จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 578

สรุปบท ภาคสามบทที่่191 วิกฤติหรือโอกาส: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

ตอน ภาคสามบทที่่191 วิกฤติหรือโอกาส จาก จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ภาคสามบทที่่191 วิกฤติหรือโอกาส คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน ที่เขียนโดย ZigFheZ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ภายในสนามรบเทพมารบรรพกาล เมื่อประตูเซียนขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนโลกมนุษย์ สีหน้าของเหล่ามหาอำนาจแห่งจักรวาลก็เปลี่ยนไป สายตาหลายล้านคู่กวาดมองไปทางกองทัพสวรรค์ด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก

ไร้ยางอาย…นี่เป็นการกระทำที่ไร้ยางอายอย่างแท้จริง

มหาเทพอวี่หวงถึงกับยอมฝ่าฝืนกฎสวรรค์ ใช้อำนาจส่วนตัวเข้าไปแทรกแซงการทะลวงขอบเขตของผู้ฝึกตนระดับต่ำงั้นเหรอ ไม่กลัวสูญเสียชื่อเสียงหรือได้รับผลกระทบจากฟันเฟืองกฎแห่งกรรมเลยใช่หรือไม่

วูป!

เงาร่างอันสง่างามของจักรพรรดินีหลินซินเยว่ ฉีกความว่างเปล่ามาปรากฏกายตรงจุดกึ่งกลางสนามรบ ที่กองทัพทั้งสามฝ่ายตั้งประชันหน้ากันอยู่ ซึ่งห่างออกไปไม่ไกลมหาเทพจูเซียนก็ก้าวออกมาจากราชรถสีทองเช่นกัน

“ จงอธิบายมา! ”

สิ้นเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะของจักรพรรดินีหลินซินเยว่ คลื่นความกดดันมหาศาลก็ถาโถมเข้าใส่กองทัพวังสวรรค์อย่างรุนแรง ส่งผลให้ทหารเกือบครึ่งกระอักเลือดออกมาทันที ทั้งยังมีบางส่วนหวาดกลัวจนเผลอทำอาวุธหลุดมืออีกด้วย

ทันใดนั้น…

แวบ!

ลำแสงสีทองขนาดใหญ่ สาดส่องมาจากทะเลดวงดาวอันห่างไกล เกิดเป็นม่านพลังเก้าสีปกคลุมกองทัพวังสวรรค์ทั้งหมดเอาไว้ ทำให้พลังความกดดันของจักรพรรดินีสลายไปดุจเกล็ดหิมะต้องแสงดวงตะวัน

“ หลินซินเยว่ ! เจ้าต่างหากที่ต้องให้คำอธิบาย สงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งสามราชันยังไม่ทันเริ่ม เหตุใดจึงมาข่มขวัญกองทัพของข้ากันเล่า ”

ห่างออกไปสุดสายตา บุรุษผู้หนึ่งสวมชุดจักรพรรดิสีทองเอามือไพ่หลังเยื้องย่างเข้ามาอย่างช้าๆ ทั้งสีหน้าแววตาดูผ่อนคลาย ไม่ได้เกรงกลัวท่าทีคุกคามของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด

“ เหอะ! เห็นได้ชัดว่าเจ้าเปลี่ยนแปลงกฎสวรรค์ แทรกแซงการทลายขอบเขตของศิษย์ข้าก่อน ยังจะมาทำไขสืออีกงั้นรึ ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่กล่าวเสียงเย็นชา

สถานการณ์ของจ้าวเทียนเลวร้ายเป็นอย่างมาก หากเขาทำลายประตูเซียนไม่ทันเวลา ก็จะต้องเจตจำนงแตกสลาย โลกภายในถูกทำลายแน่นอน เรื่องนี้แม้แต่ตัวเธอเองก็เข้าไปช่วยเหลือไม่ได้

“ หืม… การที่ประตูเซียนของศิษย์เจ้ามีขนาดใหญ่โตเหนือผู้ใด มันก็เพราะศักยภาพซ่อนเร้นและพรสวรรค์อันสูงส่งของเขาเอง จะมาโยนความผิดให้ข้าได้อย่างไร ” มหาเทพอวี่หวงตอบกลับไปด้วยนำเสียงเย้ยหยัน

“ นี่เจ้า… ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่กัดฟันแน่น พยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้หลงติดกับการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม

“ หึ..หึ.. ประตูเซียนจักรพรรดิงั้นรึ ไม่ซิ.. ควรจะเรียกว่าประตูกั้นพิภพสวรรค์ซะมากกว่า.. เจ้าช่างกล้ามาก ที่นำเศษซากสะพานเชื่อมต่อสวรรค์และโลกมนุษย์ซึ่งถูกทำลายเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนของข้า มาหลอมรวมเข้ากับประตูเซียนของจ้าวเทียน ”

“ อวี่หวงเอ๋ย… กระทำเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวจะกลับกลายเป็นการทุ่มหินใส่เท้าตัวเองงั้นรึ ”

มหาเทพจูเซียนกล่าวเปิดโปงความจริงออกมา ทำให้มหาเทพอวี่หวงถึงกับผงะไปทันที เพราะนี่คือความลับที่เขาไม่เคยบอกผู้ใดมาก่อน

เดิมทีทั้งโลกมนุษย์และแดนสวรรค์ ได้เชื่อมต่อกันด้วยสะพานหินสีทองสายหนึ่ง ทำให้พลังฟ้าดินบนโลกมนุษย์เข้มข้นเหนือกว่าโลกทิพย์ที่อยู่ระดับสูงกว่า และยังทำให้ผู้ฝึกตนที่บรรลุขอบเขตปราณทิพย์สามารถเคลื่อนย้ายไปที่แดนสวรรค์โดยตรง

ซึ่งแน่นอนว่า มหาเทพจูเซียนที่เข้าใจความสำคัญของสะพานสายนี้ ย่อมไม่มีทางปล่อยใครมาแย่งชิงไปแน่นอน เขาจึงตัดสินใจกลั่นหลอมมันให้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณ เพื่อผูกขาดเส้นทางเชื่อมต่อแดนสวรรค์ไว้กับนิกายจูเซียนผู้เดียว

ผลลัพธ์คือ นิกายจูเซียนได้พุ่งทะยานขึ้นเป็นขุมอำนาจอันดับหนึ่งบนโลกมนุษย์ และกลายเป็นผู้ปกครองแห่งแดนสวรรค์ในเวลาต่อมา

จนกระทั่ง เมื่อหายนะของนิกายจูเซียนมาถึง สะพานเชื่อมต่อแดนสวรรค์ที่คงอยู่มานานนับล้านปีก็ถูกทำลาย โลกมนุษย์เลยกลายเป็นดินแดนแร้นแค้นขาดแคลนพลังงานฟ้าดินเหมือนเช่นปัจจุบัน

“ ข้าไม่เข้าใจ ในสิ่งที่เจ้าพูด ” มหาเทพอวี่หวงยังคงเลือกที่จะไม่ยอมรับ ไม่ว่าจะด้วยศักดิ์ศรีหรือเกียรติของมหาเทพ เขาไม่อาจให้ผู้อื่นรู้ได้ว่าครั้งหนึ่งตนเองเคยคิดเลียนแบบวิธีการของนิกายจูเซียน

“ เอาเถอะ! เมื่อประตูเซียนบานนี้ถูกทำลายลง ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะวางท่านิ่งเฉยต่อไปได้อีกหรือไม่ ” มหาเทพจูเซียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา ทำให้จักรพรรดินีหลินซินเยว่ที่คอยฟังมาตลอดฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง

วิ้งงง!

หลังจากที่เธอยอมเสียอายุขัยใช้เต๋าทำนายความลับสวรรค์ เพื่อทดลองอนุมานสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากคำพูดของมหาเทพจูเซียน สีหน้าที่เคยเคร่งเครียดก็ผ่อนคลายลงทันที ความกดดันที่เคยมีได้สลายหายไปในพริบตา

‘ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้… ประตูเซียนจักรพรรดิไม่ใช่จุดจบของจ้าวเทียน แต่มันคือโอกาสวาสนาของตัวเขาและโลกมนุษย์ต่างหาก ’

เมื่อได้รู้ความจริง จักรพรรดินีหลินซินเยว่ก็จ้องมองดูมหาเทพจูเซียนด้วยสายตาที่เป็นมิตรกว่าเดิม ส่วนความลับที่เพิ่งอนุมานมาได้นั้น

นางตัดสินใจไม่พูดเปิดโปงมหาเทพอวี่หวงออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายอับอายจนโกรธแค้นแล้วเข้าไปแทรกแซงศิษย์ของตนอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน

ทันใดนั้นเอง

ตูมมมม!ๆๆ เปรี้ยงงง! ตูมมม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนที่ม่านพลังป้องกันอาณาเขตเทือกเขาคุนหลุน จะถูกกองทัพแอสการ์ดเดี้ยนทำลายเป็นชิ้นๆ พร้อมกับกองทัพวาลคีรีของมหาเทวีเฟรย่าที่บุกตะลุยเข้ามาดุจสายฟ้าฟาด

“ สังหารพวกมนุษย์ให้หมด แก้แค้นให้ราชันเทพ ”

“ ป้องกันเอาไว้ให้ได้ อย่าปล่อยให้ศัตรูเข้าไปขัดขวางผู้นำจ้าวเด็ดขาด ”

กองทัพทั้งหมดของทั้งสองฝ่ายได้เริ่มเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด สมาพันธ์เซียนร่วมมือกับกองทัพหุ่นเชิดต้านทานการรุกคืบของกองทัพวัลคีรี โดยมีศาสนจักรแห่งแสงคอยสนับสนุนอยู่แถวหลัง

ส่วนกองทัพแอสการ์ดเดี้ยนที่ฟื้นคืนจากความตาย ก็มีป้อมปราการลอยฟ้าขององค์กรชีลด์และกองกำลังมหาอำนาจอื่นๆเข้าไปรับมือ

“ แย่แล้ว! เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ” จ้าวเทียนรีบหยิบแผ่นหยกสื่อสารออกมาติดต่อไปยังเทพมังกรอ๋าวเฟิงทันที

ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น บนท้องฟ้าเหนือภูเขาคุนหลุนก็มีประตูมิติขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเก้าบาน พร้อมกับมีเงาร่างจำนวนมากพุ่งทะยานออกมา

“ เผ่าพันธุ์อสูร จงช่วยสมาพันธ์เซียนสังหารศัตรูให้หมด โฮกกก! ”

“ สมาพันธ์จอมเวท สังหารผู้รุกรานปกป้องโลกมนุษย์ ”

“ ไอ้พวกเทพทั้งหลาย ข้าจะสูบโลหิตพวกเจ้าให้หมด ”

“ ………… ”

ขุมกำลังของแปดผู้ถูกเลือกเทพมังกรได้เข้าร่วมการต่อสู้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงกองกำลังปีศาจที่ไป๋ซู่เจินและซูต๋าจีนำมาด้วย

นี่คือ กำลังเสริมที่จ้าวเทียนเตรียมไว้ในช่วงเวลาวิกฤติ ตอนที่เต๋าสวรรค์เริ่มเคลื่อนไหว ไม่นึกเลยว่าจะต้องนำมาใช้ไวขนาดนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน