จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 303

ในบรรดาแก่นแท้ทั้งหมด อันดับหนึ่งและสองคือแก่นแท้แห่งมิติและเวลา เพราะเป็นกฎเกณฑ์ขั้นสูงของจักวาล อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งมวล

ส่วนที่รองลงมาอันดับที่สามและสี่ ก็คือแก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย เนื่องจากเป็นการหลอมรวมระหว่างวิถีแห่งการถือกำเนิดใหม่และการทำลายล้าง ซึ่งเปรียบเสมือนเหรียญที่มีสองด้าน ทำให้สามารถฝึกฝนควบคู่กันไปได้

แต่ทว่า ความยากในการที่จะบรรลุได้นั้น มันเหนือไปกว่าแก่นแท้มิติและเวลามากนัก และไม่มีทางที่ชั่วชีวิตของผู้ฝึกตนคนหนึ่งจะสามารถทำได้สำเร็จ

ลองคิดดูง่ายๆ ว่าจะต้องเกิดใหม่อีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจแก่นแท้ของชีวิต และจะต้องตายไปอีกสักกี่หน ถึงจะเข้าใจแก่นแท้แห่งความตาย

มีเพียงผู้ที่ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน และสามารถจดจำทุกวินาทีในการเกิดดับของตนเองในอดีตชาติที่ผ่านมา อย่างมหาเทพจูเซียนเท่านั้นถึงจะทำได้สำเร็จ

ตลอดเวลายี่สิบวันที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่จ้าวเทียนตัดศีรษะของฝ่ายตรงข้ามได้ หรือฟันอีกฝ่ายขาดออกเป็นชิ้นๆ

แต่สุดท้าย…มหาเทพจูเซียนก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ในพริบตาทุกครั้ง และก็คงรวมไปถึงครั้งนี้เช่นกัน

แวบ!

อณูแสงขนาดเล็กเท่าฝุ่นผงนับล้านๆ ได้ถูกดึงดูดให้มาหลอมรวมกันตรงจุดที่มหาเทพจูเซียนเคยอยู่

จากนั้น เสียงของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังออกมาจากทุกสรรพสิ่งในจักวาลแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวทุกดวง ก้อนหินทุกก้อน แม่น้ำ ต้นไม้ ท้องฟ้าและผืนดิน

“ เคล็ดกายาอมตะมิดับสูญ! ”

วูป!

อณูแสงได้รวมกันเป็นร่างของชายผู้หนึ่ง มหาเทพจูเซียนได้ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าจ้าวเทียนอีกครั้ง โดยปราศจากบาดแผลใดๆ

“ ตอนนี้ ฉันเข้าใจความรู้สึกของราชันมังกรทมิฬ และมหาเทพองค์ก่อนที่เคยต่อสู้กับคุณแล้ว ช่างเป็นความสามารถที่เอาเปรียบคนอื่นจริงๆ ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างอ่อนใจ

เมื่อต้องเจอกับคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ที่ฆ่าอย่างไรก็ไม่ยอมตายเสียที ไม่ว่าใครก็คงต้องรู้สึกสิ้นหวังอย่างช่วยไม่ได้

“ ตราบใดที่ข้ายังคงยึดมั่นในเจตจำนงแห่งตนเอง ชีวิตของข้าจะเป็นนิรันดร์ไม่มีวันดับสูญ มหาเทพผู้มาจากห้วงเวลาในอนาคตเช่นเจ้า ไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก”

มหาเทพจูเซียนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ คู่ต่อสู้ของเขาทุกคนต่างก็พ่ายแพ้ไปเพราะสาเหตุนี้

“ คุณคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ ” จ้าวเทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย สายตาของเขาจ้องมองไปยังแผ่นอกของมหาเทพจูเซียน ตรงตำแหน่งที่เขาชกใส่

“ นี่มัน…เกิดจากตอนนั้นงั้นเหรอ ” มหาเทพจูเซียนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที

มีรอยหมัดของจ้าวเทียนอยู่บนอกข้างซ้ายของเขา และมันยังคงปลดปล่อยพลังทำลายล้างออกมาอย่างต่อเนื่อง จนแม้แต่ตัวเขาเองยังฟื้นฟูไม่ทัน

“ ขอเพียงฉันใช้หมัดทลายสวรรค์ไปอีกสามครั้ง คิดว่าร่างกายของคุณก็คงไม่อาจฟื้นฟูขึ้นมาได้อีก ถึงตอนนี้คงรู้แล้วใช่ไหม ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างเฉยชา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในพลังของตน จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เหมือนกับว่าพร้อมที่จะสู้ตลอดเวลา

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่จ้าวเทียนต้องการแสดงให้อีกฝ่ายเห็น แต่ภายในใจของเขานั้นรู้สึกปวดหัวกับความสามารถในการคืนชีพของอีกฝ่ายมาก

‘ สามหมัดงั้นเหรอ…ถ้ามันทำได้ง่ายขนาดนั้น ก็คงไม่ใช่เคล็ดวิชาที่ฉีกกฎเกณฑ์ของเอกภพแล้ว ตอนนี้ฉันใช้หมัดทลายสวรรค์ได้อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ’

ผ่านไปเกือบสิบนาที ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนเผชิญหน้ากันอยู่เงียบๆ โดยไม่มีผู้ใดกล้าลงมือเริ่มการต่อสู้ก่อน เพราะต้องคำนวณถึงปัจจัยต่างๆและผลลัพธ์สุดท้ายให้ดี

“ ตกลง…ครั้งนี้เจ้าชนะ ” มหาเทพจูเซียนเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน หลังจากที่ได้ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพราะตัวเขาเป็นเพียงเจตจำนงที่ไร้ซึ่งกายเนื้อ

หากฝืนต่อสู้กับอีกฝ่ายจนสลายไป ก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก

จ้าวเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งอก เขาสลายพลังของร่างทิพย์สิบตะวันจนกลับมามีขนาดตัวเท่าเดิมทันที ซึ่งมหาเทพจูเซียนก็ทำเช่นเดียวกัน เพื่อรักษาพลังที่เหลือของตนเอาไว้

“ ทีนี้ก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังได้แล้ว ใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาพอจะเดาออกแล้วว่าทำไม อีกฝ่ายถึงต้องทดสอบความแข็งแกร่งของตนก่อน

“ ได้…แต่ก่อนอื่น เจ้าช่วยบอกสาเหตุที่ต้องย้อนเวลากลับมาให้ข้าฟังก่อน เพราะดูเหมือนว่าพวกเราจะมีศัตรูคนเดียวกัน ”

“ สถานการณ์ในอนาคตอีกแสนปีข้างหน้า จะมีผลต่อแผนการและข้อมูลที่ข้าจะบอกเจ้าเป็นอย่างมาก ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น จ้าวเทียนก็บอกทุกอย่างที่เขารู้ตั้งแต่ที่ขึ้นเป็นมหาเทพ และข้อมูลเกี่ยวกับเต๋าสวรรค์ออกไปทันที โดยปิดบังเพียงเรื่องของเทพมังกร และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน