จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 322

หลังจากที่ได้ยินคำแก้ตัวของผู้อาวุโสจากสำนักใหญ่ทั้งสาม จ้าวเทียนลองครุ่นคิดดูก็เห็นจะเป็นจริงตามนั้น

เพราะถ้าพวกเขาประสงค์ร้ายจริงๆ คงไม่พาตัวเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับจ้าวเทียนตั้งแต่แรก ต้องเข้าใจว่าด้วยความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนในตอนนี้ การจะสังหารพวกเขาทั้งสามคนใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น

“ ศิษย์พี่เปิดใช้ค่ายกลเถอะ จะปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาในเมืองหลวงไม่ได้เด็ดขาด ” จ้าวเทียนส่งเสียงทางลมปราณไปหาคังหลิน

กองกำลังครึ่งก้าวเซียนนภายี่สิบคนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้แต่ตัวจ้าวเทียนเองก็รับมือได้ครั้งละสิบคนเท่านั้น นี่คือขีดจำกัดของเขาแล้วในตอนนี้

“ ตกลง ” คังหลินพยักหน้าตอบด้วยสีหน้าจริงจัง เขาก็ไม่อยากเอาชีวิตของประชาชนนับล้านมาเสี่ยงเช่นกัน

ถึงแม้ในตอนแรกเขาจะไม่อยากเป็นฮ่องเต้ก็ตาม แต่ในเมื่อได้รับตำแหน่งนี้มาแล้ว ก็ต้องทำมันให้ดีที่สุด เพราะนี่คือคติพจน์ประจำใจของตัวเขาเอง

แวบ!

คังหลินวาดฝ่ามือกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นภาพติดตาทับซ้อนหลายชั้น อักขระโบราณตัวแล้วตัวเล่าปรากฏขึ้นเรื่อยๆ

วูป!

“ ค่ายกลเทวะระดับต่ำ ยี่สิบแปดกลุ่มดาว! ”

สุดยอดค่ายกลป้องกันแห่งสำนักดาราสวรรค์ แม้จะปลดปล่อยอานุภาพออกมาได้เพียงสามส่วน เนื่องจากใช้หินวิญญาณระดับสูงเป็นแกน

แต่มันก็เพียงพอแล้ว ที่จะป้องกันการโจมตีจากศัตรูที่อยู่ต่ำกว่าเทพโลกาลงมา

ครืนนน!

ทั้งแปดทิศรอบนอกกำแพงของเมืองหลวง ได้ปรากกฎเสาลำแสงขนาดใหญ่พุ่งทะลุท้องฟ้า ก่อนจะเชื่อมประสานกันเป็นโดมรูปแปดเหลี่ยมปกคลุมทั้งเมืองเอาไว้

“ ประชาชนทุกคนของข้าไม่ต้องตื่นตระหนก…จงกลับไปเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัย จนกว่าจะได้รับแจ้งเตือนอีกครั้ง ”

เสียงของคังหลินดังออกมาจากม่านพลังที่ปกคลุมเมืองหลวงอยู่ ทำให้ความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น สงบลงอย่างรวดเร็ว

เพราะประชาชนทุกคนที่ได้ร่วมงานพิธีในตอนเช้า ต่างก็จดจำได้ว่าเป็นเสียงของฮ่องเต้ของพวกเขาเอง

“ นี่มันอะไรกัน…แคว้นต้าฉินสร้างค่ายกลระดับนี้ได้อย่างไร ” สามผู้อาวุโสหันหน้ามองกันเองด้วยความหวาดกลัว ค่ายกลนี้เหนือไปกว่าของสำนักพวกเขาหลายขั้น ไม่นึกเลยว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวพื้นเมือง

เห็นทีพวกเขา คงต้องประเมินขุมกำลังของจ้าวเทียนใหม่อีกครั้ง

“ ไปกันเถอะ ” จ้าวเทียนใช้พลังพาตัวคังหลินบินออกไปบนท้องฟ้า โดยมีหลวงจีนหมิงตี้ตามไปติดๆ

ส่วนพวกผู้อาวุโสจากสามสำนักนั้น ได้แต่ยืนมองหน้ากันเองด้วยความลังเล เพราะอีกใจหนึ่งพวกเขาก็หวังให้จ้าวเทียนพ่ายแพ้และถูกสังหารไป เรื่องทุกอย่างจะได้จบลง ไม่ต้องมาเจรจาให้เสียเวลา

ทันใดนั้น

วิ้งงง!

เส้นลำแสงสีขาวพุ่งตรงลงมาจากบนฟ้า เปลี่ยนเป็นกระบี่สีทองลายมังกร ที่กำลังหันคมกระบี่ชี้มาทางพวกเขาอย่างดุดัน

“ จะตามมาดีๆ หรือจะตายตรงนี้ เลือกเอาเอง! ”

เสียงอันเย็นชาของจ้าวเทียน ดังขึ้นในความคิดของสามผู้อาวุโส ทำให้พวกเขาต้องถอนหายใจยาว แล้วรีบบินตามขึ้นไปทันที

บนท้องฟ้าที่ความสูงประมาณสองพันเมตร

ตำแหน่งนี้เป็นจุดสูงสุดของค่ายกลพอดี พวกจ้าวเทียนได้ออกมาสังเกตการณ์ฝ่ายตรงข้าม เพื่อวางแผนรับมือล่วงหน้า เพราะยังไม่แน่ว่าค่ายกลนี้จะสามารถต้านทานเอาไว้ได้หรือเปล่า

“ นายคิดว่า สามคนนั้นจะตามออกมาไหม ” คังหลินหันไปถามจ้าวเทียน

“ ต้องมาสิ ถ้าพวกเขาไม่อยากตายยังไงก็ต้องมาแน่นอน ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างมั่นใจ

ตัวเขารู้ดีว่าหากเกิดการต่อสู้ขึ้น สามคนนั้นไม่มีทางลงมือช่วยเหลือแน่นอน เพราะอย่างไรเสียก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายก็เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว

บางทีถ้าจ้าวเทียนพ่ายแพ้และถูกสังหารไป สามคนนั้นอาจจะโห่ร้องด้วยความดีใจก็เป็นได้

ดังนั้น จ้าวเทียนจึงต้องการควบคุมพวกเขาเอาไว้ เพื่อจับตาดูอย่างใกล้ชิด หากทั้งสามคนมีอะไรผิดปกติหรือแสดงท่าทีจะแปรพักตร์ เขาก็จะได้ลงมือตัดไฟเสียแต่ต้นลม

‘ ฉันได้อ่านความทรงจำของทูตมังกรมาแล้ว ยอดฝีมือระดับสูงสุดยี่สิบคนนี้ไม่ใช่คนของพวกเขาแน่นอน ’

‘ ซึ่งถ้าตัดสมาพันธ์บู๊ลิ้มออกไป ขุมกำลังเดียวที่พอจะส่งกองกำลังระดับนี้ออกมาได้ ก็น่าจะเป็นตำหนักเทวะ ’

‘ บางที นี่อาจจะเป็นการตอบโต้ของเจ้าตำหนักเทวะก็ได้ หลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับฉันและเทพกระบี่ ’

ตอนนี้ในเมืองหลวง มีเหล่าคนสำคัญของจ้าวเทียนอยู่มากมาย เขาไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นแน่นอน

“ ศิษย์น้อง ฉันถามจริงๆเถอะ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของนายอยู่ในระดับไหนแล้ว ” คังหลินถามขึ้นด้วยความสงสัย หลังจากเห็นสามผู้อาวุโสออกมาตามที่จ้าวเทียนบอกจริงๆ

‘ แค่ศิษย์น้องส่งกระบี่ไปเล่มเดียว พวกเขาก็กลัวกันหัวหดขนาดนี้เลยเหรอ เสียดายที่ร่างนี้ของฉันอ่อนแอเกินไป เลยไม่อาจสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของศิษย์น้องได้ชัดเจน ’

เมื่อได้ยินแบบนั้น จ้าวเทียนก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งออกไปเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับคำพูดหนึ่งคำ

“ ขอบเขตแดนเทพ… ”

!!

“ ห๊ะ…นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหม ” คังหลินอดยิ้มแห้งๆออกมาไม่ได้ เพราะกว่าที่เขาจะบรรลุขอบเขตแดนเทพได้ก็มีอายุเกือบสองร้อยปีเข้าไปแล้ว แต่นี่จ้าวเทียนเพิ่งจะมีอายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน