จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 582

สรุปบท ภาคสามบทที่่195 เจตจำนงของโลก: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

สรุปตอน ภาคสามบทที่่195 เจตจำนงของโลก – จากเรื่อง จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดย ZigFheZ

ตอน ภาคสามบทที่่195 เจตจำนงของโลก ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดยนักเขียน ZigFheZ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ย้อนกลับไปไม่กี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ จิตวิญญาณของจ้าวเทียนได้ถูกดึงเข้าสู่มิติความฝันของจักรพรรดินีปิงเยว่ผ่านทางเครื่องรางที่พกติดตัว เพื่อให้เขาได้เห็นภาพบทสนทนาระหว่างมหาเทพอวี่หวงกับมหาเทพจูเซียน

“ ประตูเซียนจักรพรรดิ ที่ถูกสร้างขึ้นจากเศษชิ้นส่วนสะพานเชื่อมแดนสวรรค์เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนงั้นเหรอ นี่คือทั้งหมดที่ท่านอาจารย์ต้องการให้ฉันรู้สินะ ” จ้าวเทียนถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เขามั่นใจว่า สงครามแห่งสามจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะต้องเริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างแน่นอน ทำให้พื้นที่สนามรบถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ท่านอาจารย์เลยต้องฝากฝังให้จักรพรรดินีปิงเยว่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของเขา

“ ประตูเซียนบานนี้หาได้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว มหาเทพอวี่หวงได้หลอมชะตากรรมสิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนโลกมนุษย์เข้าไปด้วย ”

“ ดังนั้น มันจึงกลายเป็นประตูเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งวิธีเดียวที่เจ้าจะสามารถทำลายมันได้ ก็คือการหลอมรวมเจตจำนงของโลกมนุษย์ เพื่อ… ”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เสียงจักรพรรดินีปิงเยว่ก็ขาดหายไปราวกับถูกใครบางคนสกัดกั้นเอาไว้ จากนั้นจิตวิญญาณของจ้าวเทียนก็ถูกบีบบังคับให้กลับคืนร่างในทันที

พร๊วด!

จ้าวเทียนพ่นเลือดออกมาคำใหญ่ ใบหน้าของเขาซีดขาวร่างกายสั่นสะท้านอย่างแรง รู้สึกเหมือนโดนคมมีดคว้านสมองก็ไม่ปาน มันเป็นความเจ็บปวดสุดขั้วหัวใจจริงๆ

‘ เป็นผีมือใครกัน เต๋าสวรรค์งั้นเหรอ? ’

ถ้าถึงขนาดแทรกแซงการเชื่อมต่อระหว่างเขากับจักรพรรดินีปิงเยว่ได้ ตัวตนของอีกฝ่ายย่อมไม่ธรรมดาสามัญแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเทพจึงจะมีโอกาสทำได้สำเร็จ

ทันใดนั้น

ครืนนนน!

อยู่ดีๆ ประตูเซียนที่อยู่ตรงหน้าจ้าวเทียนก็ได้ระเบิดความกดดันมหาศาลออกมา บดขยี้ร่างกายเขาจนแทบแหลกสลาย ทำให้ถูกซัดกระเด็นถอยไปเกือบร้อยเมตร

“ นี่มัน เป็นไปไม่ได้ ”

จ้าวเทียนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยจากประตูเซียน ว่าเป็นแบบเดียวกับผู้ที่ลงมือขัดขวางการเชื่อมต่อของเขากับจักรพรรดินีปิงเยว่ไม่ผิดเพี้ยน

‘ ฉันเข้าใจแล้ว ประตูเซียนจักรพรรดิได้ให้กำเนิดจิตวิญญาณเป็นของตนเอง มันจึงทำการลงโทษที่ฉันพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก ’

เรื่องเพ้อฝันแบบนี้บอกไปคงไม่มีใครเชื่อ แต่ในเมื่อมันดันเกิดขึ้นกับตัวจ้าวเทียนเอง จะให้ไม่เชื่อก็คงทำไม่ได้แล้ว ประตูเซียนบานนี้มันมีความคิดอ่านเป็นของตัวเองจริงๆ

“ เอ่อ…คุณได้ยินฉันไหม ” จ้าวเทียนตัดสินใจสนทนากับอีกฝ่ายดู ขณะเดียวกันก็ดื่มกินโอสถรักษาอาการบาดเจ็บไปด้วย

“ ……. ” เงียบ ไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น

‘ ไม่สนใจงั้นเหรอ เอาเถอะ มันก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คิดไว้ซักเท่าไหร่ ฉันก็แค่อยากลองดูเท่านั้น ’

จ้าวเทียนคิดขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะเสียงระเบิดของเตาปฏิกรณ์อาร์คนับร้อย เขาสัมผัสได้ถึงชีวิตหลายแสนที่ต้องสูญเสียไปในการตัดสินใจครั้งนี้ของริค จอห์นสัน

ตราบใดที่จ้าวเทียนยังติดอยู่ที่นี่ ยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะมีคนเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าทหารผู้ภักดี บรรดาผู้อาวุโส มิตรสหาย หรือเหล่าพวกพ้องคนสนิท

วูป!

เหมือนคาดเดาความคิดของจ้าวเทียนออก ประตูเซียนจักรพรรดิได้สร้างเขตแดนผนึกอันแข็งแกร่งขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เขาออกไปแทรกแซงสงครามด้านนอก

“ ….. ” จ้าวเทียนสีหน้าหมองคล้ำลงทันที เขาเคยคิดที่จะใช้เต๋ากระบี่โจมตีออกไปซักสองสามครั้งเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้ฝ่ายตน แต่ดูเหมือนตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว

‘ ทุกคน รอฉันก่อนนะ ’

จ้าวเทียนจ้องมองไปทางพวกลี่เหยาเหยาและคนอื่นๆอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดเปลือกตาลงช้าๆ เพื่อถอดดวงจิตมุ่งสู่ใจกลางโลกมนุษย์ ตามคำใบ้ที่จักรพรรดินีปิงเยว่ได้กล่าวเอาไว้

ยี่สิบลมหายใจผ่านไป ดวงจิตจ้าวเทียนก็ได้ข้ามผ่านช่องว่างแห่งกาลเวลาเข้าสู่มิติใจกลางโลก ที่นั่นเขาได้พบกับดวงแสงสีขาวนวลขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มลูกพลังสีดำไว้ตรงกลาง

‘ ลูกพลังสีดำนั่น คงเป็นสิ่งสืบทอดมหาเทพผานกู่สินะ ’

“ นี่มัน… ” จ้าวเทียนเข้าใจได้ในทันที ดูเหมือนผลกระทบจะหนักหนากว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

เพราะเมื่อประตูเซียนถูกทำลาย พลังงานฟ้าดินจำนวนมหาศาลที่ระเบิดออกมา ตัวเขาไม่มีทางดูดซับได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ซึ่งต่อให้นับรวมเอาทุกคนในสมาพันธ์เซียนเข้าไปด้วยก็ยังทำไม่ได้

แล้วที่นี้…จะเกิดอะไรขึ้นกับพลังงานฟ้าดินที่หลงเหลือเหล่านั้นล่ะ

แน่นอนว่า พลังงานฟ้าดินที่ไม่มีเจ้าของก็ต้องหวนคืนสู่กฎธรรมชาติ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกมนุษย์ดังเช่นที่ผ่านมาในอดีต

สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ โลกจะกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งผู้ฝึกตน เหมือนในยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของนิกายจูเซียนเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และขีดจำกัดด้านพลังก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นเทพโลกาขั้นเก้า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ หรือแม้แต่จักรพรรดิเทพ ล้วนสามารถส่งร่างจริงลงมาเยือนโลกมนุษย์ได้อย่างอิสระ

“ ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วสินะ เมื่อโลกได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นในอดีต กฎเกณฑ์ที่มหาเทพผานกู่ตั้งไว้ปกป้องโลกก็จะคลายตัวออกทันที ”

“ ขอเพียงฝ่ายตรงข้ามไม่คิดทำลายโลก หรือมีเจตนาสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ก็จะไม่มีอะไรมาจำกัดการกระทำของพวกเขาอีกแล้ว ทีนี้เจ้าจะยังต้องการทำลายประตูเซียนอยู่ไหม ”

สิ้นเสียงของเทพมังกรอ๋าวเฟิง สีหน้าจ้าวเทียนก็หมองคล้ำลงอย่างชัดเจน ในใจเขารู้สึกขัดแย้งกันเองเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับปัญหาไม่จบไม่สิ้นแน่นอน

“ หากไม่ทำลายประตูเซียน เส้นทางของฉันก็คงถึงจุดสิ้นสุดในวันนี้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงชีวิตของผู้คนมากมายที่เชื่อมั่นในตัวฉันด้วย ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องที่จะให้ถอยกลับไปง่ายๆเขาไม่มีทางยอมแน่นอน

“ ดีมาก ถ้าเช่นนั้นก็จงทำในสิ่งที่เจ้าต้องการเถิด ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับชี้ไปที่ผีเสื้อตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนดอกไม้ไม่ไกลจากจ้าวเทียนนัก ซึ่งดูเหมือนนอกจากพวกเขาแล้ว มันจะเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเดียวที่อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้

“ นี่คือ…เจตจำนงของโลกที่เจ้ากำลังตามหา ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน