เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 17

ความรู้สึกของมนุษย์นั้นมีทั้งอบอุ่นและเย็นชา

เหมันต์อันหนาวเย็น ยังไม่สู้ความหนาวเหน็บและความโศกเศร้าภายในใจของนางเฉา

เดิมทีนางคิดว่า หากไม่มีเงินมาซื้อยูกยาให้สามี นางจักบากหน้าไปขอให้กู้เจ้าใหญ่และเหล่าไท่ไท่จ่ายให้ก่อน แล้วค่อยเก็บดอกเบี้ยกับนางทีหลังก็ยังได้

คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนี้

ยิ่งไปกว่านั้นหลิวชุนฮัวช่างไม่รู้กาลเทศะ เห็นๆอยู่ว่ากู้เจ้าสามนอนบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้น กระนั้นก็ยังเอาแต่พูดคำว่าตายออกมาไม่ขาดปาก

แม้นนางเฉาจะอ่อนปวกเปียกราวตุ๊กตาดินเผาแต่นางก็โกรธเป็น เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนี้ ดวงตาของนางพลันแดงก่ำ กัดฟันกรอดพร้อมกล่าวว่า​ “หากกล่าวว่าครอบครัวใครครอบครัวมัน เช่นนั้นยามที่พี่เขยมายืมเงินสามีข้า ก็แสดงว่าเราทั้งสองฝ่ายแยกกันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว กระนั้นพวกข้าก็ยังยินดีให้พวกท่านยืมเงินไปค้าขายโดยไม่เอ่ยแย้งให้มากความ บัดนี้พี่สะใภ้กลับกล่าวออกมาเช่นนี้ ไม่ละอายใจบ้างเลยหรือ?”

ตั้งแต่กู้เจ้าใหญ่ตั้งเนื้อตั้งตัวได้จนมั่งคั่ง เขากับหลิวชุนฮัวก็อาศัยอยู่แต่ในเมือง คอยแต่ดูถูกครอบครัวของกู้เจ้าสามมาแต่ไหนแต่ไร

เมื่อเห็นว่านางเฉาผู้ไม่สู้คนกล้าที่จะขึ้นเสียงกับตนเอง หลิวชุนฮัวก็ไม่อาจกักเก็บสีหน้าได้อีกต่อไป

นางกลอกตาล่อกแล่กไปมา จนหางตาเหลือบไปเห็นกู้เหล่าไท่ไท่ จากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างน้อยอกน้อยใจว่า “ท่านแม่ ดูน้องสะใภ้สามพูดเข้าสิ….เช่นนี้คือกำลังโยนความผิดให้ข้าเห็นๆ ข้าไม่อยากจะอยู่แล้ว ข้า…..” สิ้นคำพูดนางก็เช็ดน้ำตา

"เอาล่ะ เจ้าหยุดคร่ำครวญเสียก่อน”เหล่าไท่ไท่พูดอย่างรำคาญ "รีบไปพาตัวเสี่ยวซานมาแล้วไปได้แล้ว อย่าเสียเวลาให้มาก”

กู้ต้าไห่พยักหน้าเห็นด้วย นี่ต่างหากคือจุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่ของพวกเขา

"เอ้อยา ส่งตัวเสี่ยวซานมาให้ข้า”

กู้ต้าไห่ก้าวเข้าไปหา พร้อมยื่นมือออกมา

บรรพบุรุษของตระกูลกู้มีพันธุกรรมอันดีเยี่ยม ส่งผลให้ลูกหลานแต่ละคนมีรูปร่างสูงใหญ่และน่าเกรงขาม

กู้ต้าไห่ก้าวมายืนอยู่ตรงหน้กู้หมิงซวงด้วยความสูงกว่านางเกือบสองเท่า

หากเป็นเด็กธรรมดาทั่วไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้คงตกใจร้องไห้ไปแล้ว

แต่กู้หมิงซวงกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง

“ท่านลุง ในเมื่อท่านเป็นประมุขของตระกูล เช่นนั้นแล้วข้าขอพูดอะไรกับท่านหน่อยเถอะ ข้าขอประกาศิตไว้ ณ ที่นี้ ว่าเสี่ยวซานคือน้องชายของข้า แม้นครอบครัวของข้าจะยากไร้จนมีคนอดตาย ก็จะไม่ขายน้องชายกินเด็ดขาด! พวกท่านล้มเลิกความคิดนี้เสียเถอะ”

กู้ต้าไห่มีสีหน้าแข็งค้าง จากนั้นก็ชายตามองนางเฉา

“ไม่ต้องหันไปมองแม่ข้า เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”

“เอ้อยา เจ้าคิดให้ดีๆนะ พ่อของเจ้ายังนอนบาดเจ็บอยู่บนเตียง เจ้าไม่อยากให้เขาได้รับการรักษาหรือกระไร?”

พูดเช่นนี้อีกแล้ว!

ราวกับกำลังจะบอกว่าหากพวกนางไม่ยอมขายเสี่ยวซาน ก็รอดูกู้หย่วนเต้าสิ้นลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาได้เลย

ซึ่งกู้หมิงซวงหาได้กลัวไม่ นางแสยะยิ้มแล้วกล่าวว่า"ท่านลุงไม่ต้องมาขู่ข้าหรอก ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ ตอนนี้ครอบครัวของข้ากำลังลำบาก หากท่านลุงใคร่ช่วยเหลือ พวกข้าก็จะจดจำบุญคุณของท่าน แต่หากท่านคร้านจะช่วย พวกข้าก็จะไม่ขอร้อง เพียงแต่ว่าหลังจากนี้ ครอบครัวท่านกับครอบครัวข้าแยกทางใครทางมัน อยู่ใครอยู่มัน ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรจักไม่มีอีกต่อไป”

สิ้นคำกล่าวของนาง ทุกคนพลันนิ่งอึ้ง

สมัยโบราณให้ความสำคัญกับการแสดงความกตัญญูต่อญาติมิตร หากว่าไม่ถึงที่สุดจริงๆจะไม่แบ่งแยก และตัดญาติขาดมิตรเช่นนี้

ซึ่งอันที่จริงกู้ต้าไห่ก็ไม่ได้อยากนับญาติกับครอบครัวนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่ายังตัดกู้เสี่ยวซานไม่ขาดเท่านั้น พอได้ยินคนรุ่นหลังอย่างกู้หมิงซวงกล่าวออกมาเช่นนี้ เขาก็แทบจะปั้นหน้าไม่ไหว ทั้งยังสะเทือนใจ

หลิวชุนฮัวรีบดึงกู้ต้าไห่ให้มาอยู่ข้างๆ แล้วกระซิบข้างหูของเขา "เมื่อครู่ข้าแอบไปดูอาการของกู้เจ้าสามมา เจ้านั้นมีแต่ผ้าพันแผลทั้งตัว เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าต้องใช้เงินรักษามากเพียงใด ข้าว่าเราถือโอกาสนี้ตัดญาติกับครอบครัวนี้เสียเถอะ ในภายภาคหน้าจะได้ไม่ต้องมายืมเงินเรา”

กู้ต้าไห่กล่าวอย่างลังเล "แต่เสี่ยวซาน..."

“จะกลัวอะไร? เหมันต์ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเขาไม่มีพืชผลให้เก็บเกี่ยว รอจนพวกเขาหิวจนเนื้อติดกระดูก ถึงครานั้นเดี๋ยวพวกเขาก็พาเสี่ยวซานมาขายให้เราถึงที่”

เมื่อถูกชักจูง กู้ต้าไห่ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน