สรุปตอน บทที่ 18 ซูเหิงจิ่งความจำเสื่อม – จากเรื่อง เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่
ตอน บทที่ 18 ซูเหิงจิ่งความจำเสื่อม ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดยนักเขียน ชิงฉีหมิงเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"ซูเหิงจิ่ง"
ผู้ชายตอบอย่างกระชับ
ซูเหิงจิ่ง?
กู้หมิงซวงครุ่นคิดในใจ ไม่เคยได้ยินผู้ใดใช้นามสกุลนี้ในหมู่บ้านต้าเฉียวเลย ดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นคนนอกจริงๆ
"ในเมื่อเจ้าฟื้นแล้ว ก็น่าจะกลับบ้านตัวเองถูกใช่ไหม”กู้หมิงซวงรู้ว่าตัวตนของบุรุษผู้ นี้ไม่ธรรมดา นางจึงไม่อยากให้เขาสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของนาง
ยิ่งไปกว่านั้น การมีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ เช่นนั้นอาจตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเอาได้
“ข้าลืมไปแล้วว่าบ้านของข้าอยู่ที่ไหน” ซูเหิงจิ่งพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ข้าความจำเสื่อม”
"พรืด!"
กู้หมิงซวง แทบจะกระอักเลือดออกมา
ชายผู้นี้ไม่ว่าจะมองซ้ายมองขวา หรือมองขึ้นมองลง ก็ไม่ต่างอะไรกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ไม่เหมือนคนสูญเสียความทรงจำเลยสักนิด
อีกอย่าง คนความจำเสื่อมที่ไหนจะรู้ว่าตัวเองชื่อว่าอะไร
เมื่อเห็นชายหนุ่มเข้ามาอยู่ในบ้านของตนด้วยท่าทีเกียจคร้าน กู้หมิงซวงก็หมดคำจะพูด
"ช่างมัน งั้นแล้วแต่เจ้าแล้วกัน แต่ข้าขอแจ้งข่าวร้ายเจ้าก่อนแล้วกัน สภาพครอบครัวข้าเป็นอย่างไรเจ้าก็น่าจะเห็นแล้ว หากเจ้าอยากอยู่ที่นี่ ก็คงต้องกัดก้อนเกลือกินกับพวกข้าแล้วล่ะ”
"อืม"
ชายผู้นั้นพยักหน้า
อย่าพูว่าแต่ก้อนเกลือเลย แม้แต่เปลือกไม้ที่แช่ในหิมะเขายังกินมาแล้วเลย ให้กินอะไรเขาก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ซูเหิงจิ่งหยิบตะกร้าที่วางอยู่ข้างๆ ลุกเดินตามกู้หมิงซวงเข้าไปในเรือน
นางเฉายังคงกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นซูเหิ่งจิง แต่ต้องขอบคุณเขาไปเรียกซวงเอ๋อร์กลับมา มิฉะนั้นเสี่ยวซานคงถูกกู้เจ้าใหญ่แย่งตัวไปแล้ว
“เมื่อเช้าเด็กคนนี้ยังเจ็บหนักอยู่เลย ไม่คิดเลยว่าจะหายเร็วถึงเพียงนี้ ” นางเฉาพยายามยิ้มออกมา และถามว่า “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรล่ะ เจ้ามาจากไหน? "
"ท่านแม่ เขาชื่อซูเหิงจิ่ง สมองกระทบกระเทือนสูญเสียความทรงจำไปแล้ว”
กู้หมิงซวงเอ่ยอธิบายอยู่ข้างๆ
“ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารจริงๆ” นางเฉามองไปที่ซูเหิงจิ่งด้วยความสงสาร
มุมปากของซูเหิงจิ่งกระตุก กระนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
กู้หมิงซวงดึงนางเฉาเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบเสียงเบาว่า "ท่านแม่ เขาความจำเสื่อมไม่มีที่ไป เช่นนั้นเรารับเลี้ยงเขาไว้ดีหรือไม่ ท่านแม่ก็เห็นว่าเขาสูงใหญ่กำยำ เอามาเป็นแรงงานให้ครอบครัวเราก็ยังได้”
กู้หมิงซวงไม่ใช่คนโง่ ครอบครัวนางลำบากถึงเพียงนี้จะรับเลี้ยงใครทั้งทีก็ต้องใช้งานไม่ให้เสียเปล่า
ตรงกันข้าม นางค่อนข้างฉลาดแกมโกง ดูจากการปราบงูยักษ์ของซูเหิงจิ่งในวันนี้ นางก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายพอมีทักษะต่อสู้ติดตัว
ในภายภาคหน้าพาอีกฝ่ายไปล่าสัตว์บนป่าเขา หรือจะให้อยู่เฝ้าบ้านก็ยังได้
กู้หมิงซวงหันกลับไปมองที่ซูเหิงจิ่ง ดวงตาเป็นประกายที่หรี่เล็กลงของนาง ทำให้ซูเหิงจิ่งงุนงง
"ซวงเอ๋อร์เจ้าฉลาดยิ่งนัก เจ้าว่าอย่างไรแม่ก็ว่าอย่างนั้น”
หลังจากผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มา นางเฉาก็เห็นว่ากู้หมิงซวงสามารถเป็นกระดูกสันหลังให้ครอบครัวได้ ไม่ว่านางจะตัดสินใจอย่างไร นางเฉาก็จะไม่คัดค้าน
กู้หมิงซวงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“จริงสิ ท่านแม่ รู้หรือไม่ว่าไก่ฟ้าในเมืองราคาตัวละเท่าไหร่?” กู่หมิงซวงพูด พร้อมหยิบไก่ฟ้าออกจากตะกร้าไม้ไผ่ แล้วนำไปให้นางเฉา
นางเฉาตกตะลึงไปชั่วขณะ
"ซวงเอ๋อร์เจ้าโชคดีมาก ไม่มีผู้ใดล่าไก่ฟ้าได้บนเขาชิงจู๋มานานแล้ว"
"เจ้าวางมันลงก่อนเถอะ" เมื่อเห็นว่ากู้หมิงซวงกำลังจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับงูในมือ นางเฉาและกู้เสี่ยวซานก็พากันก้าวถอยหลัง
"ก็ได้" กู้หมิงซวงกลอกตาไปมา คิดว่าจะวางตะกร้าไม้ไผ่ไว้ในห้องของตน กันขโมยเข้าบ้าน หากโจรคลำเจอเจ้านี่จะได้หนีเตลิด
เมื่อกู้เหวินจูนกลับมาในตอนกลางคืน เขาก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วมอบให้นางเฉา
ระหว่างที่นางเฉานั่งนับเงินอยู่ใต้ตะเกียงน้ำมัน ก็เล่าให้กู้เหวินจูนฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างในตอนบ่าย หลังจากที่กู้เหวินจูนได้ยิน ก็กรุ่นโกรธจนเส้นเลือดผุดตามขมับ
เขาเห็นด้วยกับวิธีการของน้องสาว ญาติเช่นนี้ควรตัดให้ขาดเสีย
"เงินที่ได้จากการขายไข่ไก่วันนี้ทั้งหมดแปดสิบเหวิน ซื้อยาไปหกสิบเหวิน เหลืออยู่ยี่สิบเหวิน” หลังจากนับแล้ว นางเฉาก็นำเงินใส่กล่องไม้เล็กๆ ข้างเตียง แล้วลงกลอนด้วยกุญแจเล็กๆ จากนั้นก็หันหลังเดินกลับออกมา
หลังจากอาหารพร้อม ทุกคนก็มาทานข้าวพร้อมหน้ากัน
ในชามยังคงมีแต่หมั่นโถวและผักป่า ซึ่งนางเฉาเก็บมาเมื่อตอนบ่าย ผักชนิดนี้มีชื่อว่าผักใบขม เนื่องจากรสชาติขมๆของมัน
เมื่อเห็นอาหารเหล่านี้ กู้หมิงซวงก็ไม่ได้มีความอยากอาหารมากนักในตอนแรก แต่ร่างกายของนางกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะท้องเอาแต่ร้องด้วยความหิวโหย
ก่อนที่นางจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ กู้หมิงซวงก็หยิบหมั่วโถวขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในปาก
ซูเหิงจิ่งนั่งอยู่ข้างๆ แม้ว่าเขาจะกินอย่างรวดเร็ว แต่ท่วงท่ากลับเป็นไปอย่างสง่า เมื่อหางตาเหลือบเห็นท่าทางการกินของกู้หมิงซวง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในดวงตาสีเข้มของเขา
กู้เหวินจูฯได้ยินว่าวันพรุ่งนี้นางจะนำของไปขายในตลาด ก็อยากไปกับนาง
แต่กู้หมิงซวงกลับโบกมืออย่างรวดเร็ว และพูดว่า: "ไม่จำเป็น ให้พี่จิ่งไปกับฉันคนเดียวก็พอ ข้าได้ยินมาว่าอีกไม่กี่เดือนท่านพี่ก็ต้องสอบแล้ว ข้าว่าท่านพี่เอาเวลาไปท่องตำราเถอะ "
การสอบจะมีขึ้นปลายเดือนนี้ และตอนนี้ก็ใกล้เวลาเข้ามาแล้วด้วย
เมื่อน้องสาวกล่าวเช่นนี้ กู้เหวินจูนก็ก้มหน้าลงอย่างหดหู่ใจ
“ซวงเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้หรอก ในช่วงปีแรก ๆ ท่านพ่อเคยเป็นข้ารับใช้ในที่ว่าการมณฑล แล้วเผลอไปขัดใจเจ้าถิ่นเข้าให้ จนเจ้าถิ่นไม่พอใจปลดท่านพ่อออกจากตำแหน่ง หากข้าไปสอบ อย่าว่าแต่โดนกลั่นแกล้งเลย กลัวก็แต่ว่าไปถึงมณฑลไม่ทันไร จะถูกทำร้ายเอาน่ะสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...