จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 212

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้เซียวคงอู่ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเคร่งเครียด กระบวนท่าปิดฉากของจ้าวเทียนแม้แต่ตัวเขาเอง ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้

“ ไปช่วยรักษาหลี่ไท่หยางสิ…นี่มันหน้าที่พวกแกไม่ใช่เหรอ ” เซียวคงอู่หันไปสั่งผู้คุมกันที่ยืนดูอยู่ด้านข้าง จนอีกฝ่ายรีบวิ่งเข้าไปดูอาการคนได้รับบาดเจ็บด้วยความลนลาน

“ นายน้อย…พวกเราจะเอายังไงต่อ จากที่ฉันประเมินดูแล้ว พลังฝีมือของฝ่ายตรงข้ามเหนือกว่าปรมาจารย์ขั้นสูงปกติมาก ไม่แน่ว่า อีกฝ่ายอาจจะสามารถผ่านการทดสอบหุ่นเหล็กได้สบายด้วยซ้ำ ” เซียนอีกคนพูดขึ้นแววตาครุ่นคิด

เซียวคงอู่ที่ได้ยินก็แอบพยักหน้าเห็นด้วย แต่ต่อให้อีกฝ่ายจะมีความสามารถจริง ก็ไม่ได้ทำให้เขายอมถอย เพราะเขาได้รับปากสหายไปแล้ว ว่าจะพาพวกเขาเข้างานชุมนุมกระบี่ให้ได้

อีกทั้งต่อหน้าพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มากมายขนาดนี้ หากเขายอมถอยให้ปรมาจารย์ขั้นกลางเพียงคนเดียว คงรักษาหน้าภายในสำนักหัวซานไม่ได้อีก

“ แกชื่ออะไร…สังกัดอยู่หน่วยงานของเมืองไหน ” เซียวคงอู่ถามจ้าวเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ฉินหวง…เมืองเหล็กดำ ” จ้าวเทียนตอบสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย กระบี่ในมือเขายังคงไม่เก็บเข้าฝัก เพราะดูแล้วการต่อสู้มันยังไม่จบแค่นี้แน่นอน

“ ดี…ฉินหวงสินะ ฉันคือเซียวคงอู่ พ่อของฉันมีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสรอง ดูแลศิษย์สายในสำนักหัวซานทั้งหมด จากที่ฉันดู ด้วยพลังของแกย่อมสามารถผ่านการทดสอบได้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องใช้ป้ายตัวแทนเลย ”

“ เพราะฉะนั้นถ้าแกยอมมอบป้ายมา…ฉันจะถือว่าแกเป็นสหาย ครั้งหน้าหากแกมีเรื่องเดือดร้อนสามารถมาขอพึ่งพาฉันได้ ” เซียวคงอู่พูดออกมาด้วยความใจกว้าง

เขาเชื่อว่าจ้าวเทียนจะเห็นด้วย เพราะอีกฝ่ายแทบไม่ต้องเสียอะไรเลย ทั้งยังทำให้เขาติดหนี้บุญคุณหนึ่งครั้ง

อย่าได้เห็นว่าเซียวคงอู่มีนิสัยไม่ดีแบบนี้ แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนที่รักษาสัญญาเสมอ นี่จึงเป็นสาเหตุที่หลี่ไท่หยางเลือกติดสินบนเขา ให้พาเข้างาน

“ หืม…เป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องฉัน แต่พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็ยกพ่อตัวเองมาอ้างงั้นเหรอ จริงอยู่ที่ฉันสามารถผ่านการทดสอบได้แน่นอน ”

“ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ฉันจะต้องมอบป้ายนี้ให้…ถ้าแกอยากได้มันจริงๆ ก็แสดงความสามารถออกมา ขอเพียงแกรับมือฉันได้หนึ่งนาที ฉันจะยอมส่งมอบป้ายให้ด้วยความเต็มใจ ”

คำพูดของจ้าวเทียนทำให้ ทุกคนผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนแอบชูนิ้วโป้งให้ พวกเขารู้สึกหมั่นไส้พวกนายน้อยเซียวมาตั้งแต่แรกแล้ว

อีกฝ่ายถือดีว่ามีพื้นหลังใหญ่โต ใช้วิธีโกงกันซึ่งๆหน้า ไม่เห็นหัวพวกเขาที่ต้องก้มหน้าเข้ารับการทดสอบแม้แต่น้อย

ส่วนคำพูดของจ้าวเทียน ที่บอกให้ทนรับมือเขาให้ได้หนึ่งนาทีแล้วจะมอบป้ายให้นั้น เหมือนเป็นการดูถูกเซียวคงอู่อย่างเห็นได้ชัด

เพราะจ้าวเทียนเปรียบตนเองเป็นหุ่นเหล็ก ที่จะทำการทดสอบเซียวคงอู่ว่ามีคุณสมบัติเพียงพอจะเข้าร่วมงานหรือไม่

“ บัดซบ…แกกล้าดูถูกฉันงั้นเหรอ ”

“ แล้วยังไงล่ะ…แกมีความกล้าพอจะสู้กับฉันไหม ” จ้าวเทียนพูดท้าทายอีกครั้ง ถ้าไม่ติดเรื่องงานชุมนุมกระบี่ เขาคงจัดการอีกฝ่ายไปนานแล้ว

‘ ชายคนนี้ทำให้ฉันนึกถึงจางถง…เป็นพวกที่ดีแต่กดขี่คนอื่น สมควรสั่งสอนให้หนักๆ ’

เมื่อเห็นว่ากระตุ้นไปขนาดนั้นแล้วอีกฝ่ายยังไม่กล้า จ้าวเทียนจึงส่ายหน้าเบาๆด้วยความดูถูก แล้วเดินผ่านประตูเข้าไปด้านใน

“ ช้าก่อน! ”

!!

เสียงตะโกนที่ดังขึ้น ทำให้จ้าวเทียนหันกลับไปดูด้วยความแปลกใจ

‘ ไม่ใช่เสียงของเซียวคงอู่นี่…ยังมีคนอื่นต้องการหาเรื่องฉันงั้นเหรอ ’

“ นี่มัน… ” จ้าวเทียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ในโลกหมิงหลง ที่ได้รับสืบทอดวัฒนธรรมจีนแบบยุคเก่า

ชายหนุ่มหน้าใสพร้อมกับลูกน้องอีกสี่คน เดินตรงเข้ามาหาจ้าวเทียนด้วยท่วงท่าสง่างาม พวกเขาสวมชุดจีนคอปกสีดำ พร้อมกับหมวกและผ้าพันคอสีขาว เหมือนหลุดมาจากหนังมาเฟียจีนยุค 80

ใช่แล้ว…นี่มันเหมือนกับชุดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่พวกจ้าวเทียนสวมตอนงานประมูลเทียนจินไม่ผิด

แต่เมื่อจ้าวเทียนสังเกตดูดีๆ ก็พบว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นหญิงสาวปลอมตัวมา แถมเธอยังติดหนวดปลอมไว้ที่เหนือริมฝีปากอีกด้วย

“ องค์หญิงแคว้นต้าหมิง… ” หลี่ไท่หยางพึมพำออกมาเบาๆ แต่เพราะทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือ ทำให้พวกเขาได้ยินเต็มสองหู

‘ แคว้นต้าหมิงงั้นเหรอ…ตามข้อมูลของหน่วยเงาปีศาจ แคว้นนี้อยู่ภายใต้การปกครองของวัดเส้าหลิน ถือเป็นแคว้นมหาอำนาจที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในโลกหมิงหลง ’

‘ วัดเส้าหลินนั้นแตกต่างจากสำนักใหญ่อื่นๆ พวกเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกมากนัก ขอเพียงฮ่องเต้แคว้นต้าหมิงสนับสนุนศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำแคว้น และช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆให้ ’

‘ วัดเส้าหลินก็มอบอำนาจให้พวกเขา ได้ปกครองดูแลทรัพยากรต่างๆได้เต็มที่ แม้แต่กิจการเรื่องการขุดเหมืองหินวิญญาณเองก็เป็นของราชวงศ์หมิง ’

“ คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า ” จ้าวเทียนถามออกมาด้วยท่าทีเป็นมิตร เขารู้สึกว่าองค์หญิงคนนี้ดูน่าสนใจ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ที่โลกหมิงหลง

“ ป้ายตัวแทนนั่น…คุณสนใจขายต่อให้ฉันไหม ”

!!

“ เอ่อ…คุณพูดจริงเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกๆ

“ ใช่แล้ว…บอกราคามาได้เลย ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยชา เธอใช้นิ้วลูบหนวดปลอมเหนือริมฝีปากเล็กน้อย

“ ห๊ะ…นี่มัน ”

“ เดี๋ยวนะ…แบบนี้ก็ได้เหรอ ”

ผู้เข้าร่วมทดสอบคนอื่น เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที พวกเขาไม่คิดว่าจะเห็นการซื้อขายป้ายตัวแทนต่อหน้าต่อตาแบบนี้

องค์หญิงแคว้นต้าหมิงคนนี้มีชื่อว่า จูม่านฉี เธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงรักและเอ็นดูที่สุด ถึงขนาดแต่งตั้งเธอเป็นองค์หญิงรัชทายาทคนแรกในประวัติศาสตร์แคว้นต้าหมิง

ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก จูม่านฉีก็รู้สึกหลงใหลต่อวัฒนธรรมของโลกภายนอก ในตอนที่ประตูมิติเปิดออก เธอจะฝากศิษย์วัดเส้าหลินไปกว้านซื้อของเล่นแปลกๆจากโลกภายนอกเข้ามา

ถึงขั้นที่ว่า มีการคิดสมบัติเวทย์ที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า ในโลกภายนอกสามารถใช้งานในโลกหมิงหลงได้ ทั้งตู้เย็น โทรทัศน์ หรือแม้แต่เครื่องเล่นดีวีดี เธอต่างก็มีไว้ในครอบครองทั้งสิ้น

แน่นอนว่าเธอย่อมไม่พลาด ซีรี่ย์ที่โด่งดังเมื่อแปดปีก่อนอย่างเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ สามารถสังเกตได้จากชุดสั่งตัดอย่างดี ที่เธอกับผู้คุ้มกันสวมอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน