ณ สนามรบเทพมารบรรพกาล
เหล่าผู้แข็งแกร่งกำลังเฝ้าสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์อย่างจริงจัง เนื่องจากการปรากฏตัวของกองทัพแอสการ์ดถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเมื่อมหาเทวีเฟรย่าได้นำกองทัพวัลคีรีเข้าร่วมศึกด้วยตนเอง
“ ก่อนที่สงครามจักรพรรดิเทพจะเริ่มต้นขึ้น กลับมีการแสดงคั่นเวลาจากฝ่ายที่เป็นกลางอย่างอาณาจักรเทวะตำนานด้วยรึ… ช่างน่าสนใจจริงๆ ”
“ หืม.. อาวุธเทคโนโลยีพวกนี้เหมือนถูกคิดค้นมาเพื่อจัดการเผ่าพันธุ์เทพสวรรค์โดยเฉพาะ ดูซิ! มีทั้งคำสาปมารกัดกร่อนและระเบิดเพลิงโลกันต์พลังทำลายล้างสูงเลยทีเดียว… ”
“ เหอะ! ก็แค่การดิ้นรนอันไร้ค่าของพวกมดปลวกเท่านั้น เมื่อไหร่ที่มหาเทวีเฟรย่ากับกองทัพวัลคีรีเคลื่อนไหว วาระสุดท้ายของพวกมันก็จะมาถึงทันที ”
“ ใช่แล้ว! ภายใต้ข้อจำกัดขอบเขตพลังเดียวกัน กองทัพวัลคีรีของมหาเทวีเฟรย่า สามารถท่องทะยานไปทั้งสามภพโดยไร้คู่มือเปรียบ ตำนานนี้จะถูกทำลายลงง่ายๆได้อย่างไร ”
ถึงแม้ความได้เปรียบในตอนต้นจะเป็นของฝ่ายผู้ฝึกตนมนุษย์ แต่มหาอำนาจแดนสวรรค์ส่วนใหญ่ยังคงวางเดิมพันข้างมหาเทวีเฟรย่ามากกว่า สิ่งนี้เกิดจากผลงานอันรุ่งโรจน์ของกองทัพวัลคีรีตลอดหลายหมื่นปีที่ผ่านมา
“ บัดซบ! สตรีนางนั้นเป็นบ้าไปแล้วงั้นรึ ในเวลาสำคัญเช่นนี้ แทนที่จะพยายามรักษาขุมกำลังตนเองเอาไว้ กลับกล้าชูธงกบฏนำพากองทัพไปแก้แค้นให้โอดิน ”
เทพโอซีริสพูดขึ้นด้วยความเดือดดาล เพราะการกระทำเสียสติของมหาเทวีเฟรย่า ทำให้แผนการของพวกเขาปั่นป่วนไปหมด
“ นี่จะต้องเป็นฝีมือของมหาเทพอวี่หวงแน่ๆ อีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากเรื่องที่มหาเทวีเฟรย่าไม่มีบุตรสืบทอดราชบัลลังก์ ยุยงให้ก่อกบฏนำกองทัพไปแก้แค้นให้ราชาองค์เก่า เพื่อให้ได้รับความชอบธรรมในการเข้ายึดอำนาจการปกครองภายหลัง ” เทพีอามาเทราสุแสดงความคิดออกมา
ซึ่งถือว่านางมีความคิดเฉียบแหลมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมหาเทพอวี่หวงอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้จริงๆ
เขาได้ใช้โอกาสจากการเสียชีวิตของราชันเทพโอดิน ปลุกระดมความแค้นทำให้เกิดความแตกแยกภายในกองทัพแอสการ์ด แล้วก็นิ่งเฉยรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสงครามอย่างสบายใจ
ไม่ว่ามหาเทวีเฟรย่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ สุดท้ายนางก็เหลือเพียงหนทางเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับวังสวรรค์เท่านั้น ไม่อาจกลับไปอยู่ฝ่ายเป็นกลางของเทพีอามาเทราสุกับเทพโอซีริสได้อีก
ในเวลาเดียวกัน
เมื่อฝุ่นควันหายนะแห่งการทำลายล้างจางหาย บนท้องฟ้าเหนือเทือกเขาคุนหลุน ก็หลงเหลือแค่เพียงกลิ่นคาวโลหิตจากเศษซากอวัยวะ และกองพันชั้นสูงแห่งแอสการ์ดเดี้ยนจำนวนไม่ถึงสองล้านนาย ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรุนแรงจากพิษคำสาป
พริบตาเดียว กองทัพแอสการ์ดหกล้านนาย ก็ถูกระเบิดนิวเคลียร์รูปแบบใหม่กับจรวดขีปนาวุธต้องสาปสังหารไปเกินครึ่งทันที ผลลัพธ์อันน่าตื่นตระหนกแบบนี้ แม้แต่ผู้ที่ผ่านศึกสงครามมาโชกโชนอย่างมหาเทวีเฟรย่าก็ยังต้องขมวดคิ้ว
“ ถึงกับมีอาวุธร้ายกาจเช่นนี้! อยู่บนโลกมนุษย์ด้วยงั้นรึ ”
เดิมทีมหาเทวีเฟรย่า ต้องการใช้กองทัพแอสการ์ดหกล้านนายไปพัวพันกองกำลังหลักฝ่ายศัตรูไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้นางนำกองทัพวาลคีรี บุกทะลวงเข้าไปสังหารจ้าวเทียนในคราวเดียว
แต่ดูเหมือนนางจะดูถูกอาวุธเทคโนโลยีมนุษย์มากเกินไปหน่อย เพราะยังไม่ทันที่กองทัพหลักของฝ้ายตรงข้ามจะเคลื่อนไหว กองทัพแอสการ์ดของนางก็ถูกสังหารไปเกินครึ่งเรียบร้อยแล้ว
“ หวังซินหยาง ให้คนของเรารีบนำเหล่านักบวชแห่งแสงกับพวกองเมียวจิ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาให้น้องปิงหยูรักษาเร็วเข้า กองทัพหลักของศัตรูยังไม่เคลื่อนไหว ห้ามประมาทเด็ดขาด! ” ลี่เหยาเหยาสั่งการผ่านเครื่องมือสื่อสาร
เพราะความรุนแรงของระเบิดนิวเคลียร์ชนิดใหม่เหนือกว่าที่คิดไว้มาก ทำให้นักบวชแห่งแสงสองร้อยคนและองเมียวจิเกือบพันคน
ถูกผลสะท้อนกลับจากการพังทลายของเขตแดนผนึกจนสิ้นชีพทันที ส่วนที่เหลือกว่าครึ่งก็หมดสติ ได้รับบาดเจ็บปางตาย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
“ เหยาเหยา ให้กองทัพหุ่นเชิดของฉันออกไปกวาดล้างศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บดีไหม ” กงเสี่ยวเหมยส่งกระแสจิตมาสอบถาม เธอรู้สึกแปลกใจมาก ว่าทำไมฝ่ายตนไม่ยอมเคลื่อนไหวในตอนที่กำลังได้เปรียบ
“ พี่เสี่ยวเหมย ฉันกับพวกผู้อาวุโสได้วางแผนจะใช้ทหารศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเหยื่อล่อให้กองทัพวัลคีรีแบ่งแยกกองกำลังเข้ามาช่วยเหลือ ” ลี่เหยาเหยาส่งกระแสจิตตอบกลับไป
อันที่จริงขณะนี้ สมาพันธ์เซียนและกองกำลังมหาอำนาจอื่นๆบนโลกมนุษย์ ได้วางแนวป้องกันเทือกเขาคุนหลุนไว้ทุกด้าน โดยเว้นพื้นที่ตรงกลางขนาดใหญ่ไว้ให้จ้าวเทียนใช้ทลายนภา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน