ณ ฐานบัญชาการหลักสมาพันธ์บู๊ลิ้ม
สถานที่แห่งนี้ เป็นจุดศูนย์กลางการปกครองโลกหมิงหลงทั้งหมด โดยปกติสำนักใหญ่ทั้งห้าจะส่งทูตตัวแทนมาประจำการเอาไว้
และจะมีสภาอาวุโสที่ถูกคัดเลือกมาจากสำนักระดับกลางคอยบริหารงาน จัดการเรื่องราวต่างๆ ก่อนจะส่งรายงานขึ้นไปให้เจ้าสำนักใหญ่ทั้งห้า
แต่เพราะปัญหาเรื่องความคิดเห็นไม่ลงรอยกันในการประชุมครั้งก่อน เกี่ยวกับการประกาศสงครามกับโลกภายนอก
ทำให้สองสำนักใหญ่อย่างวัดเส้าหลินและพรรคกระยาจก วางมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมาพันธ์บู๊ลิ้มในช่วงนี้
และแน่นอนว่า ตัวแทนจากสำนักระดับกลางบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ก็เลือกทำตามสองสำนักใหญ่ คือการถอนตัวไม่ยุ่งเกี่ยว ตัวอย่างของเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือสำนักคุนหลุน
ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ดูหรูหรา
วันนี้สามเจ้าสำนักใหญ่และสภาอาวุโสได้เปิดการประชุมฉุกเฉินขึ้น เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่พันธมิตรสี่สำนักเปิดสงครามกวาดล้างสำนักคุนหลุน
แน่นอนว่ามีเสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายเช่นเดิม เพราะสงครามระหว่างสำนักระดับกลาง เป็นข้อห้ามสำคัญที่มีบทลงโทษรุนแรงของสมาพันธ์บู๊ลิ้ม
เรื่องนี้มันกระทบเป็นวงกว้างเกินไป หากจัดการได้ไม่ดี อาจจะทำให้สมาพันธ์บู๊ลิ้มหมดความน่าเชื่อถือ ในสายตาของสำนักเล็กๆและสำนักระดับกลาง
“ พวกเราไม่สามารถยอมรับเรื่องเกิดขึ้นนี้ได้…ต่อให้พันธมิตรสี่สำนักจะกล่าวอ้างว่า ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อจับตัวผู้ถูกประกาศิตล่าสังหารก็ตามที ”
“ พวกเขาไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน…แต่กลับอาศัยเพียงข่าวลือจากชนพื้นเมืองโลกหมิงหลง แล้วเข้าทำลายสำนักระดับกลางแบบนี้ มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ”
“ ฉันขอเสนอให้พวกเรา รีบส่งคนออกไปหยุดการสู้รบทันที ” เจ้าสำนักคงท้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
เมื่อสองชั่วโมงก่อนเจ้าสำนักซงซานได้แจ้งเรื่องเข้ามา ว่าสำนักคุนหลุนได้ให้ที่หลบซ่อนตัวแก่ผู้ถูกประกาศิตล่าสังหาร จึงขอระดมกองกำลังเข้าปราบปราม ซึ่งดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นการแก้แค้นเรื่องส่วนตัว
แม้สำนักคงท้งจะเห็นด้วยกับการประกาศสงครามกับโลกภายนอก แต่นั่นก็เพราะมีเหตุจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น อีกทั้งพวกเขาไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับจ้าวเทียน
จึงไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่ายจนต้องทำทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการ
‘ เหยียนซืออู่เองก็เป็นสหายของฉัน…ในตอนที่เขาไม่อยู่ ฉันไม่มีทางยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับสำนักของเขาเด็ดขาด ’
“ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง…ตอนนี้พวกเรากำลังตรวจสอบข้อมูล คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะรู้ผล ถึงตอนนั้นพวกเราก็ค่อยส่งคนไปจัดการไม่ดีกว่าหรือ ” ประมุขนิกายหมื่นภูติตอบกลับอย่างใจเย็น
“ ไร้สาระ…คุณให้ฉันรอมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว หากยังรอต่อไป ถึงแม้จะรู้ผลการตรวจสอบ สำนักคุนหลุนก็คงถูกทำลายไปแล้ว ” เจ้าสำนักคงถ้งพูดขึ้นด้วยความโมโห เขาดูออกว่าอีกฝ่ายพยายามถ่วงเวลา ให้กองกำลังสี่สำนักกวาดล้างสำนักคุนหลุนได้สำเร็จ
“ ฉันก็แค่ทำตามขั้นตอนเท่านั้น…เพราะหน้าที่ของฉันคือการสืบข่าวสารให้สมาพันธ์ของพวกเรา เพราะงั้นคุณช่วยรอต่อไปอย่างใจเย็นเถอะ ”
“ ไม่ต้องเป็นห่วง…หากสำนักคุนหลุนเป็นผู้บริสุทธิ์ ทางสมาพันธ์จะลงโทษกองกำลังสี่สำนักเอง ”
พูดจบประมุขนิกายหมื่นภูติ ก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูก ตำแหน่งของเขานั้นสูงกว่า คำพูดย่อมมีน้ำหนักกว่าแน่นอน
‘ จ้อเซียงหยุนรับปากฉันแล้ว…ว่าจะมอบผลประโยชน์ให้สองส่วน ขอเพียงถ่วงเวลาไปอีกซักชั่วโมง พวกเขาก็คงทำได้สำเร็จ ’
เรื่องคลังสมบัติลับของสำนักคุนหลุนนั้น เขาเองก็เคยได้ยินมาเช่นกัน สิ่งนี้มันดึงดูดความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก
“ ท่านผู้นำ…เรื่องนี้ ” เจ้าสำนักคงถ้งเปลี่ยนไปขอร้อง เจ้าสำนักใหญ่ทั้งสามแทน เพราะสุดท้ายแล้วอำนาจตัดสินใจทั้งหมดก็อยู่ที่ผู้นำทั้งสามคน
ตอนนี้ทุกสายตาให้ห้องประชุม ต่างก็จ้องมองไปยังเจ้าสำนักใหญ่ทั้งสามเป็นสายตาเดียว
“ พวกเราจะรอการตรวจสอบต่อไป ” นักพรตฮวยเหล็งพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยชา เมื่อไม่มีวัดเสาหลินกับพรรคกระยาจก ตำแหน่งที่นั่งของประธานก็ตกเป็นของเขา
‘ ฉันไม่สนใจเรื่องสมบัติอะไรพวกนั้น…แต่หากสำนักคุนหลุนให้ที่หลบซ่อนแก่จ้าวเทียนจริงๆ พวกเขาก็สมควรถูกทำลาย ’
ผ่านมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่พวกเขาได้ใช้ประกาศิตล่าสังหาร แต่กลับไม่สามารถจัดการจ้าวเทียนได้ เรื่องนี้ทำให้สมาพันธ์บู๊ลิ้มเสียหน้ามาก อีกฝ่ายเหมือนกับหายตัวไปจากโลกนี้
แม้กระทั่ง ถึงกับมีคนลงความเห็นว่าจ้าวเทียนได้ใช้วิธีการบางอย่าง หลบหนีออกไปโลกภายนอกแล้ว แต่นั่นไม่สามารถเป็นไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน