เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 20

สรุปบท บทที่20 ยามบุรุษออกโรง ช่างหล่อเหลาเสียยิ่งกระไร: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน

บทที่20 ยามบุรุษออกโรง ช่างหล่อเหลาเสียยิ่งกระไร – ตอนที่ต้องอ่านของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน

ตอนนี้ของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่20 ยามบุรุษออกโรง ช่างหล่อเหลาเสียยิ่งกระไร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

กู้หมิงซวงยืนตะโกนขายอยู่หน้าแผง

ชาติก่อนนางเป็นหมอถอนพิษ การที่ต้องมาร้องตะโกนขายของอย่างนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้

โบราณกล่าวไว้ว่า ไม่ลองทำดูจะรู้ได้อย่างไร?

เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่าคนอื่นเขาขายกันอย่างไร นางก็เลียนแบบ จากนั้นก็เริ่มโฆษณาไก่ฟ้าของตัวเอง

"เร่เข้ามาจ้า เร่เข้ามา ไก่ฟ้าตัวอ้วนราคาเพียงห้าสิบเหวิน ซื้อไปรับรองไม่เสียดายเงินแน่นอน….”

ว่าไม่ได้ การตะโกนขายของกู้หมิงซวงค่อนข้างได้ผล ผ่านไปไม่ทันไร ก็มีคนเข้ามาถามไถ่ว่าไก่ฟ้าขายอย่างไร

"ท่านป้า ไก่ฟ้าตัวนี้หนักสามชั่ง หากท่านต้องการซื้อเป็นชั่ง ล่ะก็ คิดเป็นชั่งละห้าสิบเหวินจ้ะ”

"สามชั่งก็ไม่ได้เยอะ หากข้าเหมาหมดทั้งตัวพอจะลดได้หรือไม่”

"ให้ท่านทั้งตัวในราคาร้อยห้าสิบ เป็นอย่างไร?”

"ก็ได้ เจ้าห่อให้ข้าเลย"

"ตกลง"

ก่อนออกจากบ้านนางเฉาล้างทำความสะอาดไก่ฟ้าจนสะอาด จึงนำมาชั่งได้เลย

กู้หมิงซวงปลื้มปริ่มใจเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดเลยว่าจะขายออกได้เร็วถึงเพียงนี้ ขณะที่กำลังจะไปหยิบถุงมาใส่ไก่ฟ้าให้ท่านป้าผู้ใจดี ก็มีไม้ด้ามหนึ่งถูกยื่นออกมาขวางหน้า แล้วฟาดลงบนแผงของกู้หมิงซวงอย่างแรง

เพียงแค่มีเสียงดังขึ้น ผู้คนในตลาดก็ส่งเสียงร้องอย่างตกใจ สตรีที่เพิ่งซื้อไก่ก็รีบหลบไปอยู่ด้านข้าง

"กล้ามาขายของในถิ่นของข้า โดยไม่คิดจะบอกล่วงหน้าเลยหรือ?”

ชายคนหนึ่งมีท่าทางอวดเบ่ง ถูกรายล้อมรอบไปด้วยลูกน้อง เดินมาหยุดตรงหน้ากู้หมิงซวง

กู้หมิงซวงขมวดคิ้ว แล้วมองสำรวจกลุ่มคนตรงหน้าขึ้นๆลงๆ

ใบหน้าซูบตอบและใต้ตาดำคล้ำ แสดงถึงรัศมีชั่วร้าย มองคราแรกก็รู้แล้วว่าเป็นกลุ่มอันธพาล

"พวกเจ้าเป็นใคร?"

"ไม่มีตาหรืออย่างไร นี่หลิวอู่เยี่ยกระไรล่ะ ตลาดแห่งนี้คือถิ่นของอู่เยี่ยทั้งนั้น การที่เจ้าบังอาจเข้ามาค้าขายในตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอู้เยี่ยเช่นนี้ เชื่อหรือไม่ว่าพวกข้าเล่นงานเจ้าให้ตายได้”

ลูกกระจ๊อกที่อยู่ข้างๆเอ่ยพูดอย่างโหดเหี้ยม

"คือพวกเจ้าจะไล่ข้าออกไปงั้นหรือ?"

"แล้วจะทำไม? อีอ้วนเช่นเจ้าไยไม่อยู่บ้านดีๆ ออกมาขายไก่ฟ้าห่าเหวอะไรก็ไม่รู้”

หลิวอู่เยี่ยมองไปที่กู้หมิงซวงอย่างดูถูกเหยียดหยาม

ถ้าเป็นสตรีตัวเล็กหน้าตาสวย เขาก็ยังจะใจดีให้อยู่หรอก แต่น่าเสียดายที่คนตรงหน้าทั้งอ้วนและขี้เหร่

กู้หมิงซวงคิดว่าวันนี้จะค้าขายราบรื่น ไม่คิดเลยว่าจะมาซวยเช่นนี้

หลังจากสิ้นคำพูดของหลิวอู่เยี่ย นางก็แสยะยิ้ม แล้วเหลือบมองกลุ่มคนตรงหน้า

รูปร่างแต่ละคนไม่ได้สูงใหญ่ และดูเหมือนไม่เคยผ่านการฝึกต่อสู้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นชายฉกรรจ์ แถมยังมีกันตั้งห้าหกคน ร่างกายของนางก็ไม่เอื้ออำนวย แค่สองหมัดก็คงสู้ไม่ได้ สู้ไปก็คงมีแต่เจ็บตัว

แต่จะให้นางยอมถูกไล่ออกไปทั้งอย่างนี้น่ะหรือ? ฝันไปเถอะ!

"แล้วถ้าข้าไม่ไปล่ะ?"

กู้หมิงซวงยืนอยู่กับที่ มองมาที่พวกเขาอย่างเยือกเย็น

"นี่ เจ้ามันอีอ้วนไม่รู้จักชั่วดี!"

หลิวอู่เยี่ยตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังว่ากู้หมิงซวงจะกล้าขึ้นเสียงใส่เขา อีอ้วนนี่ไม่ต่างอะไรกับหมูตอน หน้าตาก็ขี้ริ้วขี้เหร่ หรือว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว?

เมื่อนึกได้เช่นนี้ หลิวอู่เยี่ยก็หยิบไม้ขึ้นมาฟาดไปที่ศีรษะของกู้หมิงซวง

เมื่อเห็นว่าไม้กำลังจะตกลงบนหน้าผากของตนเอง นางก็เตรียมโต่กลับ แต่กลับมีมือใหญ่จากข้างหลัง ยื่นออกมาจับไม้ไว้ได้อย่างแม่นยำ

ไม้หยุดค้างอยู่เหนือหัวของกู้หมิงซวง ต่อให้หลิวอู่เยี่ยจะออกแรงดึงมากเท่าใด ก็ไม่ขยับเพียงนิด

การจ้องมองของนางนั้นค่อนข้างอาฆาต จนซูเหิงจิ่งสัมผัสได้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมหันมองมาทางนี้

วินาทีที่สายตาประสานกัน ดวงตาของหลิวชุนฮัวก็อ่อนลง จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปอย่างไม่สนสิ่งใด

"มีอะไรหรือ?" เมื่อเห็นซูเหิงจิ่งมองไปที่ทางนั้น กู้หมิงซวงก็ถามอย่างสงสัย

“เปล่า" ซูเหิงจิ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า "ขายต่อเถอะ"

กู้หมิงซวงจึงไม่สนใจ และหันกลับมาตั้งใจค้าขายต่อ แต่ใครไหนเล่าจะรู้ว่าท่านป้าคนก่อนหน้าไม่ยอมซื้อไก่ฟ้าของนางเสียแล้ว

"แม่นาง อย่าหาว่าข้ากลับกลอกเลยนะ แต่ข้าไม่กล้าซื้อจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่หลิวอู่เยี่ยคือใคร? เขาเป็นถึงลูกหลานตระกูลเกา เจ้าทำร้ายหลิวอู่เยี่ยเช่นนี้ คงต้องเดือดร้อนเป็นแน่ ข้าไม่ขอซื้อไก่ฟ้าตัวนี้แล้วนะ แล้วข้าก็ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าต่อไปนี้เจ้าก็ไม่ควรมาขายของที่นี่ ไม่เช่นนั้นเจ้าได้เจอดีแน่”

หลังจากพูด สตรีกลางคนก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

กู้หมิงซวงมองตามหลังท่านป้าผู้นั้น แล้วขมวดคิ้ว "ตระกูลเกาคือผู้ใดกัน"

"ไม่รู้" ซูเหิงจิ่งส่ายหัว

เมื่อเห็นทุกคนเดินผ่านแผงลอยของตนเองไป กู้หมิงซวงก็กล่าวว่า” ช่างเถอะ คงขายไก่ฟ้าในตลาดนี้ไม่ได้แล้ว”

"เจ้าจะเอามันกลับบ้านหรือ"

"แน่นอนว่าไม่" กู้หมิงซวงส่ายหัวแล้วพูดว่า "ข้าเพิ่งคิดได้ว่ายังมีที่ให้ขายอยู่ที่หนึ่ง"

“เช่นนั้นเราก็ไปกันเถอะ” ซูเหิงจิ่งไม่ถามอะไรให้มากความ แบกตะกร้าขึ้นหลังเตรียมออกเดินทาง

“เจ้าไม่ถามหน่อยหรือว่าข้าจะพาไปที่ไหน"

"ไม่ล่ะ ข้าเชื่อเจ้า"

หลังจากฟังคำพูดของซูเหิ่งจิ่ง ความไม่พอใจของกู้หมิงซวงก็ถูกกวาดออกไปจนหมดสิ้น จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

แม้นนางจะอ้วน แต่พอยิ้มทีไร ดวงตาทั้งสองข้างกลับเป็นประกายเปล่งปลั่ง สดใสจนสามารถดึงดูดให้มองได้

หลังจากที่กู้หมิงซวงและซูเหิงจิ่งเดินจากไป ก็มีสตรีสองนางเดินออกมาจากร้านขายผ้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน