จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 580

สรุปบท ภาคสามบทที่่193 บุกทะลวงกองทัพวัลคีรี: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

ภาคสามบทที่่193 บุกทะลวงกองทัพวัลคีรี – ตอนที่ต้องอ่านของ จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

ตอนนี้ของ จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดย ZigFheZ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ภาคสามบทที่่193 บุกทะลวงกองทัพวัลคีรี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

การระเบิดของเตาปฏิกรณ์อาร์คนับร้อย ได้ส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้าง จนแม้แต่สงครามระหว่างสมาพันธ์เซียนกับกองทัพวัลคีรี ซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่อีกฟากหนึ่งของภูเขาคุนหลุนยังต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

“ กองพลอาวุธหนักทั้งหมดของพวกเราถูกทำลาย ซึ่งนั่นรวมไปถึงเหล่านักบวชแห่งแสงและพวกองเมียวจิในสถานพยาบาลด้วย ”

“ บัดซบ! นี่ริคจอห์นสันกับไอรอนแมนเป็นบ้าไปแล้วรึ กล้าใช้กองทัพพันธมิตรเป็นเครื่องเซ่นสังเวยได้อย่างไร ”

“ ข้านึกแล้ว ว่าพวกเราไม่อาจไว้ใจไอจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ได้ ”

เหล่าผู้อาวุโสสมาพันธ์เซียนส่วนใหญ่ พากันร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น พวกเขาไม่อาจยอมรับวิธีการโหดเหี้ยมเช่นนี้ ถึงแม้มันจะสามารถพลิกสถานการณ์ที่เสียเปรียบอยู่ได้ก็ตาม

“ ใช้กลยุทธ์ตายตกตามกันงั้นรึ ดูเหมือนข้าจะดูถูกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเจ้ามากเกินไป ” มหาเทวีเฟรย่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เดิมทีนางต้องการลดความสูญเสียของกองทัพวัลคีรี จึงเลือกใช้วิธีการปิดล้อมฝ่ายตรงข้าม เพื่อกดดันให้ล่าถอยไปทางประตูเซียน แล้วค่อยกวาดล้างทั้งหมดในคราวเดียว แต่เมื่อได้เห็นจุดจบของกองทัพแอสการ์ดเดี้ยนเจ็ดแสนนาย นางก็เปลี่ยนความตั้งใจในทันที

‘ คงต้องจำกัดพวกตัวน่ารำคาญ ไปก่อนสินะ ’

มหาเทวีเฟรย่าเหลือบมองไปทางสมาคมจอมเวทย์อย่างดุดัน เพราะหากไม่มีคนพวกนี้คอยใช้เวทมนต์ก่อกวนตลอดเวลา นางคงบดขยี้การป้องกันกองทัพฝ่ายตรงข้ามไปเรียบร้อยแล้ว

“ เปิดใช้ เขตแดนวีรชน! ”

บูมมมมม!

นักรบวัลคีรีทุกนางยกหอกขึ้นเผาผลาญแก่นโลหิตตนเอง ระเบิดพลังออร่าพวยพุ่งขึ้นฟ้า เชื่อมต่อกันเป็นรูปปีกนกสีทองขนาดยักษ์ ปกคลุมอาณาเขตสนามรบทั้งหมด

“ นี่มัน เขตแดนต่อต้านเวทมนต์ ” ราชันพ่อมดเมอร์ลินหลุดปากพูดออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับรีบพาเหล่าจอมเวทย์ล่าถอยจากสนามรบทันที

แต่ทว่า

“ ทะลวงสังหาร! ”

กองทัพวัลคีรีได้แปรขบวนรูปหอก พุ่งทะยานเข้าใส่กลุ่มจอมเวทย์ดุจสายฟ้าแลบ ข้ามผ่านระยะทางหลายพันเมตรในพริบตาเดียว

เปรี้ยง!ๆๆ อ้ากก!

เมื่อตกอยู่ภายใต้เขตแดนวีรชน ทั้งเวทมนต์และพลังพิเศษใดๆล้วนไม่เกิดผล ทำให้เหล่าจอมเวทย์หลายหมื่นคนได้แต่พากันหลบหนีอย่างหวาดกลัว จนบาดเจ็บล้มตายกันระนาว

“ กล้าดีอย่างไร ”

“ แย่แล้ว รีบช่วยพวกเขาเร็ว ”

ทั้งสมาพันธ์เซียนและศาสนจักรแห่งแสง รีบพุ่งทะยานออกไปนอกแนวป้องกันอย่างร้อนรน แต่ก็ถูกสิบสามวัลคีรีชั้นสูง อดีตผู้ติดตามราชันเทพโอดินแบ่งแยกกองกำลังครึ่งหนึ่งออกมาขัดขวางไว้

ทันใดนั้น

ฉัวะ!

เจตแห่งกระบี่อันรุนแรงก็ได้ปรากฏขึ้นระหว่างท้องฟ้ากับผืนปฐพี สกัดกั้นศัตรูด้านหลังเหล่าจอมเวทย์ที่กำลังถอยหนีเอาไว้

“ สังหาร! ”

กงเสี่ยวเหมยร้องตะโกนเสียงดัง นำพากองกำลังหุ่นเชิดหลายหมื่นตนบุกทะลวงเข้าใส่กองทัพวัลคีรีที่มีมากกว่าหลายเท่าอย่างกล้าหาญ ราวกับต้องการปลดปล่อยความคับแค้นใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

“ พี่เสี่ยวเหมย อย่าเข้าไปแบบนั้น ”

ลี่เหยาเหยารีบร้องห้ามเสียงดัง แต่กงเสี่ยวเหมยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เธอเบื่อเต็มทีกับการที่ต้องทนถูกฝ่ายตัวเองเฝ้าระวังทุกฝีก้าว

กงเสี่ยวเหมยต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าสิ่งที่พวกเขากังวลเกี่ยวกับตัวเธอนั้นมันไม่มีมูลความจริงเลยซักนิด ในเมื่อเธอตัดสินใจเข้าร่วมสงครามแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่มีทางแปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้ามแน่นอน

ฉัวะ!ๆๆ

ทุกครั้งที่กงเสี่ยวเหมยสะบัดแขน คมกระบี่ก็จะฉีกกระชากความว่างเปล่า ยืดยาวออกไปแทงทะลุศีรษะนักรบวัลคีรีหลายสิบนาง

ด้วยทักษะอันเลิศล้ำและประสบการณ์ต่อสู้จากชาติปางก่อน ทำให้การผนึกพลังพิเศษของเขตแดนวีรชนไม่มีผลต่อเธอแม้แต่น้อย

เปรี้ยงง!ๆๆๆๆ ฉัวะ!ๆๆ

เมื่อมีกงเสี่ยวเหมยเป็นหัวหอก กองกำลังหุ่นเชิดก็บุกทะลวงเข้าสู่ใจกลางทัพวัลคีรีอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามาขวางหน้า ล้วนถูกเด็ดศีรษะปลิวกระเด็นขึ้นฟ้าทั้งสิ้น

“ ช่างเป็นสตรีที่ห้าวหาญยิ่งนัก เหมาะที่จะกลายเป็นนักรบวัลคีรีของข้าจริงๆ น่าเสียดาย… ” มหาเทวีเฟรยาพูดขึ้นด้วยความชื่นชม ก่อนจะควงหอกชี้ไปด้านหน้า

เปิดโอกาสให้พวกลี่เหยาเหยา ได้บุกทะลวงเข้ามาถึงกองกำลังส่วนตัวของมหาเทวีเฟรย่าได้สำเร็จ ซึ่งทั้งยี่สิบสามคนก็ได้แบ่งหน้าที่กันเสร็จเรียบร้อยในพริบตา

เฉินจิ้งระเบิดเปลวเพลิงออกมาอีกครั้ง ใช้ร่างมังกรอันใหญ่โตดึงดูดความสนใจฝ่ายตรงข้าม ส่วนพวกโม่ซินหยานยี่สิบเอ็ดคนก็รีบไปคลี่คลายวงล้อมให้กองทัพหุ่นเชิด

“ อนันตกาลเสื่อมสลาย! ”

ครืนนน!

ช่องว่างมิติเปิดออกใจกลางกองทัพวัลคีรี เกิดเป็นสัตว์ประหลาดลูกตาขนาดยักษ์ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบแสนเมตร พร้อมด้วยรยางค์มากมายหลายสิบเส้นปรากฏตัวออกมา

แวบ!

ลูกตาขนาดยักษ์ได้หมุนตัวฉายลำแสงสีม่วงกวาดออกไปเป็นวงกลม ส่งผลให้ร่างกายของนักรบวัลคีรี่หลายหมื่นนาง เปลี่ยนเป็นสีเทาซีดเพราะถูกช่วงชิงทั้งชีวิตและดวงวิญญาณ ตกตายไปโดยไม่ทันได้มีโอกาสตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย

“ มอบชีวิตมา! ”

ลี่เหยาเหยาฉวยจังหวะที่กองทัพศัตรูเกิดความวุ่นวาย พุ่งเข้าประชิดตัวมหาเทวีเฟรย่าในเสี้ยววินาที ทั่วร่างกายเธอปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงอมตะ เผาไหม้คลื่นหอกที่พวกนักรบวัลคีรีซัดมาเป็นเถ้าถ่าน

“ ปล่อยให้นางเข้ามา ข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้สืบสายโลหิตอสูรเทวะบรรพกาลจะแข็งแกร่งซักเพียงใด ” มหาเทวีเฟย่าสั่งการให้องครักษ์วัลคีรีที่อยู่รอบตัว ไปจัดการเฉินจิ้งกับพวกโม่ซินหนาน ส่วนตัวนางก็พุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับลี่เหยาเหยาแบบตัวต่อตัว

ตูมมมม!

คลื่นเปลวเพลิงสีขาวกับพายุมิติทำลายล้างระเบิดออกมา โดยมีหญิงสาวทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลาง หนึ่งคือทายาทจักรพรรดินีเทพยุคบรรพกาล ส่วนอีกหนึ่งก็คือยอดวีรสตรีผู้เป็นตำนานแห่งแดนสวรรค์

การต่อสู้ครั้งนี้…เดิมพันด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีและชะตากรรมของโลกทั้งใบ

ฉัวะ!ๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆ

หมัดกับหอกปะทะกันถี่ยิบด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เงาร่างอันพร่าเลือนของลี่เหยาเหยาและมหาเทวีเฟรย่าสลับตำแหน่งกันไม่หยุดหย่อน จนหลงเหลือเพียงภาพติดตาเท่านั้น

“ ยังมี ฉันอีกคน! ”

กงเสี่ยวเหมยมาแล้ว พร้อมกับรังสีกระบี่อันดุดัน ที่ฉีกกระชากความว่างเปล่าปรากฏด้านหลังศีรษะมหาเทวีเฟรย่าในอึดใจเดียว ทำให้กลายเป็นการต่อสู้แบบสองต่อหนึ่งไปทันที

“ ฮา ฮ่า ดีมาก ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าพวกเจ้าทั้งสองจะรับมือข้าได้นานซักแค่ไหน ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน