ภายในห้วงมิติโกลาหลอันกว้างใหญ่ไพศาลไร้จุดสิ้นสุด จะประกอบไปด้วยจักรวาลจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า
ซึ่งเกือบทั้งหมด จะถูกสร้างจากอสูรเทวะโกลาหลหรือตัวตนสูงส่งในยุคบรรพกาล โดยใช้แหล่งกำเนิดชีวิตและความตายของตนเองหล่อเลี้ยงจักรวาลแห่งใหม่ เช่นเดียวกับวิธีการของมหาเทพผานกู่ที่จ้าวเทียนเคยเห็นในความทรงจำของเทพเจ้ามังกร
“ ผู้แข็งแกร่งระดับบรรพชนมารอนันตกาล จะร่วมมือกับผู้ฝึกตนไร้ชื่อเสียงได้อย่างไร ” องค์ชายฉินหลางเจี้ยนพูดขึ้นเบาๆอย่างคลางแคลงใจ
เนื่องจากในห้วงมิติโกลาหลมีจักรวาลระดับสูงอยู่เพียงสี่แห่งเท่านั้น คือจักรวาลหยินหยางสามขั้ว จักรวาลเทพมาร จักรวาลเต๋าศักดิ์สิทธิ์ และจักรวาลอสูรบรรพกาล
ทั้งสี่จักรวาลนี้ คงอยู่มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของห้วงมิติโกลาหล โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างพวกมันขึ้นมา จึงเป็นเหตุผลให้จักรวาลทั้งสี่ถูกตั้งชื่อตามมหาอำนาจผู้ปกครองในปัจจุบัน
ถึงแม้บรรพชนมารอนันตกาล จะอ่อนแอที่สุดในสี่ผู้ปกครองจักรวาลเทพมาร แต่ทั้งศักดิ์ฐานะและอำนาจบารมีของเขา อยู่เหนือมหาเทพผานกู่ซึ่งเป็นผู้สร้างจักรวาลของโฮ่วอี้มาก ราวกับแสงหิ่งห้อยและแสงจันทราก็ไม่ปาน
นี่จึงเป็นสาเหตที่องค์ชายฉินหลางเจี้ยน ไม่เชื่อว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างบรรพชนมารอนันตกาล จะมาสุมหัวอยู่ร่วมกันกับผู้ฝึกตนบ้านนอกเช่นโฮ่วอี้
ทันใดนั้น
วูป!ๆๆๆ
ท่ามกลางความว่างเปล่า ได้ปรากฏดวงแสงสีแดงเปล่งประกายเจิดจ้าก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนกลายเป็นร่างจิตวิญญาณของจักรพรรดิอสูรทั้งสี่ตน
นี่คือพวกองครักษ์ที่พลาดท่าเสียทีถูกบรรพชนมารสังหารไปในตอนแรก ตราบใดที่เจตจำนงและดวงวิญญาณของพวกเขายังไม่สูญสลายไปโดยสมบูรณ์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฟื้นฟูร่างกายกลับมาอีกครั้ง
“ องค์จักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ พวกข้าน้อยไร้ความสามารถคงไม่อาจทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาได้สำเร็จ โปรดประทานอภัยโทษด้วยเถิด ”
“ เหอะๆ ขออภัยโทษงั้นรึ สุนัขที่ทำตามคำสั่งเจ้าของไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร ” จักรพรรดินีฉินซู่หลานพูดตอบกลับไปอย่างเย็นชา
ในชีวิตของนางเกลียดความล้มเหลวมากที่สุด ดังนั้นจึงปกครองบริวารด้วยความเข้มงวด ไม่มีช่องว่างให้ความผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น
“ ระหว่างยอมต่อสู้สุดชีวิต หรือจะทนเห็นตระกูลของพวกเจ้าถูกกวาดล้างแล้วค่อยถูกสังหาร จงเลือกเอา ” องค์ชายฉินหลางเจี้ยนพูดขึ้นอย่างเย็นชา
เขามองจุดประสงค์ของมารดาออก ซึ่งก็คือการใช้ชีวิตของพวกองครักษ์ไปทดสอบความแข็งแกร่งศัตรู เพื่อประเมินสถานการณ์ดูว่าควรจะรุกไปข้างหน้าหรือถอยกลับไปดี
“ สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย…นี่มัน ” องครักษ์ทั้งสิบรู้สึกเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพวกที่หลงเหลือเพียงดวงวิญญาณยิ่งรู้สึกกดดันมากกว่าเดิม
“ ไม่ได้ยินคำพูดของบุตรชายข้างั้นรึ พวกเจ้าทั้งสี่จงสังเวยวิญญาณใช้คำสาบมรณะ ส่วนที่เหลืออีกหกก็ใช้ค่ายกลต้องห้ามราชันอสูรสังหารซะ ”
คำสั่งของจักรพรรดินีฉินซู่หลาน ทำให้สีหน้าวิญญาณของสี่องครักษ์มืดครึ้มลงอย่างสมบูรณ์ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายคลุ้มคลั่ง แล้วเลือกเผาผลาญฤทธานุภาพตนเองทันที
เพราะอย่างน้อยการเสียสละของพวกเขา ก็จะไม่ทำให้ครอบครัวและลูกหลานต้องมาพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย
ครืนน!
กลิ่นอายความโกรธเกลียดเคียดแค้นฟุ้งกระจายออกมาเป็นวงกว้าง จนมองเห็นเป็นออร่าแห่งความมืดมิดที่เต็มไปด้วยพิษคำสาปจากขุมนรก
“ เหอะ ใช้ดวงวิญญาณสี่จักรพรรดิอสูรเป็นเชื้อเพลิง เพื่ออัญเชิญคำสาปมรณะจากบรรพกาลมาเล่นงานบรรพชนมารผู้ยิ่งใหญ่เช่นข้างั้นรึ ช่างไร้สาระสิ้นดี ”
บรรพชนมารแค่นเสียงอย่างดูถูก โดยไม่สนใจแววตาแค้นเคืองของเหล่าผู้ถูกสั่งให้พลีชีพแม้แต่น้อย
“ หากเจ้าเป็นตัวจริงก็ลองทำลายคำสาปของพวกข้าดู มิเช่นนั้นก็จงหุบปากไปซะ! ” หนึ่งในจักรพรรดิอสูรที่สังเวยดวงวิญญาณร้องคำรามขึ้นด้วยความเดือดดาล ในใจรู้สึกทั้งสิ้นหวังและเครียดแค้นที่ชีวิตตนเองต้องมาจบลงแบบนี้
ตูม!
ความว่างเปล่าแตกออกเป็นเสี่ยงๆราวกับกระจกที่เต็มไปด้วยรอยร้าว ก่อนที่หมอกควันสีดำรูปหัวกะโหลกจำนวนนับไม่ถ้วน จะถาโถมออกมาจากช่องว่างที่พังทลาย แล้วรุมกัดกินดวงวิญญาณสี่จักรพรรดิอสูรที่เป็นเครื่องสังเวยจนหมดสิ้น
“ ฆ่า ฆ่า ฆ่า กลืนกินชีวิตและวิญญาณของพวกมัน ”
จากนั้น พวกมันก็พุ่งเข้าไปหาโฮ่วอี้และบรรพชนมารเป็นเป้าหมายถัดไป ตามวัตถุประสงค์แรกเริ่มของการใช้คำสาปมรณะ
ซึ่งก็เป็นเวลาเดียว กับตอนที่จักรพรรดิอสูรอีกหกตนยอมเผาผลาญอายุขัยครึ่งหนึ่งของตนเอง เพื่อใช้ค่ายกลต้องห้ามล้อมกักขังพวกโฮ่วอี้ไว้ด้านใน
“ หึหึ หนึ่งในสี่ผู้ปกครองจักรวาลเทพมารที่ตกอยู่ในสภาวะอ่อนแองั้นรึ บางทีการมาของข้าในครั้งนี้ อาจจะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิดก็ได้ ” จักรพรรดินีฉินซู่หลานหัวเราะอย่างเย็นชา
วูป!
บนฝ่ามือขวาของนาง เริ่มมีดวงแสงสีดำและสีขาวก่อตัวขึ้นเป็นสัญลักษณ์หยินหยาง ขอเพียงศัตรูเปิดเผยช่องโหว่ออกมาให้เห็น นางจะลงมือปิดฉากการต่อสู้ทันที โดยที่ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีรอดไปแม้แต่คนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน