เพราะการมาถึงของเหล่าผู้ถูกเลือก ได้ใช้แผนโจมตีแบ่งแยกขบวนทัพแอสการ์ดเดี้ยนออกเป็นหลายส่วน เพื่อขัดขวางการตั้งขบวนรบศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
ทั้งยังมีกลุ่มจอมเวทมนต์ดำใช้อาคมผนึกวิญญาณ ดูดกลืนนักรบอมตะที่เพิ่งคืนชีพมากักขังแยกเอาไว้ในมิติต้องห้ามอีกด้วย
ซึ่งด้านในนั้นก็มีฝูงอสูรมายาสายความมืดที่สามารถฟื้นชีพได้เรื่อยๆเตรียมพร้อมรับศึกอยู่แล้ว ทำให้สถานการณ์ที่เคยย่ำแย่ พลิกคืนกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบในเสี้ยววินาที
เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้เทพเจ้ามังกรทั้งเก้า ที่คอยชี้แนะบอกข้อมูลจุดอ่อนของฝ่ายศัตรูทั้งหมด ตั้งแต่ทุกคนเฝ้ารอสัญญาณจากจ้าวเทียนอยู่ในมิติลับ
“ ฆ่า! ”
เค้าท์แดรกคูลาตะโกนก้อง เปลี่ยนร่างเป็นปีศาจสีแดงสูงหลายร้อยเมตร ใช้กงเล็บอันแหลมคมฉีกกระชากศัตรูออกเป็นชิ้นๆ ที่ลอยอยู่ด้านหลังของเขา ก็คือหลุมดำที่คอยดูดกลืนโลหิตฝ่ายตรงข้ามมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง
เปรี้ยง!
คลื่นรังสีดาบผ่าแยกท้องฟ้า ตัดร่างกายเค้าท์แดรกคูลาออกเป็นหมื่นๆชิ้น พร้อมกันนั้นก็ได้มีลำแสงสีขาวระเบิดตามหลังมา เหมือนต้องการทำลายร่างปีศาจโลหิตอมตะไม่ให้เหลือซาก
“ เหอะ อย่าได้หวังไป ” ซูเปอร์แมนแค่นเสียงเย็นชา บดขยี้ลำแสงสีขาวด้วยหมัดเดียว ก่อนจะพุ่งทะลุกำแพงแสงเสียง เข้าไปสังหารศัตรูสองคนที่ลอบโจมตีเค้าท์แดรกคูลาอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นระดับนายกองทัพแอสการ์ด ซึ่งทรงพลังกว่าทหารธรรมดานับร้อย แต่ด้วยขุมพลังอันมหาศาล ที่ซูเปอร์แมนเข้าไปดูดซับอยู่ในใจกลางดวงอาทิตย์นานเกือบสองปี
ทำให้ทั้งพละกำลังและความเร็วของซูเปอร์แมน เหนือกว่าตอนสู้กับสมาพันธ์เซียนอย่างเทียบกันไม่ติด การจะเอาชนะเทพโลกาขั้นกลาง ที่ผนึกพลังตนเองจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก
“ ขอบคุณมาก ” เค้าท์แดรกคูลาหันไปพูดขอบคุณศัตรูเก่าเบาๆ
ในอดีตเผ่าพันธุ์แวมไพร์กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เกิดการปะทะกันบ่อยครั้งเรื่องการแพร่ขยายเขตแดน ซึ่งก็แน่นอนว่าผู้นำของทั้งสองฝ่ายอย่างเค้าท์แดรกคูลากับซูเปอร์แมน ก็เคยเผชิญหน้ากันมานับสิบครั้ง
หากไม่ใช่เพราะมีศัตรูแข็งแกร่งจากนอกโลกบุกรุกเข้ามา ด้วยนิสัยเกลียดชังความชั่วร้ายเป็นทุนเดิมของซูเปอร์แมน ย่อมไม่มีทางช่วยเหลือเค้าท์แดรกคูลาที่เคยสังหารผู้บริสุทธิ์นับพันในอดีตอย่างแน่นอน
“ ฉันจะช่วยแก แค่ครั้งนี้เท่านั้น ” ซูเปอร์แมนตอบกลับอย่างเฉยชา จากนั้นเขาก็พุ่งทะยานเข้าสู่สนามรบทันที เพื่อค้นหาและจัดการศัตรูระดับสูงของฝ่ายตรงข้ามรายต่อไป
อีกทางด้านหนึ่ง ราชันอสูรคีเมียร่าได้ใช้เขตแดนล้อมกักทหารแอสการ์เดี้ยนหลายร้อยนายไว้ในความมืดมิด ก่อนจะกลับคืนร่างจริงพ่นเปลวเพลิงทมิฬกวาดออกไปสังหารอีกฝ่ายโดยตรง หากยังมีผู้ใดเหลือรอดก็จะบดขยี้ด้วยคมเขี้ยวอีกที
“ บัดซบ ตายไปซะไอปีศาจ ”
ขุนพลเฒ่าแห่งทัพแอสการ์ดร้องคำรามออกมาเสียงดัง พุ่งทะลวงฝ่ามิติเข้ามาใช้ค้อนสงครามหวดใส่ร่างขนาดยักษ์ของราชันย์อสูรคีเมียร่าเต็มแรง
เปรี้ยง!ๆๆๆ พั๊วะ!
เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทรงอานุภาพเท่าขีปนาวุธข้ามทวีป ได้ยินเสียงสนามพลังป้องกันของราชันอสูรพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในหัวทั้งสามของราชันย์คีเมียร่าแหลกกระจุย ระเบิดเป็นหมอกเลือดไปในพริบตา
แสดงให้เห็นว่าขุนพลเฒ่าคนนี้ ก็คือเทพโลกาขั้นเก้าที่ผนึกพลังตัวเองลงมาต่อสู้ในโลกมนุษย์ ทั้งจำนวนแก่นแท้บรรลุและความแข็งแกร่งของกายเนื้อเหนือกว่าทหารคนอื่นอย่างเทียบกันไม่ติด
“ โฮกกกก ข้าจะกินเจ้า ”
ราชันย์คีเมียร่าอ้าปากเหมือนหลุมดำกลืนกินโลก แรงดูดมหาศาลทำให้ร่างกายขุนพลเฒ่าสั่นสะท้านอย่างแรง ก่อนจะแค่นเสียงดูถูก เมื่อเห็นหางอสรพิษของราชันย์ คีเมียราแอบลอบมาโจมตีด้านหลัง
เปรี้ยงง!
ค้อนสงครามถูกหวดออกไปอีกครั้ง หางอสรพิษได้รับบาดเจ็บสาหัสกระเด็นกลับไปด้วยสภาพยับเยิน แต่ทางขุนพลเฒ่าก็ถูกควันพิษร้ายอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดใส่เช่นเดียวกัน ทำให้ร่างกายเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นหินอย่างรวดเร็ว
“ นี่มัน หรือเจ้าจะปลุกสายเลือดอสูรบรรพกาล… ” พูดยังไม่ทันจบ ร่างกายของเขาก็กลายเป็นหินไปโดยสมบูรณ์ พร้อมกับถูกราชันย์คีเมียร่ากลืนกินเข้าไปในคำเดียว หนึ่งในสี่แม่ทัพแห่งทัพแอสการ์ดได้ตกตายไปทั้งแบบนี้เอง
ถุย!
“ ค้อนสงครามนี่ อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ ” ราชันย์คีเมียร่าบ้วนอาวุธศัตรูออกมา ก่อนที่จะกลับคืนร่างมนุษย์แล้วใช้อาวุธที่ยึดมาได้ต่อสู้ต่อไป เนื่องจากร่างจริงของตนได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนไม่อาจฟื้นฟูได้ในระยะเวลาสั้นๆ
“ หืม แย่แล้ว อเล็กซัสระวัง! ”
ราชันย์คีเมียร่าร้องเตือนเสียงดัง แต่น่าเสียดายที่มันกลับสายเกินไป เพราะราชันไฮดราเก้าหัวผู้เป็นน้องชายได้สิ้นชีพลงไปซะแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน