ณ ท้องพระโรงพระราชวังแอสการ์ด
จ้าวเทียนนั่งอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดิที่เคยเป็นของราชันเทพโอดิน โดยมีเหล่าราชวงศ์เทพแอสการ์ดเกือบสองร้อยชีวิต กำลังคุกเข่ายอมรับชะตากรรมอยู่เบื้องล่าง
ส่วนกองกำลังของเทพสึคุโยมิกับเทพฮอรัสที่ติดตามมาด้วย ก็ทำหน้าที่เป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง เพื่อรักษาอำนาจการปกครองของราชวงศ์แอสการ์ดเอาไว้ ไม่ให้ต้องมาล่มสลายไปในยุคสมัยนี้
“ ไม่ต้องพูดอีกต่อไปแล้ว เรื่องอื่นๆสามารถใช้ทรัพย์สมบัติมาชดเชยได้ แต่เครือญาติของเทพโอดินทั้งหมดจะต้องถูกสังหาร หรือไม่ก็ทำลายต้นกำเนิดพลังและขับไล่ออกจากแดนสวรรค์ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการให้มีศัตรูย้อนกลับมาแก้แค้นตนเองภายหลัง
“ โปรดทบทวนการตัดสินใจใหม่ด้วยเถอะ อาณาจักรเทวะตำนานจำเป็นต้องมีผู้ปกครอง หากท่านกำจัดราชวงศ์แอสการ์ดไปทั้งหมด ประชาชนที่เหลือจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ” เทพฮอรัสพยายามพูดโน้มน้าวอย่างเต็มความสามารถ
“ ใช่แล้ว อย่างน้อยก็ช่วยไว้ชีวิตผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องก็ยังดี ข้ากล้ารับประกันเลยว่า พวกเขาจะไม่มีทางวางแผนแก้แค้นท่านในอนาคตแน่นอน ” เทพสึคุโยมิช่วยพูดเสริมขึ้นอีกแรง
ด้วยความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนในปัจจุบัน คงมีแต่มหาเทพอวี่หวงกับพระยูไลเท่านั้นถึงจะเผชิญหน้ากับเขาตรงๆได้
ส่วนเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์หมดสิทธิ์ต่อกรจ้าวเทียนโดยสิ้นเชิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์แอสการ์ดที่ไม่หลงเหลือผู้แข็งแกร่งอยู่แล้วเลย
“ ฉันจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าพวกเขายอมปล่อยวางความแค้นจริงๆ บางทีในอนาคตอาจจะมียอดอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้น แล้ววางแผนจัดการโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้นก็ได้ ” จ้าวเทียนถามกลับไปอย่างเฉยชา
“ เรื่องนี้… ” เทพสึคุโยมิมีท่าทีอ้ำอึ้งทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดแก้ตัวให้ราชวงค์แอสการ์ดที่เหลือ หนึ่งในบรรดาผู้ที่กำลังคุกเข่าอยู่ ก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยืนตรงหน้าบัลลังก์อย่างกล้าหาญ โดยไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัวเหมือนกับคนอื่นๆ
นี่คือเทพโอเดอร์ น้องชายฝาแฝดเทพบัลเดอร์ ซึ่งนอกจากหน้าตาแล้วสถานะทุกอย่างกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากบาลเดอร์เป็นเทพแห่งแสงสว่าง โฮเดอร์ก็คือเทพแห่งความมืด
หากบาลเดอร์เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ โฮเดอร์ก็คือตัวแทนของบาป หากบาลเดอร์สามารถมองเห็นสรรพสิ่งได้อย่างชัดเจน โอเดอร์ก็ตาบอดสนิท
ทั้งที่ทั้งสองถือกำเนิดมาพร้อมกัน แต่บาลเดอร์ได้รับความรักจากเหล่าเทพทั้งบวง ในขณะที่โฮเดอร์ถูกหมางเมินและรังเกียจมาโดยตลอด ไม่เว้นแม้แต่กับบิดามารดาตนเอง ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นบาดแผลในใจของโฮเดอร์มาตั้งแต่จำความได้
อิจฉา ริษยา โกรธแค้น อยากให้พี่ชายตนรีบตายๆไปซะ นี่คือความรู้สึกด้านลบที่โฮเดอร์เก็บซ่อนเอาไว้ จนกระทั่ง เมื่อจ้าวเทียนกวาดล้างวิหารบูชาเทพเจ้า โอกาสที่เขาเฝ้ารอมานานก็มาถึง
“ โฮเดอร์ เจ้าคิดทำอะไรกลับมาเดี๋ยวนี้ ”
“ ช่างบ้าบิ่นสิ้นดี รีบนำตัวเขากลับมาเร็วเข้า ”
“ มันจบแล้ว พวกเราไม่รอดแน่ ”
เหล่าเทพแอสการ์ดที่คุกเข่าอยู่ พากันส่งเสียงห้ามปรามออกมา พวกเขาไม่ต้องการให้โฮเดอร์ไปกระตุ้นโทสะจ้าวเทียน ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม
“ นั่นเจ้าคิดจะทำอะไรกันโฮเดอร์ รีบถอยกลับมาซะ ” เทพฮอรัสรีบพูดเตือนขึ้นอย่างร้อนรน พร้อมกับใช้พลังผนึกความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามไว้
ทันใดนั้น
ครืนนน! บูมม!
ร่างของเทพโฮเดอร์ปลดปล่อยพลังงานความมืดอันน่าสะพรึงออกมา มันดูดกลืนพลังของเทพฮอรัสแล้วสะท้อนกลับไปในพริบตาเดียว ส่งผลให้เทพฮอรัสถูกกระแทกถอยหลังไปสามก้าว
สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศในท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบทันที เพราะต่อให้เทพฮอรัสจะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ แต่การที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ถูกเทพโลการะดับเก้าขั้นต้นสวนกลับ มันน่าตื่นตระหนกจนเกินไป
“ ช่างน่าสนใจจริงๆ ดูเหมือนจะมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องที่ฉันสังหารเทพบาลเดอร์สินะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ด้วยเคล็ดวิชาเนตรหมื่นสรรพสิ่ง ทำให้เขามองเห็นกลิ่นอายดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์อยู่ในร่างกายฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งคำพูดประโยคนั้นของจ้าวเทียน ก็ได้ไปกระตุ้นให้คนอื่นๆคิดถึงเรื่องสำคัญบางอย่างที่ถูกพวกเขาละเลยไป
ดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์…อยู่ที่ไหน ?
ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ถูกสังหาร ดวงวิญญาณของเทพบาลเดอร์ก็เหมือนจะหายเข้ากลีบเมฆ มันไม่ได้ปรากฏขึ้นเช่นเดียวกับแหวนมิติ และสมบัติต่างๆที่ถูกเก็บไว้ในร่างผู้เผยพระวจนะศักดิ์สิทธิ์
หรือว่า…จะเป็นฝีมือของเทพโฮเดอร์
“ แม้แต่เรื่องนี้ ก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของท่านได้ สมกับเป็นบุคคลที่ข้าเฝ้ารอมานานจริงๆ ” พูดจบเทพโฮเดอร์ก็ถอดผ้าปิดตาออก เปิดเผยนัยน์ตาข้างขวาที่มืดมิดดุจยามราตรี และนัยน์ตาข้างซ้ายที่เปล่งประกายเจิดจ้าดุจแสงตะวัน
“ นั่นมัน นัยน์ตาแห่งรุ่งอรุณของบาลเดอร์ ไอสารเลว! เจ้ากล้ากลืนกินดวงวิญญาณพี่ชายตนเองงั้นรึ ” มหาเทวีฟริกก์ร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล
นางได้สติคืนมาเพราะสัมผัสพลังของบุตรชายได้ แต่เนื่องจากถูกอีกาทองคำสามขาปิดผนึกพลังทั้งหมดไว้ จึงทำได้เพียงระบายความโกรธผ่านคำพูดเท่านั้น
“ ว่าไงนะ เทพโฮเดอร์กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน