จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 301

นับตั้งแต่ยุคมหาสงครามเทพมารเมื่อหนึ่งล้านปีก่อนเป็นต้นมา จักรวาลก็ถูกปกครองโดยแดนสวรรค์สูงสุด โดยมีองค์มหาเทพเป็นผู้บัญญัติกฎเกณฑ์ของสรรพสิ่ง

ซึ่งการที่เทพโลกาขั้นเก้าจะขึ้นเป็นมหาเทพได้นั้น จะต้องหลอมรวมมหามรรคาเพื่อบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพ ขั้นตอนนี้ยากเย็นแสนเข็นเป็นอย่างมาก ในบรรดาเทพโลกาขั้นเก้านับร้อยในยุคสมัยหนึ่ง อาจจะมีผู้ทำสำเร็จได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จักรวาลสามารถรองรับจักรพรรดิเทพได้เพียงองค์เดียว หากจักรพรรดิเทพองค์เก่ายังไม่สิ้นอายุขัย แต่กลับมีจักรพรรดิเทพองค์ใหม่ถือกำเนิดขึ้น ทั้งสองก็ต้องเปิดศึกตัดสินเป็นตายกันทันที

ไม่อย่างนั้น…ระดับพลังและอายุขัยของตนจะเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเหลือเพียงขอบเขตเทพโลกาขั้นเก้าดังเดิม

ตลอดเวลาหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีจักรพรรดิเทพสององค์ในยุคสมัยเดียวกันถึงเจ็ดครั้ง และทุกครั้งจะเป็นจักรพรรดิเทพองค์เก่าที่เป็นผู้ชนะ เนื่องจากสั่งสมพลังมายาวนานกว่า

แต่ทว่าเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ผลลัพธ์กลับไม่เป็นดังเช่นที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้ จักรพรรดิเทพจูเซียนได้เอาชนะมหาเทพองค์เก่า ซึ่งปกครองแดนสวรรค์มายาวนานถึงห้าหมื่นปีอย่างราบคาบ

การต่อสู้ครั้งนั้นกินระยะเวลาถึงหนึ่งเดือน และท่ามกลางสายตาของสักขีพยานมากมาย จักรพรรดิเทพจูเซียนก็ทำได้สำเร็จ เขาได้สังหารคู่ต่อสู้แล้วขึ้นเป็นมหาเทพองค์ต่อไป

เรื่องนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับแดนสวรรค์ และโลกทิพย์ทั้งหมดเป็นอย่างมาก เพราะจักรพรรดิเทพจูเซียนเป็นผู้เดียวในรอบล้านปีที่ทำได้

ถึงแม้เรื่องราวทุกอย่างของมหาเทพจูเซียน จะถูกลบออกจากบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว แต่รายละเอียดการต่อสู้ในครั้งนั้นยังคงหลงเหลืออยู่ และก็ถูกจ้าวเทียนสืบค้นจนเจอ ในตอนที่เขายังเป็นมหาเทพตี้เทียนปกครองแดนสวรรค์

‘ ไม่คิดเลยว่า…ฉันจะมีโอกาสเผชิญหน้ากับบุคคลในตำนานแบบนี้ ’

ในใจของจ้าวเทียนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง นอกจากเทพอสูรผมแดงแล้ว ก็ไม่มีใครทำให้จ้าวเทียนรู้สึกแบบนี้มาก่อน

มหาเทพจูเซียนนับเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับตัวเขาที่สุด เนื่องจากตัวเขาเองก็เป็นผู้ที่โค่นล้มมหาเทพองค์เก่าแล้วขึ้นแทนที่เช่นกัน

ทางด้านมหาเทพจูเซียน หลังจากที่ประกาศนามออกไปแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีก สายตาของเขามองดูจ้าวเทียนอย่างครุ่นคิด

ว่าเหตุใดมดปลวกตรงหน้าจึงไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวเขาแม้แต่น้อย

แวบ!

นัยน์ตาสีทองของมหาเทพจูเซียนเปล่งแสงอันเจิดจ้าออกมา พลังงานแห่งกฎเกณฑ์บางอย่างได้ปกคลุมร่างกายของจ้าวเทียนเอาไว้ โดยที่เขาไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย

“ หืม…จิตวิญญาณที่ข้ามผ่านกาลเวลามาจากอนาคตงั้นเหรอ ” มหาเทพจูเซียนพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ เนื่องจากไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน สายตาที่เขาใช้มองดูจ้าวเทียนเปลี่ยนไปทันที

“ ปิดบังคุณเอาไว้ไม่ได้จริงๆ ขนาดเป็นเพียงเจตจำนงที่หลงเหลืออยู่ในชิ้นส่วนอาวุธเทพเจ้า กลับสามารถตรวจสอบที่มาของฉันได้ สมแล้วที่เป็นมหาเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ในโลกที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ จะวัดกันที่ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพลังฝึกตน แตกต่างจากโลกภายนอก ที่เทพมังกรอ๋าวเฟิงสามารถใช้ขอบเขตพลังที่เหนือกว่าตรวจสอบจ้าวเทียนได้ทันที

“ เหอะ…คิดจะทดสอบเรา เด็กน้อยอย่างเจ้ามีความสามารถพองั้นรึ จงประกาศนามออกมาซะ ” มหาเทพจูเซียนพูดขึ้นเสียงดัง แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่การแสดงกิริยาแบบนี้ต่อตัวเขานั้นถือเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้

แดนสวรรค์นั้นเข้มงวดเรื่องสถานะและชนชั้นมาก ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าจะต้องให้ความเคารพกับผู้ที่อยู่สูงกว่า นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคโบราณ

จ้าวเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดขึ้น

“ ในเวลานี้ฉันใช้ชื่อว่าจ้าวเทียน…เป็นเพียงผู้ฝึกระดับต่ำเทียบเท่าขอบเขตปราณทิพย์ของแดนสวรรค์เท่านั้น ”

“เป็นไปไม่ได้…ผู้ฝึกตนขอบเขตปราณทิพย์ ไม่มีทางทนรับกลิ่นอายจักรพรรดิของตัวเราได้แน่นอน จงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาซะ ” มหาเทพจูเซียนพูดขัดขึ้นด้วยแววตาเย็นชา

แม้กระทั่งเทพโลกาเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ยังต้องตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว อย่าว่าแต่ขอบเขตปราณทิพย์ซึ่งอยู่ต่ำกว่าหลายขั้นเลย

เมื่อเห็นท่าทีไม่พอใจของอีกฝ่าย จ้าวเทียนก็พูดขึ้นต่อด้วยเสียงอันดัง

“ นี่เป็นเรื่องจริง…จ้าวเทียนนั้นคือตัวตนของฉันในปัจจุบัน ส่วนในอนาคตอีกหนึ่งแสนปีข้างหน้า ทั่วทั้งจักรวาลจะรู้จักฉันในชื่อ ”

“ มหาเทพตี้เทียน! ”

บูมมม!

สิ้นเสียง ออร่าจักรพรรดิก็ระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียนทันที คลื่นพลังอันแข็งแกร่งกวาดออกไป ทำให้จักรวาลทั้งหมดสั่นสะเทือนอีกครั้ง

วูป!

ดวงดาวนับร้อยได้อับแสงลง ถูกแรงดึงดูดมหาศาลชักนำเข้ามาหลอมรวมกันเป็นร่างทิพย์สิบตะวัน ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ากับมหาเทพจูเซียน ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันแม้แต่น้อย

เมื่อร่างในชุดคลุมจักรพรรดิและสวมมงกุฎราชันสีทองปรากฏขึ้น เจตจำนงอันแข็งแกร่งก็ระเบิดออกมาและกวาดไปทั่วในพริบตาเดียว

ครืนนนน!

โดยมีจ้าวเทียนเป็นศูนย์กลาง เจตจำนงจักรพรรดิของมหาเทพจูเซียนที่ปกคลุมทั่วทั้งจักวาลได้ถูกผลักดันกลับไป เกิดเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างมหาเทพทั้งสององค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน