เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 21

“หนุ่มน้อยผู้นั้นเมื่อตะกี้ฝีมือยอดเยี่ยมเสียจริง ลงมือไปสองสามทีก็เล่นเอาพวกนักเลงเหล่านั้นวิ่งหนีไปเสียแล้ว”

สาวใช้ชุดเขียวที่อยู่ด้านข้างอมยิ้มพลางเอ่ยตอบ“คุณหนูชื่นชมหนุ่มน้อยผู้นั้น มิสู้ให้เหล่าไท่ไท่เชิญมาแต่งเป็นสามีหรือเจ้าคะ”

เซียหลิงหยูนได้ยินคำเหล่านั้น พลันเปลี่ยนสีหน้าทันใด แววตาเผยความเย็นชา “พูดจาเรื่อยเปื่อย! หากข้าเห็นเจ้ากล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ต่อหน้าเหล่าไท่ไท่ ข้าจะจับเจ้าฉีกออกเป็นชิ้นๆเข้าให้”

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว” สาวใช้เองก็รู้ว่าตนเอ่ยผิดไป จึงพลันก้มหน้าหุบปากไป

“เอาล่ะ เอาล่ะ ต่อไปอย่าได้เอ่ยถ้อยคำเยี่ยงนี้อีก อย่างไรเสีย ข้าก็ได้ถือกำเนิดในตระกูลผู้รากมากดี ภายภาคหน้าคงมิมีทางจะแต่งกับชายบ้านนอกเยี่ยงนี้”

แม้นว่าจะชื่นชมในฝีมือของซูเหิงจิ่ง แต่นางกลับดูถูกเหยียดหยามชาติกำเนิดของซูเหิงจิ่ง เพียงพริบตาเดียวก็ได้ลืมเลือนซูเหิงจิ่งลงเสียแล้ว

……

อีกทางด้านหนึ่ง กู้หมิงซวงพาตัวซูเหิงจิ่งออกมาจากตลาด มุ่งหน้าไปทางที่เงียบสงบ

เขตเฉิงซีนั้นเป็นตลาด ส่วนเขตเฉิงตงนั้นเป็นบ้านเรือนอาศัยของเหล่าเศรษฐีคนมีตังค์

ตลอดทางมานี้ กู้หมิงซวงได้ถามไถ่ผู้คนเพื่อสืบหาครอบครัวเศรษฐีเมืองชิงสือ

นี่เป็นความคิดอันกะทันหันของนาง ก็ไม่รู้ว่าจักสำเร็จหรือไม่

ได้ยินมาว่าในละแวกนี้ตระกูลเซียร่ำรวยที่สุด นางจึงได้วนไปที่ประตูครัวหลังเรือน แล้วถามพ่อบ้านใคร่รับไก่ฟ้ากับงูกะปะไว้หรือไม่

ไก่ฟ้าก็ว่าไปอย่าง แต่งูกะปะตัวใหญ่ขนาดนี้คงตีเอามาไม่ง่ายเลย พวกคนรวยจักกินสิ่งใดก็มักจะหาแต่ของสดๆใหม่ๆกัน หากว่าได้มาผสมเติมเต็มกันนั้น ก็คงยิ่งหายากนักแล

“นี่มันไก่ฟ้าจริงๆหรือ?”

“ไก่ฟ้าตามป่าทั่วไปเลยน่ะสิ ท่านลองดูสิเนื้อแน่นยิ่งนักต่างจากไก่บ้านในกรงเลี้ยงทั่วไปเลยหนา หากในเรือนมีเหล่าไท่ไท่หรือว่าหญิงตั้งครรภ์นั้นล่ะก็ เอาไปตุ๋นน้ำแกง บำรุงร่างกายได้ดีกว่าสิ่งอื่นใดยิ่งนัก อีกทั้ง งูกะปะนี่อีก ยกสุรามาเคียงต้อนรับแขกผู้ใหญ่เลิศล้ำเหนือคณานักแล”

“งูกะปะนี่ตัวออกจะใหญ่ดีหนา” พ่อบ้านนึกสนใจเข้าให้แล้ว พยักหน้าเอ่ย “ราคามากน้อยเพียงใด?”

“หนึ่งตำลึง” กู้หมิงซวงยกนิ้วมือขึ้นหนึ่งนิ้ว

อันที่จริงนั้น สองสิ่งนี้หากขายตามท้องตลาด อย่างมากสุดคงได้แค่ห้าร้อยอีแปะ กู้หมิงซวงมองว่าเรือนนี้มิได้ขาดแคลนเงินทอง จึงได้กล้าขายแพงทวีคูณ

พ่อบ้านพยักหน้าหงึกๆ พลางควักเอาเงินตำลึงสองก้อนออกมาจากแขนเสื้อ โยนใส่ในฝ่ามือกู้หมิงซวง

“ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งตำลึงให้เจ้าเป็นรางวัล ต่อไปหากมีของหายากอันใดอีก ก็จงส่งมาให้พวกข้านี่ จำไว้นะว่าต้องสดใหม่เท่านั้น ไม่สดใหม่ข้าไม่เอา เพียงแค่ส่งมา เจ้าจักได้เงินมิใช่น้อยเลยหนา”

“ได้เลยเจ้าคะ” กู้หมิงซวงเผยยิ้มสดใส

เงินสองตำลึง มิได้นับว่าหนักหนาสำหรับเรือนใหญ่เรือนโต แต่สำหรับเหล่าชาวบ้านชนบท นั่นเป็นค่ากินอยู่สองเดือนทีเดียว ทำมาหากินในท้องทุ่ง เหนื่อยแทบเป็นแทบตาย ก็อาจมิแน่ว่าจะหาได้เยอะถึงเพียงนี้

เดิมทีนางเตรียมใจมาแล้วว่าจะล้มเหลว นึกไม่ถึงเลย มันกลับกลายเป็นว่าจะราบรื่นถึงเพียงนี้

ตั้งแต่ออกจากซอยมา กู้หมิงซวงก็เอาแต่จับจ้องมองดูเงินสองก้อนในมือ ดวงฤดีภายในพอใจยิ่ง

นี่เป็นครั้งแรกกับการหาเงินในยุคโบราณของนาง ช่างมีความหมายไม่ธรรมดา!

เมื่อเหลือบมองไปที่มุมหางคิ้วของกู้หมิงซวงที่ล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซูเหิงจิ่งก็ถูกกู้หมิงซวงดึงดูดเข้าให้แล้ว เขาขยับมุมปากเบาๆ แต่ทว่าบนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยหนวดเครา จึงมิอาจมองออกว่ายิ้มอยู่หรือไม่

“ไปที่ใดกันต่อดีหรือ?”

“กลับตลาดสิ”

เมื่อคืนวานนางเฉาบอกในเรือนมิขาดแคลนสิ่งใด แต่กู้หมิงซวงกลับหาได้เชื่อไม่

กระทะหม้อชามในครัวล้วนแตกพังหมดแล้ว ข้าวสารก็กำลังใกล้จะหมด

เสื้อผ้าของคนในบ้านล้วนแต่ขาดรุ่งริ่งกันหมด ข้างนั้นก็รอยปะ ข้างนี้ก็รูขาด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่ตัดชุดใหม่มานานแค่ไหนแล้ว

กู้หมิงซวงเชื่อในหลักการหนึ่งที่ว่า เงินนั้นหาได้ใช่ประหยัดออกมา ในเมื่อหาเงินมาได้แล้ว ควรจับจ่ายก็คงต้องจับจ่ายบ้าง

พูดว่าใคร่ไปก็ไปในทันที กู้หมิงซวงพลันมุ่งไปข้างหน้าทันควัน

ไปซื้อข้าวสารถุงนึงมาเป็นอันดับแรก จ่ายไปห้าสิบอีแปะ แล้วจึงเลือกซื้อหม้อกระทะจานชามใบใหม่

น้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู อีกทั้งโป๊ยกั๊ก และสุดท้าย ก็ไปที่ร้านขายเสื้อผ้าหาเนื้อผ้า

ทันทีที่เข้ามา เถ้าแก่หญิงก็ดูจะต้อนรับขับสู้ เมื่อเหลือบมองดูกู้หมิงซวงกับซูเหิงจิ่งที่แต่งตัวมอซอ สีหน้าที่ดูกระตือรือร้นก็พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ท่านทั้งสองใคร่ซื้อสิ่งใดก็เลือกดูเอาเองแล้วกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน