จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 542

ณ ทะเลสาบมรกต คฤหาสน์ดาราสวรรค์

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสมาพันธ์เซียนเวลานี้ ได้ถูกปิดล้อมจากกองกำลังศัตรูหลายฝ่ายจนแทบจะหมดหนทางตอบโต้

หากไม่ใช่เพราะมีม่านพลังอันแข็งแกร่งจากค่ายกลเทวะปกป้องเอาไว้ สถานที่แห่งนี้คงถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน

“ ท่านครับ พวกเราสูญเสียฐานที่มั่นตรงเกาะศูนย์วิจัยให้กับศัตรูแล้ว ” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนหนึ่ง รีบวิ่งเข้ามารายงานภายในห้องประชุมด้วยสีหน้าร้อนรน

“ งั้นเหรอ ป้องกันเอาไว้ไม่ไหวจริงๆสินะ พวกนักวิจัยกับคนของเราปลอดภัยดีหรือเปล่า ” หวังซินหยางถามกลับไป สีหน้าของเขาดูอ่อนล้าเป็นอย่างมาก ราวกับพร้อมจะหมดสติล้มลงทุกเมื่อ

“ นักวิจัยทุกคนหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยครับ แต่หน่วยรบพิเศษซิงหลงและหน่วยรบพิเศษไป๋หู่เสียชีวิตไปเกือบห้าร้อยคน เครื่องบินที่ติดตั้งเทคโนโลยีล่องหนครึ่งหนึ่งก็โดนศัตรูยึดไปอีกด้วย ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังซินหยางรวมไปถึงพลเอกทั้งเจ็ดคนที่อยู่ในห้อง ก็พากันถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง

แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้สั่งการอะไรออกไป เจ้าหน้าที่อีกคนก็นำพาข่าวร้ายเข้ามารายงานอีกครั้ง ทำให้ทุกคนพากันรีบวิ่งออกไปด้านนอกทันที

“ ท่านอาจารย์! ” หวังซินหยางมาถึงสถานพยาบาลชั่วคราวเป็นคนแรก พร้อมกับรับเอาตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล ที่อยู่ในสภาพเสียหายยับเยินมาอุ้มไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด

และยิ่งได้เห็นเปลวไฟแห่งดวงวิญญาณของอาจารย์ตัวเอง ที่แทบจะดับมอดลงทุกเมื่อ เขาก็หลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาโดยไม่รู้ตัว

ตลอดเวลาเกือบสองปีที่ได้ฝึกฝนวิชากับหลินซูซิน ทำให้หวังซินหยางรู้สึกผูกพันกับอาจารย์ผู้เข้มงวดที่อยู่ในร่างตุ๊กตาหมีมาก แต่ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจหรือเป็นยอดฝีมือระดับตำนานของประเทศจีน

ต้องบอกเลยว่า หลินซูซินให้การดูแลเอาใจใส่ลูกศิษย์คนเดียวของตัวเองเป็นอย่างดี แม้ตัวเธอจะไม่ค่อยมีเวลาว่างในตอนกลางวัน ก็ยังหาโอกาสเข้ามาสอนในตอนกลางคืนสม่ำเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรหรือแผนการฝึกฝน ก็ล้วนถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกศิษย์เป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้เองหวังซินหยางจึงให้ความเคารพหลินซูซินไม่ต่างจากมารดาที่เสียชีวิตไป

“ นายน้อยหวัง ฝากดูแลท่านบรรพชนของพวกเราด้วย ” พูดจบ ผู้อาวุโสตระกูลหลินที่ส่งมอบตุ๊กตาหมีให้ ก็หงายหลังล้มลงสิ้นใจทันที

เนื่องจากผู้อาวุโสคนนี้ยอมเสี่ยงตายฝ่าวงล้อมศัตรู เข้าไปช่วยเหลือหลินซูซินกลับมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินจะเยียวยา การที่เขาฝืนใช้ร่างอันบอบช้ำยืนรอ จนกระทั่งหวังซินหยางออกมาได้นี่ก็ต้องขอบคุณฟ้าดินแล้ว

“ ไม่จริงน่า ขนาดผู้พิทักษ์หลินก็ยังรับมือศัตรูไม่ไหวงั้นเหรอ ”

“ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ท่านหลินต่อสู้มาสามวันสามคืนโดยไม่หยุดพัก ก็ต้องพลาดพลั้งเป็นเรื่องธรรมดา ”

“ แย่แล้ว ถ้าไม่มีผู้พิทักษ์หลิน พวกเราจะต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามอย่างไร ”

พวกพลเอกหันไปปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะสำหรับพวกเขาหลินซูซินก็เปรียบเสมือนตัวตนที่อยู่ในระดับเดียวกับต้วนมู่เฉียน ซึ่งเป็นสองเสาหลักสำคัญที่คอยปกป้องประเทศจีนมานานนับร้อยปี มีบารมีในกองทัพเหนือกว่าจ้าวเทียนมากนัก

การสูญเสียกำลังหลักอย่างหลินซูซินไปในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ จะต้องส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของเหล่าทหารแน่นอน

“ หรือว่าประเทศจีน ไม่ซิ อารยธรรมของมนุษยชาติจะสิ้นสุดลงในยุคนี้จริงๆ ”

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมด มันเกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อน คณะผู้นำรัฐบาลแต่ละประเทศทั่วโลกถูกลอบสังหารโดยบอดี้การ์ดหรือคนสนิทข้างกาย ไม่เว้นแม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน

มือสังหารถึงกับยอมกลืนกินระเบิดที่ทรงอานุภาพทำลายล้างสูงลงไปในท้อง เพื่อตกตายไปพร้อมเป้าหมาย ทำให้แม้แต่ผู้คุ้มกันที่เป็นยอดฝีมือก็ไม่สามารถรับมือได้ทัน

ความสูญเสียในครั้งนี้ ทำให้ระบบเศรษฐกิจรวมไปถึงระบบการปกครองทั่วโลกพังทลาย บรรดาผู้มีอำนาจมืดต่างพากันลุกขึ้นมาช่วงชิงผลประโยชน์เข้าตัว โดยไม่คำนึงถึงความมั่นคงภายในประเทศ ราวกับได้วางแผนกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้า

ในขณะที่สมาพันธ์เซียน พยายามจะเข้าไปแทรกแซงเพื่อควบคุมสถานการณ์ สามวันต่อมาศูนย์บัญชาการสาขาต่างประเทศของพวกเขา ก็ถูกบุกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวจากเหล่าเทพสวรรค์ที่จุติลงมาบนโลกมนุษย์

แม้แต่ร้อยสำนักเซียนที่อยู่ในประเทศจีนเอง ก็ยังหลีกหนีวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไม่พ้น มีเกือบสามสิบสำนักถูกทำลายไปในวันแรก ส่วนสำนักอื่นๆก็ต้องอาศัยค่ายกลป้องกันระดับสูงจึงพอจะเอาตัวรอดมาได้ถึงทุกวันนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน