หลังจากที่ต้วนมู่เฉียนมาถึง เรื่องทุกอย่างก็จบลง เพราะเพียงแค่เขาโบกมือเบาๆกำแพงกระจกรวมทั้งผู้ที่อยู่ด้านในก็สลายไปทันที
มันเหมือนกับเศษกระจกที่แตกกระจายออกจากกัน ทุกอย่างกลายเป็นเพียงฝุ่นผงปลิวหายไปในอากาศ ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีโอกาสแม้จะได้เอ่ยวาจา
สำหรับต้วนมู่เฉียนแล้ว ความมั่นคงของประเทศต้องมาก่อนเสมอ สำหรับผู้ที่ทรยศหักหลังประเทศเขาไม่เคยใจอ่อนมาก่อน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีเหตุผลอย่างไรก็ตาม
จุดจบของพวกมันคือความตายเท่านั้น…
ตอนที่เห็นพลังของต้วนมู่เฉียน นัยต์ตาของจ้าวเทียนก็หดเล็กลง เขารู้สึกตกตะลึงกับพลังที่อีกฝ่ายแสดงออกมามาก
‘ เขาบรรลุแก่นแท้แห่งการสังหาร ’
บนแดนสวรรค์นั้น หลังจากที่บรรลุขอบเขตเทพโลกา จนสร้างโลกภายในของตัวเอง จึงจะสามารถบรรลุแก่นแท้ได้
ตัวเขาเองก็มีแก่นแท้เช่นกัน แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้สร้างโลกภายในจึงไม่สามารถใช้มันได้ เพื่อที่จะไปถึงขอบเขตจักรพรรดิเทพนั้น จะต้องบรรลุ 9 แก่นแท้ แล้วหลอมรวมมันเป็นมรรคาของตนเอง
‘ หรือว่าเมล็ดพันธุ์เซียนของต้วนมู่เฉียนจะเติบโตเป็นโลกภายในแล้ว…แต่หากเป็นแบบนั้นเขาก็ต้องกลายเป็นเซียนนภาแล้วซิ ’
ในขณะที่จ้าวเทียนครุ่นบางอย่างอยู่ในใจ ต้วนมู่เฉียนก็กำลังยืนสังเกตตัวเขาอยู่เช่นกัน แววตาของเขาเปล่งประกายเจิดจ้า เมื่อมองไปยังตำแหน่งของเมล็ดพันธุ์เซียนในร่างของจ้าวเทียน
“ เราออกไปกันเถอะ…ฉันมีบางอย่างต้องคุยกับเธอ ” ต้วนมู่เฉียนพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเขาก็เดินนำออกไปทันที
“ ตกลง…ผมก็มีเรื่องต้องการถามผู้อาวุโสเช่นกัน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นก่อนจะเดินตามออกไป
บนท้องฟ้ายามเย็นสูงขึ้นไปหมื่นเมตร
ต้วนมู่เฉียนและจ้าวเทียนลอยอยู่เคียงข้างกัน โดยที่จ้าวเทียนเหยียบอยู่บนกระบี่คู่กาย เนื่องจากเขาแทบจะไม่เหลือพลังแล้ว
“ ฉันจะตอบเธอเพียงคำถามเดียวเท่านั้น…คิดให้ดีก่อนจะถาม ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้น
จ้าวเทียนอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะถามได้แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ตอนแรกเขาจะถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาถามเรื่องอื่นที่สำคัญดีกว่า
‘ เรื่องทั้งหมดในวันนี้…ฉันค่อยไปถามเอาจากศิษย์พี่หญิงก็ได้ ’
หลังจากที่เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ถามปัญหาที่เขาสงสัยมาตลอด
“ ทำไมผู้อาวุโสถึงปล่อยให้สำนักโบราณคงอยู่…ด้วยเทคโนโลยียุคปัจจุบัน พวกนั้นไม่สามารถต่อต้านพวกเราได้เลย ” นี่เป็นเรื่องที่เขาคิดมานานแล้ว
จากที่เขาได้พุดคุยกับท่านตา ทำให้รู้ว่าภายในโลกใบเล็กมีคนอยู่ไม่ถึงแสนคนด้วยซ้ำ หากต้วนมู่เฉียนต้องการจะกำจัดพวกสำนักโบราณจริงๆ
แค่ส่งกำลังทหารเข้าไปพร้อมด้วยอาวุธหนัก หรือระเบิดที่มีอานุภาพร้ายแรง ก็สามารถทำลายโลกใบเล็กได้ทันที
แบบนี้มันเหมือนเก็บระเบิดเวลาเอาไว้ใกล้ตัว…
ตัวอย่างก็เห็นได้จากเหตุการณ์ล่าสุด หากไม่มีพวกห้าขุนเขากระบี่มาร่วมด้วย ตระกูลหลี่ไม่มีทางกล้าทำถึงขนาดนี้
เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวเทียนถามมา ต้วนมู่เฉียนก็รู้สึกชื่นชมชายหนุ่มมากขึ้นอีกสองส่วน อีกฝ่ายเลือกถามได้ดีมาก
นี่เป็นเหมือนการหยั่งเชิงเขาเรื่องตระกูลจ้าวไปในตัว เพราะตระกูลจ้าวมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับพวกสำนักโบราณ
“ ก่อนจะตอบคำถามนี้ของเธอ…ฉันจะเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ฟัง ”
“ เกือบห้าร้อยปีก่อน…ตัวฉันเกิดในช่วงปลายของราชวงศ์หมิง ในเวลานั้นประเทศเราวุ่นวายมาก ทั้งจากสงครามภายในและการรุกรานจากภายนอก ”
“ ในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายราชวงศ์นั้น ประเทศของเราถูกรุกรานจากผู้มีพลังพิเศษของชาติอื่น พวกมันต้องการทรัพยากรฝึกตนของพวกเรา ในเวลานั้นพวกสำนักโบราณยังคงเก็บตัวอยู่ในโลกใบเล็ก ”
“ ตัวฉันในเวลานั้นยังเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำเท่านั้น…และก็ได้เข้าร่วมสงครามนั้นด้วย แม้ว่าจะขับไล่พวกมันออกไปได้ แต่พวกเราก็บาดเจ็บล้มตายกันเกือบหมด ”
“ สำนักของฉัน ตั้งแต่ผู้อาวุโสจนถึงศิษย์คนอื่นๆล้วนพลีชีพในศึกนั้นทั้งสิ้น พวกเขาตายอย่างสมศักดิ์ศรีเพื่อปกป้องประเทศจีนเอาไว้ ”
“ ท่านเจ้าสำนักที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้มอบทรัพยากรทั้งหมดในสำนักให้กับฉัน และก่อนที่ท่านจะสิ้นลมไป มีเพียงคำขอเดียวเท่านั้น ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน