จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 82

ผลกระทบจากลำแสงสีขาวขนาดใหญ่ มันได้กินรัศมีเกือบหมื่นเมตร หากมองขึ้นไปบนฟ้าในตอนนี้ จะเห็นเป็นโพรงขนาดใหญ่อยู่ด้านบน

ทะเลเมฆได้ถูกลบหายไปหมดแล้ว…

ห่างออกไปห้าร้อยเมตร จ้าวเทียนอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลเต็มตัว ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าแข็งค้าง

‘ มันเกิดอะไรขึ้น…ฉันมาไม่ทันงั้นเหรอ ’

ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาได้รู้แผนการร้ายของตระกูลหลี่มาจากโจวจือหยวน จึงตัดสินใจรีบมาหยุดการต่อสู้ของพวกศิษย์พี่หญิง

แต่มันกลับสายเกินไป…

ลำแสงขนาดใหญ่ได้กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างหายไปจนหมด…

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นภายในพริบตาขณะที่กำลังจะรู้ผลการต่อสู้ ในตอนที่ศิษย์พี่หญิงกำลังใช้พลังทั้งหมดผนึกต้วนมู่เฉียนเอาไว้

เธอไม่มีทางหลบมันได้ทันอย่างแน่นอน…

วูป!

สัมผัสวิญญาณของจ้าวเทียนกวาดหาไปครึ่งประเทศ เขาพยายามค้นหาเบาะแสทุกอย่าง เพื่อค้นหาหลินซูซิน

‘ ไม่มี…ฉันไม่สามารถสัมผัสถึงจิตวิญญาณของศิษย์พี่หญิงได้ ’

ศิษย์พี่หญิงตายไปแล้วจริงๆเหรอ…

นี่มันไม่จริงใช่ไหม…

เมื่อคิดไปถึงเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา ตุ๊กตาหมีตัวนั้นได้ช่วยเหลือเขาทุกอย่างด้วยความจริงใจ แม้ในยามที่เกิดปัญหาขึ้น เธอก็จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยเขาเสมอ

ถึงจะเพิ่งได้พบหน้ากันได้เพียงไม่กี่วัน…

แต่ความผูกพันที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ต่างกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

“ ฉัน…. ”

!!

น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาของจ้าวเทียน มันได้บรรจุความทรงจำเกี่ยวกับศิษย์พี่หญิงและความเสียใจที่ไม่อาจปกป้องเอาไว้ได้

อ้ากกกก!

เสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวดังสะท้านท้องนภา

บูมมม!

เปลวเพลิงสีทองระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียน ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟแห่งความบ้าคลั่ง

“ ตระกูลหลี่! ”

“ พวกแก…ต้องตายทั้งหมด! ”

สายตาของเขากวาดมองไปตรงจุดที่ยิงลำแสงออกมา หลังจากใช้สัมผัสวิญญาณกวาดไปในตอนแรก เขาก็ได้ค้นพบฐานลับของตระกูลหลี่แล้ว

มันถูกซ่อนลึกลงไปในใต้ดินประมาณร้อยเมตร ในนั้นมีกองกำลังทหารอยู่ประมาณห้าร้อยนาย รวมทั้งป้อมปืนขนาดใหญ่ที่มีลำกล้องยาวเกือบยี่สิบเมตร

ฟุ่บ!

จ้าวเทียนเหยียบกระบี่บินหายไปในพริบตาเดียว…

ณ ฐานลับตระกูลหลี่

ภายในห้องบัญชาการรบ เจ้าหน้าที่ทุกคนโห่ร้องกันอย่างดีใจ ตอนนี้พวกเขาทำสำเร็จแล้ว หลังจากนี้ตระกูลหลี่จะขึ้นเป็นผู้นำที่แท้จริงของประเทศจีน

“ อย่าเพิ่งชะล่าใจไป…เรายังต้องจัดการสามตระกูลใหญ่ต่อ สั่งกองกำลังทั้งสามจุดลงมือทันที ตัดการสื่อสารทั้งหมดของพวกมันด้วย ”

“ ทางด้านกองทัพก็ให้คนของเราลงมือได้เลย เรื่องสื่อต่างๆพวกตระกูลที่เป็นพันธมิตรกับพวกเราจะจัดการเอง ”

“ ส่วนพวกหน่วยพิเศษของต้วนมู่เฉียน อย่าลืมให้คนของเราที่แฝงตัวอยู่จัดการซะ จับไปขังไว้ซักเดือน จนกว่าพวกมันจะยอมสยบ ” หลี่จุ้นโป๋พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

แม้จะรู้สึกโล่งใจที่แผนการกำจัดพวกต้วนมู่เฉียนสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เคยประมาทฝ่ายตรงข้าม ตราบใดที่ศัตรูทั้งหมดยังไม่ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง เขาก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้

“ ท่านผู้นำครับ…จะจัดการยังไงกับพวกที่ทะเลสาบมรกตดีครับ ตอนนี้เริ่มเกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว หลังจากที่พวกเราสังหารต้วนมู่เฉียนไป ”

เมื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นพูดจบ ใบหน้าของหลี่จุ้นโป๋ก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันที ตามแผนการเดิมพวกของโจวจือหยวนจะต้องเป็นคนจัดการเรื่องทะเลสาบมรกต

แต่ตอนนี้พวกนั้นดันตายไปซะหมด ปัญหาเลยเกิดขึ้นทันที

“ ให้คนของเราที่อยู่ตรงนั้นถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด…หลังจากจัดการกับสามตระกูลใหญ่เสร็จแล้ว ต่อให้พวกมันดิ้นรนยังไงก็ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้อีก ” หลี่จุ้นโป๋สั่งการอย่างเด็ดขาด ตอนนี้ต้องโฟกัสไปที่สามตระกูลใหญ่ก่อน

“ ท่านผู้นำครับ…สัญญาณสื่อสารของเราก็ถูกสามตระกูลใหญ่ตัดขาดเหมือนกันครับ ”

“ ไม่เป็นไร…นี่อยู่ในการคาดการณ์ของฉันแล้ว มันเป็นแค่การดิ้นรนก่อนตายของพวกมันเท่านั้น ”

“ ไม่มีความช่วยเหลือจากบรรพชนเซียนและกองกำลังพิเศษ พวกมันทนได้ไม่นานหรอก ตอนนี้เราก็จับตาดูความเคลื่อนไหวจากทางกองทัพกับพวกตำรวจให้ดีก็พอ ”

“ ฉันไม่ต้องการให้มีคนเข้ามาสอดตอนนี้…อย่าลืมเสนอผลประโยชน์ให้พวกที่ยังไม่ยอมเข้ากับฝ่ายเราด้วย บอกพวกมันไปว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ”

เมื่อสั่งการเสร็จเขาก็ใช้นิ้วนวดขมับเล็กน้อย สายตาของเขามองไปยังภาพถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายของครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก

เขายื่นมืออันสั่นเทาไปที่ภาพใบนั้น แล้วลูบมันอย่างแผ่วเบา ในความคิดของเขาย้อนไปในอดีตเมื่อแปดปีก่อน

ในตอนนั้นภรรยาของเขาได้พาลูกชายวัยสิบขวบออกไปเที่ยว แต่สุดท้ายเพราะการต่อสู้ของพวกเซียน ทำให้ภรรยากับลูกชายของเขาถูกลูกหลงจนเสียชีวิต

แม้ว่าภายหลังเขาจะสามารถหาตัวของคนร้ายได้ แต่ก็เพียงได้รับชดเชยมาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น

อีกฝ่ายมาจากสำนักโบราณที่มีความสัมพันธ์กับสามตระกูลใหญ่ที่เหลือ ทำให้เขาไม่สามารถแก้แค้นได้ แม้แต่ต้วนมู่เฉียนก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะไม่ต้องการละเมิดข้อตกลงกับพวกสำนักโบราณ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มวางแผนการครั้งนี้มาโดยตลอด ประเทศนี้มันต้องถูกจัดระเบียบใหม่ ด้วยปืนใหญ่ลำแสงที่ถูกคิดค้นขึ้น เขาจะกำจัดพวกเซียนให้หมด

‘ ในโลกที่ฉันอยู่…ไม่จำเป็นต้องมีเซียน! ’

หวออออ!

เสียงสัญญาณแจ้งเตือนดังสนั่น

“ แย่แล้วครับ…มีเซียนกำลังโจมตีฐานลับของเราอยู่ด้านนอก ”

!!

“ เอาภาพขึ้นจอเดี๋ยวนี้…ปิดประตูทางเข้าทั้งหมด ยกระดับการป้องกันขึ้นขั้นสูงสุด ” หลี่จุ้นโป๋ตื่นตัวทันที เขารีบสั่งการอย่างรวดเร็ว

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างให้ทนทานต่อการโจมตีจากระเบิดนิวเคลียร์ เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาได้

ด้านนอกฐานลับตระกูลหลี่

ท่ามกลางซากศพของกองกำลังทหารนับร้อยคน ชายคนหนึ่งกำลังโจมตีใส่ประตูเหล็กด้วยความบ้าคลั่ง

ตั้งแต่ที่จ้าวเทียนมาถึงเขาก็สังหารทุกคนที่พบเห็นทันที ภายในพริบตาเดียวไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว

กระสุนปืนใช้กับเขาไม่ได้ผล ระเบิดหรือจรวด RPG สำหรับพลังความแข็งแกร่งของร่างกายเขาในตอนนี้ ไม่ได้สร้างรอยขีดข่วนให้เขาแม้แต่น้อย

ต่อหน้ามหาเทพที่บ้าคลั่ง…

การต่อต้านนั้นไร้ประโยชน์…

ตูมๆๆๆๆ

ตรงหน้าทางเข้าฐานลับตระกูลหลี่ กระบี่ในมือจ้าวเทียนฟันใส่ประตูโลหะที่ขวางอยู่ตรงหน้าไม่หยุด อาคารทั้งหลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหมือนเกิดแผ่นดินไหว

ประตูโลหะที่หนาเกือบสองเมตร ทั้งยังมีส่วนผสมของคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้สร้างยานอวกาศ ความแข็งแกร่งของมันมากกว่าเหล็กกล้าหลายเท่า

แต่ตอนนี้มันได้มีสภาพยับเยินเป็นอย่างมาก พื้นผิวของมันเต็มไปด้วยรอยฉีกขาด ที่เกิดจากพลังงานความร้อนสูง

“ เพลิงสุริยัน! ”

ตูมม!

คลื่นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ระเบิดใส่ประตูตรงหน้าอย่างรุนแรงอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ประตูที่อยู่ตรงหน้าจ้าวเทียนได้แหลกกระจุยไปในที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน