ภายในมิติลับใจกลางโลก จ้าวเทียนจ้องมองผีเสื้อแสนสวยตัวนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ จนอดนึกไปถึงคำพูดประโยคหนึ่ง ของนักปราชญ์จวงจื่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ได้
” ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าฝันไปว่าเป็นผีเสื้อโบยบินไปมาอย่างสบายใจ ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ผีเสื้อตัวนี้ไม่รู้เลยว่า มันคือจวงโจว(ชื่อเดิมของจวงจื่อ) แต่แล้วในทันใดมันก็ตื่นขึ้นรู้สึกตัวว่า ตัวคือจวงโจว”
“ ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นการยากที่จะบอกได้ว่า ตนเองเป็นจวงโจวที่ฝันไปว่าเป็นผีเสื้อตัวนั้น หรือว่า ผีเสื้อตัวนั้นฝันไปว่า มันเป็นจวงโจวกันแน่ ”
นี่คือแนวคิดทางปรัชญา ที่จ้าวเทียนเคยอ่านเจอในตำราเรียนสมัยที่ยังเป็นคนธรรมดาสามัญในชีวิตที่แล้ว
ต่อมาภายหลัง เมื่อตัวเขาได้เข้าสู่วิถีทางแห่งผู้ฝึกตน ก็ได้มีความรู้ความเข้าใจทางด้านต่างๆลึกซึ้งขึ้น จนสามารถเข้าใจความหมายแท้จริงของแนวคิดนี้ได้ในที่สุด
สรรพสิ่งไม่จีรังยั่งยืน สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ
ถึงแม้จ้าวเทียนจะไม่รู้ถึงสาเหตุ ที่เจตจำนงของโลกอยู่ในรูปลักษณ์ของผีเสื้อ แต่เพื่อความไม่ประมาท เพราะทั้งสิ่งสืบทอดมหาเทพผานกู่และเจตจำนงของโลกได้อยู่ร่วมกันมานาน เขาจึงอยากถามให้แน่ใจเสียก่อน
“ ผู้อาวุโสอ๋าวเฟิง ผีเสื้อตัวนี้คงไม่ใช่ว่าเป็น…”
“ มันคือเจตจำนงของโลกอย่างแน่นอน ไม่ใช่จิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่ของมหาเทพผานกู่ตามที่เจ้าคิดหรอก ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ราวกับคาดเดาความกังวลของจ้าวเทียนได้
“ ตกลง งั้นเดี๋ยวฉันจะไปทำให้มันยอมจำนนเอง ” จ้าวเทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหาผีเสื้อตัวนั้นอย่างช้าๆ
สิบก้าว แปดก้าว ห้าก้าว จนกระทั่งเมื่อระยะห่างเหลือเพียงสามก้าว ผีเสื้อตัวนั้นก็หันมาจ้องมองจ้าวเทียนทันที ดวงตาของมันเริ่มเปล่งแสงสีแดงขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับส่งสัญญาณเตือนไม่ให้เขาเข้าใกล้มากกว่านี้
แวบ!
จ้าวเทียนตัดสินใจเปิดเผยพลังที่แท้จริง กลับคืนรูปลักษณ์ของมหาเทพตี้เทียนผู้ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเขาสัมผัสได้ ว่าสถานที่แห่งนี้ก็เป็นเหมือนกับโลกแห่งจิตวิญญาณอื่นๆ จึงคิดใช้ตัวตนแข็งแกร่งในอดีตปราบปรามเจตจำนงของโลกโดยตรง
‘ ขอโทษด้วย ฉันไม่มีเวลาให้เสียอีกต่อไปแล้ว ทุกคนกำลังรอการกลับไปของฉันอยู่ ’
หากให้ใช้วิธีแบบสันติ จ้าวเทียนก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ถึงจะทำให้เจตจำนงของโลกยอมรับในตัวเขาได้ ดังนั้นการเอาชนะอีกฝ่ายแล้วบีบให้คล้อยตาม จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้ที่สุด
“ มรรคาจักรพรรดิปกคลุมฟ้าดิน! ”
นัยน์ตาจ้าวเทียนเปล่งประกายเจิดจ้า ปลอดปล่อยออร่าความกดดันมหาศาลออกมาอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้มือคว้าจับไปทางผีเสื้อตัวน้อยในชั่วพริบตา
ทันใดนั้น
บูมมมม! เพล้ง!
โลกมิติแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทุ่งหญ้าเขียวขจีและทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลดวงดาวและจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ส่วนผีเสื้อตัวน้อยก็ได้กลายร่างเป็นยักษ์ใหญ่ผมแดงสูงเทียมฟ้าในเสี้ยววินาที
ฆ่า!
ขวานยักษ์อันน่าสะพรึงกลัว ฟาดฟันเข้าใส่จ้าวเทียนด้วยพละกำลังมหาศาล ทำให้ห้วงมิติพังทลาย ทะเลดวงดาวระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง จักรวาลได้พลิกกลับคืนสู่ความโกลาหลอีกครั้ง
เปรี้ยงงงง! ตูมมม!
“ บัดซบ นี่ฉัน… ” จ้าวเทียนยังพูดไม่ทันจบ ตัวเขาก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนแล้วระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดหายไปทันที
ขวานนี้ได้แหกกฎเกณฑ์ทุกอย่างจนหมดสิ้น มันทั้งดุดันและอำมหิตจนถึงขนาดที่ตัวตนระดับจักรพรรดิเทพ ก็ไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
ผ่านไปห้าลมหายใจ สรรพสิ่งก็ได้กลับคืนมาดังเช่นที่เคยเป็นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี ดอกไม้สวยงามนาๆชนิด หรือทะเลสาบสีเขียวมรกต ซึ่งก็รวมไปถึงผีเสื้อน้อยตัวนั้นด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน