซู่โหวใช้ติดต่อกับสำนักซงซานไหม…พวกเราสามารถสร้างฉินซู่โหวตัวปลอมขึ้นมา แล้วถ่วงเวลาต่อไปได้หรือเปล่า ” ฉินป๋ออวิ๋นถามด้วยสีหน้าจริงจัง

ยังไงซะ เรื่องความสัมพันธ์กับสำนักซงซานก็ถือเป็นความลับสุดยอด ฉินซู่โหวไม่มีทางบอกลูกน้องตัวเองแน่นอน บางทีเรื่องการต่อสู้เมื่อสองวันก่อนสำนักซงซานอาจจะยังไม่ล่วงรู้ที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน