เมื่อสัญลักษณ์ดวงตาสีทองปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า สิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนโลกมนุษย์ก็สั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ มันเป็นความหวาดกลัวต่อกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ ที่ควบคุมชะตากรรมของสรรพสิ่งในเอกภพ
“ จงยอมศิโรราบให้บัญชาสวรรค์ ”
ฮูมมม!
สิ้นเสียง ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้สาดส่องลงมาปกคลุมโลกมนุษย์ พร้อมกับความกดดันอันหนักหน่วงของมรรคาแห่งฟ้าดิน
ส่งผลให้ทั้งมนุษย์ธรรมดารวมไปถึงสรรพสัตว์ ถูกกระแทกลงไปนอนราบบนพื้น พร้อมกับกระอักเลือดออกมาเป็นสาย
โดยเฉพาะเหล่าผู้ฝึกตนและพวกซูเปอร์ฮีโร่ ที่อยู่บริเวณเทือกเขาคุนหลุนจะได้รับความกดดันมากว่าผู้อื่นหลายร้อยเท่า จนมีบางส่วนเริ่มร่างกายระเบิดกระจายเป็นหมอกเลือด ตกตายไปโดยไร้สภาพศพที่สมบูรณ์
“ บัดซบ อีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ ไม่ซิ มันเหนือยิ่งกว่านั้นอีก ” จ้าวเทียนพยายามสร้างม่านพลังปกป้องคนที่เหลืออย่างเต็มความสามารถ เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าศัตรูในครั้งนี้ เหนือกว่าร่างอวตารเต๋าสวรรค์ลำดับที่เก้ามากนัก
ทันใดนั้น
“ บังอาจ ไม่เห็นหัวพวกข้าเลยงั้นรึ ”
เสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะของเทพมังกรทั้งเก้าดังขึ้นพร้อมกัน จนสะท้านสะเทือนไปทั่วทั้งสามภพ จากนั้นเขตอาคมป้องกันของโลกมนุษย์ ก็ถูกกระตุ้นให้ทำงานอย่างเต็มกำลัง
แวบ!
ปรากฏร่างแสงขนาดยักษ์ ซึ่งเกิดจากการผสานพลังกันของเทพเจ้ามังกรทั้งเก้า ปล่อยหมัดทั้งสองออกไป ทำลายสัญลักษณ์ดวงตาสีทองจนแหลกกระจุย
ตูมมมม!
การโจมตีนี้บรรลุถึงขอบเขตครึ่งก้าวผู้ปกครองอย่างแท้จริง ทำให้ชั้นบรรยากาศโลกมนุษย์ถูกเป่าหายไปแถบหนึ่ง แม้แต่ดวงดาวหลายสิบดวงที่อยู่ในอวกาศก็ยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนแทบจะหลุดวงโคจรไป
“ ช่างเป็นการทักทายที่รุนแรงเหลือเกินนะ ”
แวบ!
เงาร่างบุรุษสามคน ปรากฏขึ้นท่ามกลางลำแสงศักดิ์สิทธิ์จากแดนสวรรค์เบื้องบน ทั้งสีหน้าและแววตาของพวกเขาดูเย็นชาเป็นอย่างมาก
“ ขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นสูงสองคน ขอบเขตครึ่งก้าวผู้ปกครองหนึ่งคน ดูเหมือนแผนดึงดูดความสนใจของพวกเราจะได้ผลนะ ”
ร่างแสงของเทพมังกรทั้งเก้าหันไปสื่อสารทางจิตกับจ้าวเทียน ยิ่งศัตรูส่งผู้แข็งแกร่งลงมามากเท่าไหร่ การป้องกันที่มหาวิหารเต๋าสวรรค์ก็จะอ่อนแอลงเท่านั้น
“ เป็นไปไม่ได้ เจ้า! เจ้าคือฟ่านเจี้ยนหลงงั้นรึ ” เสวี่ยหลงร้องตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้พวกจ้าวเทียนหันมามองด้วยความตกใจ
“ หืม ดูซิ ข้าเจอใคร กระบี่ผุๆของสหายเก่านี่เอง ” ฟ่านเจี้ยนหลงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา พร้อมกับก้าวเดินเหยียบอากาศเข้าไปหาอีกฝ่าย แต่ก็ถูกจ้าวเทียนกับเทพเจ้ามังกรขวางไว้เสียก่อน
“ ฮ่า ฮา มันเป็นแบบนี้เองสินะ ในอดีตเพื่อที่จะหลบหนีการตามล่าของพวกข้า เจ้าถึงขั้นยอมละทิ้งตัวตนกลายเป็นร่างอวตารของเต๋าสวรรค์เลยงั้นเหรอ ไม่รู้สึกอับอายต่อสายเลือดอันสูงส่งของตระกูลฟ่านบ้างหรือไร ”
พูดจบ เสวี่ยหลงก็หยิบผลึกวิญญาณโกลาหลสามก้อนขึ้นมากลืนกิน นี่คือสิ่งที่เขาเตรียมไว้เพื่อให้ทะลวงขีดจำกัดขึ้นมาเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดได้ชั่วคราว โดยหลังจากใช้วิธีนี้ก็จะต้องหลับจำศีลนานหลายพันปีเลยทีเดียว
สังหารฟ่านเจี้ยนหลง นี่คือภารกิจที่จักรพรรดิอสูรกระบี่มอบไว้ให้เสวี่ยหลงก่อนตาย เพื่อการนี้เขาถึงขั้นยอมหลบซ่อนตัวหลายล้านปีในดินแดนมรดก เพื่อแอบสืบหาเบาะแสอีกฝ่ายแบบลับๆ จนกระทั่งในที่สุดโอกาสที่เฝ้ารอคอยมานานก็มาถึง
“ ฟ่านเจี้ยนหลง จงรับความตายซะ ”
ฉัวะ!
ลำแสงกระบี่อันน่าหวาดหวั่นเฉือนตัดความว่างเปล่าออกเป็นสองส่วน มิติโดยรอบมีรอยแยกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา นี่คือรังสีกระบี่ที่แฝงไปด้วยจิตสังหารสะท้านฟ้าสะเทือนดินอย่างแท้จริง
“ เหอะ ก็แค่อาวุธที่สูญเสียเจ้าของ ” ฟ่านเจี้ยนหลงแค่นเสียงอย่างดูถูก พร้อมทั้งปล่อยหมัดซ้ายออกไปโดยไม่หันไปมอง
เปรี้ยง! ตูมม!
คลื่นพลังทำลายล้างที่ปะทุขึ้นทำให้มิติบิดเบือนแยกออก ทั้งความเร็วและความรุนแรงยังเหนือกว่าเสวี่ยหลงเสียอีก ส่งผลให้รังสีกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
แต่ทว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน