การระเบิดของเตาปฏิกรณ์อาร์คนับร้อย ได้ส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้าง จนแม้แต่สงครามระหว่างสมาพันธ์เซียนกับกองทัพวัลคีรี ซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่อีกฟากหนึ่งของภูเขาคุนหลุนยังต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
“ กองพลอาวุธหนักทั้งหมดของพวกเราถูกทำลาย ซึ่งนั่นรวมไปถึงเหล่านักบวชแห่งแสงและพวกองเมียวจิในสถานพยาบาลด้วย ”
“ บัดซบ! นี่ริคจอห์นสันกับไอรอนแมนเป็นบ้าไปแล้วรึ กล้าใช้กองทัพพันธมิตรเป็นเครื่องเซ่นสังเวยได้อย่างไร ”
“ ข้านึกแล้ว ว่าพวกเราไม่อาจไว้ใจไอจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ได้ ”
เหล่าผู้อาวุโสสมาพันธ์เซียนส่วนใหญ่ พากันร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น พวกเขาไม่อาจยอมรับวิธีการโหดเหี้ยมเช่นนี้ ถึงแม้มันจะสามารถพลิกสถานการณ์ที่เสียเปรียบอยู่ได้ก็ตาม
“ ใช้กลยุทธ์ตายตกตามกันงั้นรึ ดูเหมือนข้าจะดูถูกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเจ้ามากเกินไป ” มหาเทวีเฟรย่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เดิมทีนางต้องการลดความสูญเสียของกองทัพวัลคีรี จึงเลือกใช้วิธีการปิดล้อมฝ่ายตรงข้าม เพื่อกดดันให้ล่าถอยไปทางประตูเซียน แล้วค่อยกวาดล้างทั้งหมดในคราวเดียว แต่เมื่อได้เห็นจุดจบของกองทัพแอสการ์ดเดี้ยนเจ็ดแสนนาย นางก็เปลี่ยนความตั้งใจในทันที
‘ คงต้องจำกัดพวกตัวน่ารำคาญ ไปก่อนสินะ ’
มหาเทวีเฟรย่าเหลือบมองไปทางสมาคมจอมเวทย์อย่างดุดัน เพราะหากไม่มีคนพวกนี้คอยใช้เวทมนต์ก่อกวนตลอดเวลา นางคงบดขยี้การป้องกันกองทัพฝ่ายตรงข้ามไปเรียบร้อยแล้ว
“ เปิดใช้ เขตแดนวีรชน! ”
บูมมมมม!
นักรบวัลคีรีทุกนางยกหอกขึ้นเผาผลาญแก่นโลหิตตนเอง ระเบิดพลังออร่าพวยพุ่งขึ้นฟ้า เชื่อมต่อกันเป็นรูปปีกนกสีทองขนาดยักษ์ ปกคลุมอาณาเขตสนามรบทั้งหมด
“ นี่มัน เขตแดนต่อต้านเวทมนต์ ” ราชันพ่อมดเมอร์ลินหลุดปากพูดออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับรีบพาเหล่าจอมเวทย์ล่าถอยจากสนามรบทันที
แต่ทว่า
“ ทะลวงสังหาร! ”
กองทัพวัลคีรีได้แปรขบวนรูปหอก พุ่งทะยานเข้าใส่กลุ่มจอมเวทย์ดุจสายฟ้าแลบ ข้ามผ่านระยะทางหลายพันเมตรในพริบตาเดียว
เปรี้ยง!ๆๆ อ้ากก!
เมื่อตกอยู่ภายใต้เขตแดนวีรชน ทั้งเวทมนต์และพลังพิเศษใดๆล้วนไม่เกิดผล ทำให้เหล่าจอมเวทย์หลายหมื่นคนได้แต่พากันหลบหนีอย่างหวาดกลัว จนบาดเจ็บล้มตายกันระนาว
“ กล้าดีอย่างไร ”
“ แย่แล้ว รีบช่วยพวกเขาเร็ว ”
ทั้งสมาพันธ์เซียนและศาสนจักรแห่งแสง รีบพุ่งทะยานออกไปนอกแนวป้องกันอย่างร้อนรน แต่ก็ถูกสิบสามวัลคีรีชั้นสูง อดีตผู้ติดตามราชันเทพโอดินแบ่งแยกกองกำลังครึ่งหนึ่งออกมาขัดขวางไว้
ทันใดนั้น
ฉัวะ!
เจตแห่งกระบี่อันรุนแรงก็ได้ปรากฏขึ้นระหว่างท้องฟ้ากับผืนปฐพี สกัดกั้นศัตรูด้านหลังเหล่าจอมเวทย์ที่กำลังถอยหนีเอาไว้
“ สังหาร! ”
กงเสี่ยวเหมยร้องตะโกนเสียงดัง นำพากองกำลังหุ่นเชิดหลายหมื่นตนบุกทะลวงเข้าใส่กองทัพวัลคีรีที่มีมากกว่าหลายเท่าอย่างกล้าหาญ ราวกับต้องการปลดปล่อยความคับแค้นใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
“ พี่เสี่ยวเหมย อย่าเข้าไปแบบนั้น ”
ลี่เหยาเหยารีบร้องห้ามเสียงดัง แต่กงเสี่ยวเหมยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เธอเบื่อเต็มทีกับการที่ต้องทนถูกฝ่ายตัวเองเฝ้าระวังทุกฝีก้าว
กงเสี่ยวเหมยต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าสิ่งที่พวกเขากังวลเกี่ยวกับตัวเธอนั้นมันไม่มีมูลความจริงเลยซักนิด ในเมื่อเธอตัดสินใจเข้าร่วมสงครามแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่มีทางแปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้ามแน่นอน
ฉัวะ!ๆๆ
ทุกครั้งที่กงเสี่ยวเหมยสะบัดแขน คมกระบี่ก็จะฉีกกระชากความว่างเปล่า ยืดยาวออกไปแทงทะลุศีรษะนักรบวัลคีรีหลายสิบนาง
ด้วยทักษะอันเลิศล้ำและประสบการณ์ต่อสู้จากชาติปางก่อน ทำให้การผนึกพลังพิเศษของเขตแดนวีรชนไม่มีผลต่อเธอแม้แต่น้อย
เปรี้ยงง!ๆๆๆๆ ฉัวะ!ๆๆ
เมื่อมีกงเสี่ยวเหมยเป็นหัวหอก กองกำลังหุ่นเชิดก็บุกทะลวงเข้าสู่ใจกลางทัพวัลคีรีอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามาขวางหน้า ล้วนถูกเด็ดศีรษะปลิวกระเด็นขึ้นฟ้าทั้งสิ้น
“ ช่างเป็นสตรีที่ห้าวหาญยิ่งนัก เหมาะที่จะกลายเป็นนักรบวัลคีรีของข้าจริงๆ น่าเสียดาย… ” มหาเทวีเฟรยาพูดขึ้นด้วยความชื่นชม ก่อนจะควงหอกชี้ไปด้านหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน