อ่านสรุป ภาคสามบทที่่221 สังหารทั้งหมดในหมัดเดียว จาก จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดย ZigFheZ
บทที่ ภาคสามบทที่่221 สังหารทั้งหมดในหมัดเดียว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายแฟนตาซี จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ZigFheZ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เมื่อจ้าวเทียนปรากฏตัวขึ้นที่กาแล็กซี่ทางช้างเผือก ทั้งรูปลักษณ์และออร่าของเขาก็ค่อนข้างแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จนไม่มีกลิ่นอายเหมือนมนุษย์อีกต่อไป
เพราะตั้งแต่บรรลุขอบเขตจักรพรรดิเซียนเต๋า พลังงานโกลาหลแรกเริ่มก็ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย ของจ้าวเทียนทุกอณูจากภายในสู่ภายนอก
ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ถูกจำกัดอยู่ในกฎเกณฑ์แห่งจักรวาล ซึ่งเหนือไปกว่าตอนที่เขาบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพในชีวิตที่แล้วมาก
“ ความรู้สึกนี่มันคืออะไรกัน ราวกับขอเพียงฉันยื่นมือออกไป สรรพสิ่งก็จะเคลื่อนไหวตามเจตจำนงของฉัน ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว ”
จ้าวเทียนรู้สึกว่าถ้าตัวเขาต้องการ ก็สามารถสรรสร้างหรือทำลายดาราจักรแห่งหนึ่งได้อย่างง่ายดาย คล้ายกับทุกสิ่งทุกอย่างถือกำเนิดมาเพื่อเขา มีตัวตนอยู่เพื่อเขา และแตกดับเพื่อเขา
“ ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมวานรเทพสามตาจึงต้องการครอบครอง สมบัติโกลาหลแรกเริ่มแม่น้ำเต๋าขนาดนี้ เพราะนอกจากจะได้รับขุมพลังอันไร้สิ้นสุดแล้ว ยังมอบพลังของมหาเทพผู้สร้างให้อีกด้วย ”
หลังจากใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับร่างกายใหม่อยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเทียนก็ได้รู้ว่าตนเองมีพลังมากกว่าตอนที่เป็นมหาเทพตี้เทียนถึงสิบเท่า
ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบสถานการณ์ในปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของเขาก็คงอยู่ระหว่างขอบเขตครึ่งก้าวผู้ปกครองกับขอบเขตผู้ปกครองที่แท้จริง
ทันใดนั้น
แวบ!ๆๆ
ความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้าจ้าวเทียน ก็ถูกบิดเบือนกลายเป็นกระจกเงาสามอันแสดงภาพด้านหน้าวิหารสวรรค์สูงสุด เทือกเขาคุนหลุนบนโลกมนุษย์ และการต่อสู้ในสนามรบเทพมารบรรพกาล
“ เขตอาคมผนึกเก้ามังกรกักขังพวกฟ่านเจี้ยนหลงไว้ได้จริงๆ แผนการทุกอย่างไม่มีข้อผิดพลาด ” จ้าวเทียนพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนกระจกเงาบานแรก
ฟ่านเจี้ยนหลงกับร่างอวตารเต๋าสวรรค์ลำดับที่หก ถูกเทพเจ้ามังกรใช้พลังกักขังไว้ในเจดีย์เก้าสี ซึ่งเกิดจากตราผนึกนิรันดร์ทั้งเก้าบนโลกมนุษย์
ส่วนเสวี่ยหลงและคนอื่นๆ ก็กำลังติดตามไล่สังหารหมิงไท่หู่อย่างดุดัน โดยไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้าม ใช้ประตูเคลื่อนมิติกลับไปป้องกันแดนสวรรค์
“ หืม ราชันอสูรเพลิงเซอร์เทอร์แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคาดเอาไว้มาก สมแล้วที่เป็นมหาภัยพิบัติตามคำพยากรณ์โบราณ ” จ้าวเทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกระจกเงาบานที่สอง
เปรี้ยงงง! ตูมมมม!
อสูรกายเปลวเพลิงขนาดยักษ์ที่มีมงกุฎราชันย์อยู่บนศีรษะ กำลังต่อสู้กับวานรสีทองที่เกิดจากเจตจำนงของเต๋าสวรรค์อย่างดุเดือด อานุภาพพลังทำลายล้างของทั้งสองส่งผลให้แดนสวรรค์พังทลายกลายเป็นนรกบนดิน
ถึงแม้จะมีร่างอวตารเต๋าสวรรค์อีกสามตนเข้ามาเสริมกำลังรบ แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากโลกมายาสมบูรณ์แบบของจักรพรรดินีปิงเยว่ได้
เพราะนี่คือร่างที่แท้จริงของเธอไม่ใช่ร่างอวตารอย่างที่แล้วๆมา เรื่องความแข็งแกร่งโดยรวมย่อมเหนือกว่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงฝ่ายตรงข้ามแน่นอน
จนกระทั่ง จ้าวเทียนกวาดสายตามาถึงกระจกเงาบานสุดท้าย ซึ่งเป็นสงครามครั้งใหญ่เพื่อแย่งชิงตำแหน่งมหาเทพผู้ปกครองแดนสวรรค์
“ ดูเหมือน ท่านอาจารย์จะเอาจริงแล้วสินะ ”
จ้าวเทียนยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นจักรพรรดินีหลินซินเยว่เรียกร่างอวตารอดีตชาติอีกสองร่าง ขึ้นมาช่วยต่อสู้กับหุ่นเชิดจักรพรรดิห้าตน
ถึงแม้จะเป็นเพียงร่างอวตารระดับครึ่งก้าวจักรพรรดิเทพ แต่ทั้งสองก็เป็นบรรพชนเต๋าที่เคยทิ้งชื่อไว้ในศิลาอันดับ เรื่องความแข็งแกร่งไม่ต้องพูดถึง สามารถรับมือหุ่นเชิดจักรพรรดิของฝ่ายตรงข้ามได้แน่นอน
“ หืม แล้วนี่มหาเทพอวี่หวงไปอยู่ไหนกัน ” จ้าวเทียนกวาดสัมผัสวิญญาณไปรอบด้าน ก็มองเห็นเพียงมหาเทพจูเซียนที่กำลังต่อสู้กับพระยูไล และสงครามของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
และเมื่อเขาตรวจสอบให้ไกลออกไป จนถึงอาณาเขตมืดมิดของจักรวาลที่ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ก็ได้พบภาพเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวที่ทำให้ขนลุกเกรียว
“ นี่มัน…อย่าบอกนะว่าคือร่างที่แท้จริงของเสี่ยวมี่เฟิง ” จ้าวเทียนรู้สึกเหมือนตนกำลังดูภาพยนตร์สัตว์ประหลาดฟอร์มยักษ์ที่ไม่มีการเซ็นเซอร์ มันเป็นทุ่งสังหารที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตแดงฉานและเศษซากอวัยวะมากมาย
ตอนนี้เสี่ยวมี่เฟิง ไม่ได้อยู่ในร่างสาวน้อยน่ารักอีกต่อไปแล้ว ทั้งยังไม่ใช่ร่างนางพญาผึ้งที่จ้าวเทียนเคยเห็นอีกด้วย รูปลักษณ์ในปัจจุบันของเธอราวกับเพิ่งผุดขึ้นมา จากขุมนรกอเวจีชั้นลึกที่สุดไม่มีผิด
ถึงแม้ร่างครึ่งบนของเธอจะยังคล้ายมนุษย์ผู้หญิง แต่กลับมีดวงตาสีแดงแปดดวงและคมเขี้ยวเหมือนแมงมุม ทั้งยังมีปีกและขาแมลงขนาดใหญ่สีคู่งอกออกมาจากกลางหลัง
ยิ่งเมื่อรวมกับอวัยวะส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปที่กลายเป็นอสูรตะขาบขนาดยักษ์ ซึ่งมีกงเล็บอันแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนทำหน้าที่เป็นเครื่องบดเนื้อ มันก็ทำให้จ้าวเทียนรู้สึกอยากเบือนหน้าหนีทันที
“ ก๊าซซซ! ตายซะๆๆ ”
ตอนนี้เสี่ยวมี่เฟิง กำลังใช้ร่างตะขาบเลื้อยพันรัดรอบกายทิพย์สิบตะวันของมหาเทพอวี่หวง เหมือนต้องการใช้กงเล็บข้างลำตัวบดขยี้ศัตรูให้แหลกกระจุย โดยไม่สนใจการโจมตีจากเผล่าผู้ยิ่งใหญ่ฝ่ายศัตรู
ครืนนน! แวบ!
เสี้ยววินาที ที่โลกมายาสมบูรณ์แบบสลายหายไป สามร่างอวตารเต๋าสวรรค์ก็ถูกส่งกลับมาที่โลกแห่งความจริงๆโดยไร้ซึ่งบาดแผล
“ สามหมัดราชันจักรพรรดิขั้นสูงสุด! ”
“ ทลายสวรรค์!”
เพล้งงง!
เสียงเหมือนกระจกแตกดังขึ้น ก่อนที่กำแพงแห่งห้วงมิติเวลาจะถูกทำลายลงด้วยหมัดนี้ของจ้าวเทียน นี่คือครั้งแรกที่เขาดึงดูดพลังจากแม่น้ำเต๋ามาใช้อย่างเต็มที่ แม้จะเป็นเพียงกระบวนท่าปล่อยหมัดที่เรียบง่าย แต่แฝงเร้นไปด้วยมรรคาขั้นสูงสุด
ทันใดนั้น
สรรพสิ่งในจักรวาลก็เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง ทั้งการต่อสู้ระหว่างเจตจำนงวานรเทพสามตากับราชันอสูรเพลิงเซอร์เทอร์ ทั้งการต่อสู้บนโลกมนุษย์ หรือแม้กระทั่งสงครามที่สนามรบเทพมารบรรพกาลก็ไม่มีข้อยกเว้น
มีเพียงหมัดของจ้าวเทียนเพียงหนึ่งเดียว ที่อยู่นอกเหนือข้อจำกัดทุกอย่างของห้วงเวลาอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
จนกระทั่ง ภาพลวงตาของหมัดขนาดยักษ์ ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าร่างอวตารเต๋าสวรรค์ทั้งสาม ห้วงเวลาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ตูมมมมม!
หมัดนี้ของจ้าวเทียนได้ระเบิดคลื่นทำลายล้างออกมาเป็นวงกว้าง เหมือนดวงตะวันที่ส่องแสงสว่างในตอนเช้าขับไล่ความมืดมิดในยามราตรี อานุภาพของมันแทบจะฉีกกระชากความความว่างเปล่าของทั้งจักรวาลเป็นเสี่ยงๆ
สามร่างอวตารเต๋าสวรรค์และครึ่งหนึ่งของภูเขาจักรวาล รวมไปถึงดาราจักรขนาดใหญ่เบื้องหลัง ได้ถูกลบหายไปอย่างสิ้นเชิงไม่หลงเหลือแม่เศษฝุ่น
“ เอาล่ะ ตอนนี้ก็คงไม่มีใครมาคอยขัดขวางแล้ว พวกเราก็รีบบุกเข้าไปในวิหารสวรรค์สูงสุดกันเถอะ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...