จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 595

สรุปบท ภาคสามบทที่่208 ยอมสวามิภักดิ์: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

ตอน ภาคสามบทที่่208 ยอมสวามิภักดิ์ จาก จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ภาคสามบทที่่208 ยอมสวามิภักดิ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน ที่เขียนโดย ZigFheZ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ณ ท้องพระโรงพระราชวังแอสการ์ด

จ้าวเทียนนั่งอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดิที่เคยเป็นของราชันเทพโอดิน โดยมีเหล่าราชวงศ์เทพแอสการ์ดเกือบสองร้อยชีวิต กำลังคุกเข่ายอมรับชะตากรรมอยู่เบื้องล่าง

ส่วนกองกำลังของเทพสึคุโยมิกับเทพฮอรัสที่ติดตามมาด้วย ก็ทำหน้าที่เป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง เพื่อรักษาอำนาจการปกครองของราชวงศ์แอสการ์ดเอาไว้ ไม่ให้ต้องมาล่มสลายไปในยุคสมัยนี้

“ ไม่ต้องพูดอีกต่อไปแล้ว เรื่องอื่นๆสามารถใช้ทรัพย์สมบัติมาชดเชยได้ แต่เครือญาติของเทพโอดินทั้งหมดจะต้องถูกสังหาร หรือไม่ก็ทำลายต้นกำเนิดพลังและขับไล่ออกจากแดนสวรรค์ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการให้มีศัตรูย้อนกลับมาแก้แค้นตนเองภายหลัง

“ โปรดทบทวนการตัดสินใจใหม่ด้วยเถอะ อาณาจักรเทวะตำนานจำเป็นต้องมีผู้ปกครอง หากท่านกำจัดราชวงศ์แอสการ์ดไปทั้งหมด ประชาชนที่เหลือจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ” เทพฮอรัสพยายามพูดโน้มน้าวอย่างเต็มความสามารถ

“ ใช่แล้ว อย่างน้อยก็ช่วยไว้ชีวิตผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องก็ยังดี ข้ากล้ารับประกันเลยว่า พวกเขาจะไม่มีทางวางแผนแก้แค้นท่านในอนาคตแน่นอน ” เทพสึคุโยมิช่วยพูดเสริมขึ้นอีกแรง

ด้วยความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนในปัจจุบัน คงมีแต่มหาเทพอวี่หวงกับพระยูไลเท่านั้นถึงจะเผชิญหน้ากับเขาตรงๆได้

ส่วนเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์หมดสิทธิ์ต่อกรจ้าวเทียนโดยสิ้นเชิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์แอสการ์ดที่ไม่หลงเหลือผู้แข็งแกร่งอยู่แล้วเลย

“ ฉันจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าพวกเขายอมปล่อยวางความแค้นจริงๆ บางทีในอนาคตอาจจะมียอดอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้น แล้ววางแผนจัดการโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้นก็ได้ ” จ้าวเทียนถามกลับไปอย่างเฉยชา

“ เรื่องนี้… ” เทพสึคุโยมิมีท่าทีอ้ำอึ้งทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดแก้ตัวให้ราชวงค์แอสการ์ดที่เหลือ หนึ่งในบรรดาผู้ที่กำลังคุกเข่าอยู่ ก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยืนตรงหน้าบัลลังก์อย่างกล้าหาญ โดยไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัวเหมือนกับคนอื่นๆ

นี่คือเทพโอเดอร์ น้องชายฝาแฝดเทพบัลเดอร์ ซึ่งนอกจากหน้าตาแล้วสถานะทุกอย่างกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากบาลเดอร์เป็นเทพแห่งแสงสว่าง โฮเดอร์ก็คือเทพแห่งความมืด

หากบาลเดอร์เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ โฮเดอร์ก็คือตัวแทนของบาป หากบาลเดอร์สามารถมองเห็นสรรพสิ่งได้อย่างชัดเจน โอเดอร์ก็ตาบอดสนิท

ทั้งที่ทั้งสองถือกำเนิดมาพร้อมกัน แต่บาลเดอร์ได้รับความรักจากเหล่าเทพทั้งบวง ในขณะที่โฮเดอร์ถูกหมางเมินและรังเกียจมาโดยตลอด ไม่เว้นแม้แต่กับบิดามารดาตนเอง ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นบาดแผลในใจของโฮเดอร์มาตั้งแต่จำความได้

อิจฉา ริษยา โกรธแค้น อยากให้พี่ชายตนรีบตายๆไปซะ นี่คือความรู้สึกด้านลบที่โฮเดอร์เก็บซ่อนเอาไว้ จนกระทั่ง เมื่อจ้าวเทียนกวาดล้างวิหารบูชาเทพเจ้า โอกาสที่เขาเฝ้ารอมานานก็มาถึง

“ โฮเดอร์ เจ้าคิดทำอะไรกลับมาเดี๋ยวนี้ ”

“ ช่างบ้าบิ่นสิ้นดี รีบนำตัวเขากลับมาเร็วเข้า ”

“ มันจบแล้ว พวกเราไม่รอดแน่ ”

เหล่าเทพแอสการ์ดที่คุกเข่าอยู่ พากันส่งเสียงห้ามปรามออกมา พวกเขาไม่ต้องการให้โฮเดอร์ไปกระตุ้นโทสะจ้าวเทียน ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม

“ นั่นเจ้าคิดจะทำอะไรกันโฮเดอร์ รีบถอยกลับมาซะ ” เทพฮอรัสรีบพูดเตือนขึ้นอย่างร้อนรน พร้อมกับใช้พลังผนึกความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามไว้

ทันใดนั้น

ครืนนน! บูมม!

ร่างของเทพโฮเดอร์ปลดปล่อยพลังงานความมืดอันน่าสะพรึงออกมา มันดูดกลืนพลังของเทพฮอรัสแล้วสะท้อนกลับไปในพริบตาเดียว ส่งผลให้เทพฮอรัสถูกกระแทกถอยหลังไปสามก้าว

สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศในท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบทันที เพราะต่อให้เทพฮอรัสจะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ แต่การที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ถูกเทพโลการะดับเก้าขั้นต้นสวนกลับ มันน่าตื่นตระหนกจนเกินไป

“ ช่างน่าสนใจจริงๆ ดูเหมือนจะมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องที่ฉันสังหารเทพบาลเดอร์สินะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ด้วยเคล็ดวิชาเนตรหมื่นสรรพสิ่ง ทำให้เขามองเห็นกลิ่นอายดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์อยู่ในร่างกายฝ่ายตรงข้าม

ซึ่งคำพูดประโยคนั้นของจ้าวเทียน ก็ได้ไปกระตุ้นให้คนอื่นๆคิดถึงเรื่องสำคัญบางอย่างที่ถูกพวกเขาละเลยไป

ดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์…อยู่ที่ไหน ?

ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ถูกสังหาร ดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์ก็เหมือนจะหายเข้ากลีบเมฆ มันไม่ได้ปรากฏขึ้นเช่นเดียวกับแหวนมิติ และสมบัติต่างๆที่ถูกเก็บไว้ในร่างผู้เผยพระวจนะศักดิ์สิทธิ์

หรือว่า…จะเป็นฝีมือของเทพโฮเดอร์

“ แม้แต่เรื่องนี้ ก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของท่านได้ สมกับเป็นบุคคลที่ข้าเฝ้ารอมานานจริงๆ ” พูดจบเทพโฮเดอร์ก็ถอดผ้าปิดตาออก เปิดเผยนัยน์ตาข้างขวาที่มืดมิดดุจยามราตรี และนัยน์ตาข้างซ้ายที่เปล่งประกายเจิดจ้าดุจแสงตะวัน

“ นั่นมัน นัยน์ตาแห่งรุ่งอรุณของบาลเดอร์ ไอสารเลว! เจ้ากล้ากลืนกินดวงวิญญาณพี่ชายตนเองงั้นรึ ” มหาเทวีฟริกก์ร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล

นางได้สติคืนมาเพราะสัมผัสพลังของบุตรชายได้ แต่เนื่องจากถูกอีกาทองคำสามขาปิดผนึกพลังทั้งหมดไว้ จึงทำได้เพียงระบายความโกรธผ่านคำพูดเท่านั้น

“ ว่าไงนะ เทพโฮเดอร์กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ”

“ ช่างเป็นกลิ่นอายความมืดที่น่าขยะแขยงจริงๆ เด็กต้องสาปพรรค์นี้ไม่สมควรดื่มนมจากอกข้า จงนำไปให้นางกำนัลเลี้ยงดูซะ”

!!

ทั่วทั้งท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เนื่องจากสิ่งที่ได้เห็นมันช่างขัดแย้งกับภาพลักษณ์มารดาผู้โอบอ้อมอารีย์ของมหาเทวีฟริกก์มากเกินไป จนแม้แต่จ้าวเทียนยังถอนหายใจ พร้อมส่ายหน้าเบาๆ

จ้าวเทียนไม่นึกมาก่อนว่าบุตรชายอีกคนหนึ่งของราชันเทพโอดิน จะมีชะตากรรมเลวร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เกิด ถ้าขนาดมหาเทวีฟริกก์ยังรังเกียจเทพโฮเดอร์ขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องเดาแล้วว่าคนอื่นจะปฏิบัติกับเขายังไง

“ โฮเดอร์ เวลาของฉันมีไม่มากนัก บอกจุดประสงค์ของนายมาเถอะ ” จ้าวเทียนพูดตัดบทขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะขุดคุ้ยเรื่องในอดีตมาพูดอีกรอบ

“ ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะกล่าวตรงๆ ได้โปรดมอบอาณาจักรแห่งนี้ให้ข้าดูแลด้วยเถิด ข้ายินดีรับท่านเป็นนายเหนือหัวด้วยความเต็มใจ มันผู้ใดที่กล้าคิดร้ายต่อท่าน ข้าจะสังหารพวกมันทั้งตระกูลให้หมดสิ้นไม่มีเหลือ ” พูดจบ เทพโฮเดอร์ก็คุกเข่าโขกศีรษะให้จ้าวเทียนอย่างนอบน้อม

“ เหอะ พูดมาตั้งมากมาย สุดท้ายก็แค่จะร้องขอชีวิตให้เศษสวะพวกนี้สินะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ทำให้เทพโฮเดอร์ที่คุกเข่าอยู่เงยหน้าขึ้นมาทันที

“ นายท่าน ข้าจะพิสูจน์ความภักดีให้ท่านได้เห็นเอง ”

ครืนนน! ตูม!ๆๆๆๆๆ

เพียงเทพโฮเดอร์สะบัดมือไปด้านหลัง โดยไม่ต้องหันไปมอง คลื่นพลังงานความมืดก็แปรเปลี่ยนเป็นคมหอกนับร้อย บดขยี้เหล่าเทพแอสการ์ดหลายสิบองค์เป็นหมอกเลือดในพริบตา

“ ทั้งหมดคือพวกที่จงรักภักดีกับบาลเดอร์ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกโลกมนุษย์ของมหาเทวีเฟรย่า แต่หากท่านยังไม่เชื่อใจ ข้าก็พร้อมทำพันธสัญญาชีวิตและความตายกับท่านเดี๋ยวนี้ ” เทพโฮเดอร์พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ในเมื่อลงมือสังหารพวกเดียวกันไปแล้ว เขาก็ไม่มีหนทางให้ถอยหลังกลับอีก

“ ดีมาก งั้นก็จงทำซะ ” จ้าวเทียนประทับพันธสัญญาทาสใส่จิตวิญญาณของเทพโฮเดอร์ทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมรับโดยไม่ลังเล

สุดท้าย เรื่องทั้งหมดเลยจบลงที่อาณาจักรเทวะตำนานกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังจ้าวเทียน และจะส่งมอบทรัพยากรพร้อมกับกองกำลังที่เหลืออยู่ไปช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้โลกมนุษย์

“ นายท่าน ข้ายังมีความลับบางอย่างของราชวงศ์เทพแอสการ์ดที่ท่านน่าจะสนใจ ” เทพโฮเดอร์ส่งกระแสจิตถึงจ้าวเทียน ในตอนที่ขุมกำลังของเทพสึคุโยมิกับเทพฮอรัสจากไปเรียบร้อย

“ หืม ลองบอกมาซิ ” จ้าวเทียนถามกลับไปแบบไม่ใส่ใจนัก แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอกมาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะดูเหมือนเขาจะได้รับตัวหมากสำคัญ มาทำหน้าที่แทนโฮ่วอี้ที่หายตัวไปแล้ว

“ ข้างใต้พระราชวังแห่งนี้ ได้ปิดผนึกเทพอสูรบรรพกาลเซอร์เทอร์เอาไว้ มันคือราชันอสูรเปลวเพลิงแห่งการทำลายล้าง มหาภัยพิบัติแห่งแดนสวรรค์ตามคำพยากรณ์โบราณ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน