หลังจากที่จ้าวเทียนได้รู้แผนการของเต๋าแห่งสวรรค์ เขาก็ถามไปถึงข้อมูลขุมกำลังของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเรื่องที่สำนักจูเซียนซึ่งเป็นสำนักอันดับหนึ่งบนแดนสวรรค์ในยุคนั้น ได้ถูกกวาดล้างจนสิ้นซากในวันเดียว
เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะต่อให้ไม่มีมหาเทพจูเซียน แต่ในสำนักของเขาก็ยังมีเทพโลกาหลายสิบคน กับกองกำลังผู้ฝึกตนนับล้าน
ความแข็งแกร่งระดับนี้…ไม่ใช่สิ่งที่สำนักอื่นในยุคนั้นจะต่อกรได้
“ เรื่องนี้…มันเป็นเพราะตัวข้าเอง หลังจากที่ข้าพ่ายแพ้ให้กับเจ็ดมหาเทพยุคก่อน จิตวิญญาณของข้าก็ถูกเต๋าแห่งสวรรค์พยายามควบคุมเอาไว้ ”
“ มันสั่งให้ข้าลงมือสังหารทุกในสำนักด้วยตัวเอง แม้เจตจำนงที่เหลืออยู่ของข้าจะพยายามต่อต้าน แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ จนต้องทนมองดูมิตรสหายตกตายไปเรื่อยๆ”
“ สุดท้าย ทุกคนในสำนักรวมไปถึงคนรักของข้า ได้เซ่นสังเวยชีวิตตนเองใช้ค่ายกลเทวะขั้นสูงสุดเพื่อหยุดยั้งข้า และในการปะทะครั้งนั้นเอง ก็ได้ทำให้ตัวข้าได้รับบาดเจ็บหนัก จนกระบี่คู่กายหักออกเป็นชิ้นๆ ”
“ เจตจำนงที่หลงเหลือของข้าจึงอาศัยพลังเฮือกสุดท้าย ในตอนที่พลังของร่างกายอ่อนแอ ดิ้นหลุดออกจากผนึกของเต๋าแห่งสวรรค์ได้ และเข้าไปสิงสถิตยังเศษชิ้นส่วนของกระบี่ที่เชื่อมพันธะกัน”
“ และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตาหรือไม่ เศษกระบี่ชิ้นนั้นกลับกระเด็นไปปักกลางหน้าผากร่างไร้ชีวิตของบุตรสาวของข้าเอง ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ มหาเทพจูเซียนก็ถอนหายใจออกมา เพราะเป็นร่างกายของผู้สืบสายเลือดแห่งตน จึงทำให้เขาสามารถควบคุมได้อย่างไม่มีผลกระทบอะไร
“ นี่แสดงว่า…ผู้ที่ก่อตั้งสำนักสุสานโบราณขึ้นมาก็เป็นตัวคุณเองใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ ไม่ใช่ตัวข้าหรอก สำนักนี้เป็นของบุตรสาวข้าจริงๆ แต่เป็นเพียงสถานที่แก้เบื่อของนางเท่านั้น หลังจากที่หลบหนีลงมายังโลกมนุษย์ ข้าจึงได้วางแผนและหลบซ่อนตัวอยู่ในสำนักนี้ พร้อมทั้งผนึกตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันการสืบค้นของเต๋าแห่งสวรรค์ ”
“ และเพื่อป้องกันไม่ให้สำนักนี้ล่มสลายไป ก่อนจะถึงเวลาที่ตัวข้าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้ย้ายสำนักเข้ามาอยู่ในโลกใบเล็กที่ข้าสร้างขึ้น พร้อมกับทิ้งคำสั่งเสียให้ทุกคนในสำนักต้องหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก ”
ฟังมาถึงตรงนี้ จ้าวเทียนก็พอจะคาดเดาเรื่องราวต่อจากนั้นได้แล้ว ดูเหมือนเรื่องที่สำนักสุสานโบราณตามหาผู้ที่บรรลุเจตน์แห่งกระบี่ เพื่อมาช่วยเหลือผู้ก่อตั้งของตน
จะเป็นการตัดสินใจกันเองโดยพละการ ของเจ้าสำนักรุ่นก่อนๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไปนานเข้า เจ้าสำนักรุ่นหลังๆ ก็ถือเอาเรื่องนี้เป็นเป้าหมายของสำนัก
โดยไม่ได้รู้เลยว่า…เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมมหาเทพจูเซียนก็จะตื่นขึ้นมาเอง
“ จริงสิ…สหายของฉันคนหนึ่งได้เข้ารับการสืบทอดเคล็ดวิชามาแล้วถึงห้าวัน จนตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้สติเลย คุณช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหม ” จ้าวเทียนพูดออกมาตามตรง นี่เป็นจุดประสงค์ของเขาในตอนแรก
“ ห้าวันงั้นเหรอ…นี่ไม่น่าเป็นไปได้นะ ก่อนที่ข้าจะผนึกตัวเองแล้วเข้าสู่การหลับใหลอันยาวนาน ได้ตั้งเงื่อนไขสำหรับเข้ารับการสืบทอดไว้สูงมาก ”
“ มนุษย์ธรรมดาต่อให้มีพรสวรรค์แค่ไหน…ก็ทนได้ไม่เกิดสามวันเท่านั้น ยกเว้นสหายของเจ้าจะเป็นผู้ที่บรรลุขอบเขตปราณทิพย์ได้ก่อนอายุยี่สิบปี เทียบเท่าอัจฉริยะชั้นยอดบนแดนสวรรค์ จึงจะอยู่ได้นานกว่าคนอื่น ” มหาเทพจูเซียนอธิบายอย่างใจเย็น
เขาอาศัยความทรงจำส่วนหนึ่งของบุตรสาว มาสร้างเป็นโลกจิตวิญญาณเพื่อถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับศิษย์ในสำนักนี้
โดยที่เคล็ดวิชาพวกนั้น เขาได้ดัดแปลงมาจากเคล็ดวิชาในความทรงจำที่บุตรสาวของตนสร้างขึ้น เพื่อไม่ให้เคล็ดวิชาที่แท้จริงของสำนักจูเซียนถูกเปิดเผยออกไป จนทำให้ศัตรูตามร่องรอยจนเจอ
“ งั้นก็แปลกมาก…เพราะสหายของฉันมีพลังอยู่ในระดับปราณปฐพีเท่านั้น และยังมีอายุเกินยี่สิบปี ดูแล้วไม่น่าจะเข้าเงื่อนไขตามที่คุณบอก ” จ้าวเทียนเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา
“ ขอเวลาข้าได้ตรวจสอบซักครู่หนึ่ง…เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเจตจำนงของข้าก็อยู่ในภาวะหลับใหลมาโดยตลอด ทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย ”
แวบ!
ดวงตาของมหาเทพจูเซียนเปล่งแสงสีทองออกมา เจตจำนงของเขาได้กวาดออกไปสู่โลกภายนอก จากนั้นก็เข้าไปยังโลกแห่งความทรงจำของบุตรสาวตนเอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่กงเสี่ยวเหมยกำลังเข้ารับการทดสอบอยู่
!!
“ นี่มัน…เรื่องจริงงั้นเหรอ ” มหาเทพจูเซียนร้องออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นร่างของเขาก็หายไปจากตรงนั้นทันที โดยไม่ได้สนใจจ้าวเทียนที่ยืนรออยู่แม้แต่น้อย
“ เอ่อ… ” จ้าวเทียนรู้สึกพูดไม่ออกขึ้นมา
อย่างน้อยก่อนที่อีกฝ่ายจะจากไป ก็น่าจะบอกอะไรกับเขาบ้าง ไม่ใช่ทิ้งให้เขาอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณคนเดียวแบบนี้
‘ หรือว่า…จะมีปัญหาเกิดขึ้นกับกงเสี่ยวเหมยจริงๆ ’
เมื่อนึกถึงข้อนี้ จ้าวเทียนก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมา รีบใช้พลังของตนฉีกช่องว่างมิติออกไปสู่โลกภายนอก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นของมหาเทพจูเซียน ทำให้จ้าวเทียนต้องสิ้นเปลืองพลังจิตวิญญาณเยอะมากกว่าจะทำได้สำเร็จ
แคว่กก!
วูป!
ช่องว่างมิติ ได้ดึงดูดร่างของจ้าวเทียนหายไปจากตรงนั้นในพริบตา…
ในเวลาเดียวกัน
ภายในโลกจิตวิญญาณที่กงเสี่ยวเหมยกำลังเข้ารับการสืบทอดอยู่ ได้มีช่องว่างมิติขนาดเล็กเกิดขึ้นเหนือท้องฟ้า และมหาเทพจูเซียนก็ก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน