ตอน บทที่ 26 กู้เหวินจูนโกงข้อสอบ จาก เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 26 กู้เหวินจูนโกงข้อสอบ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน ที่เขียนโดย ชิงฉีหมิงเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ที่จริง ก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่ลุงเสียงพูดมาหรอก”
กู้หมิงซวงเชิญลุงเสียงดื่มชาไปถ้วยหนึ่ง พอส่งคนจากไปแล้วถึงหันไปพูดกับนางเฉาขึ้นว่า “ต้องขอบคุณพี่จิ่งซะมากกว่า ท่านแม่ท่านไม่ได้เห็น พี่จิ่งเตะออกไปทีเดียวก็สามารถเตะคนลอยออกไปได้ตั้งสองคนเลยนะ!”
พอนางเฉาฟังจบ ก็มองไปที่ซูเหิงจิ่งอย่างแปลกใจทีหนึ่ง
ก่อนหน้านี้นางยังมีความคิดเห็นต่อซูเหิงจิ่งอยู่เล็กน้อย มาตอนนี้กลับไม่มีความคิดเห็นอะไรอีกแล้ว กลับรู้สึกชื่นชมยินดีเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะซูเหิงจิ่ง คาดว่าวันนี้ลูกสาวของตัวเองคงจะไม่ได้กลับมาแล้ว
นางไม่รู้เรื่องที่กู้หมิงซวงเอาเข็มเงินฆ่าคนไปทั่วทุกทิศในวันนี้ ถึงจะไม่มีซูเหิงจิ่งอยู่ด้วย นางก็สามารถจัดการโจรพวกนั้นด้วยตัวคนเดียวได้เหมือนกัน
“แล้วเงินพวกนั้นล่ะ เอากลับมาได้หรือเปล่า?”
“เอากลับมาได้หมดแล้ว เอาคืนให้ทุกคนบนเกวียนแล้ว”
“ทำถูกแล้ว!”
นางเฉาพยักหน้าขึ้นอย่างชื่นชม
เมื่อก่อนซวงเอ๋อร์เป็นคนโง่ มักจะถูกคนทั้งหมูบ้านรังแก แต่มาคราวนี้กลับทำความดีครั้งใหญ่ไป นางจะคอยดูซิว่า ต่อไปจะมีใครกล้ามารังแกลูกสาวของนางว่าเป็นอีอ้วนโง่อีก!
ด้านข้าง พอกู้เสี่ยวซานได้ยินคำพูดของพี่สาวตัวเอง ดวงตาเป็นประกายทั้งคู่ก็มองไปที่ซูเหิงจิ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความนับถือ
พอบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้คนในบ้านรู้แล้ว กู้หมิงซวงก็นึกถึงของที่ตัวเองนำกลับมา แล้วก็รีบเอาซาลาเปาไส้หมูออกมา
พอเปิดถุงกระดาษออก กลิ่นหอมของเนื้อก็โชยออกมา
พอกู้เสี่ยวซานได้กลิ่น ก็จ้องมองมาที่กู้หมิงซวงอย่างตาไม่กะพริบ ปาดน้ำลายไปทีหนึ่งแล้วถามขึ้นมาว่า “ท่านพี่ นั่นคืออะไรหรือ หอมจังเลย!”
“คือซาลาเปาไส้หมู อยากกินไป?”
“อยากกินขอรับ!”
กู้หมิงซวงบีบหน้าที่อ้วนกลมของกู้เสี่ยวซานเล็กน้อย แล้วยื่นซาลาเปาไส้หมูให้เขาอันหนึ่ง
กู้เสี่ยวซานรีบกัดลงไปคำใหญ่ บนใบหน้ามีท่าทีพึงพอใจปรากฏขึ้นมาทันที เขาเติบโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กินซาลาเปาไส้หมูเลย จึงกัดจนแทบจะกัดถูกนิ้วมือแล้ว
“กินช้า ๆ หน่อย เดี๋ยวติดคอไป ยังมีอีกอันนะ”
พอเห็นกู้เสี่ยวซานกินอย่างตะกละตะกลาม กู้หมิงซวงก็รู้สึกสงสารขึ้นมา
ตอนอยู่ในยุคปัจจุบัน แค่ซาลาเปาไส้หมูอันเดียวไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ในยุคโบราณนั้น กลับเป็นของกินเลิศรสของคนบ้านนอกอย่างพวกเขาเลย
“ท่านแม่ ท่านก็กินสักอันซิ” กู้หมิงซวงเอาที่เหลือยื่นให้กับนางเฉา
นางเฉาไม่ค่อยกล้ารับซะเท่าไหร่ พูดอย่างลังเลขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ เมื่อกี้แม่ก็อยากถามเจ้าแล้ว ข้าวของมากมายขนาดนี้ แถมยังมีซาลาเปาพวกนี้อีก เจ้าไปเอามาจากไหนกัน?”
ทำไมลูกสาวออกจากบ้านเที่ยวหนึ่ง ก็เอาของกลับมามากมายขนาดนี้ ช่างทำให้คนตกตะลึงจริง ๆ
“ท่านลืมไปแล้วหรือเจ้าคะ ว่าเมื่อเช้าข้าไปตลาดทำไม?”
“ไปขายไก่ป่าและงูอวู่ปู้ไง แต่ของสองอย่างนั่นจะขายได้เงินมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ก็ขายแน่นอนซิ ข้าไม่ได้เอาไปขายที่ตลาด แต่ไปหาบ้านคนรวยที่รับซื้อ พวกเขามีเงิน ให้เงินข้ามาตั้งสองตำลึงเลยนะ”
“สองตำลึง?! โอ้แม่เจ้าเอ๊ย!”
นางเฉาตกตะลึงไปเลย ของเต็มตะกร้าไม้ไผ่นั่น ซื้อมาตั้งสองตำลึงเลยหรือ?
กู้หมิงซวงเอาห้าร้อยอีแปะที่เหลือรวมกับสองร้อยอีแปะของหม่าซานเหนียงออกมา แล้วมอบให้กับนางเฉา แล้วพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ เงินพวกนี้เอาไปซื้อยาให้ท่านพ่อนะเจ้าคะ ถ้วยชามรามไหในครัวต่างก็แตกหมดแล้ว ควรเปลี่ยนเป็นของใหม่ตั้งนานแล้ว แล้วผ้าพวกนี้ก็ซื้อมาให้พวกท่านได้ตัดเสื้อผ้าที่มันดูดีหน่อย ท่านแม่อย่าเสียดายเงินไปเลย ต่อไปข้าจะหาให้ได้มากกว่านี้อีก”
จ้องมองถุงเงินหนักอึ้งในมือ แววตานางเฉาดูซับซ้อน ขอบตาแดงก่ำและตอบตกลงไป
พวกเขาช่วยกันยกของเข้าไปในครัว ห้องครัวเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ไปหมด
ในที่สุดอาหารเที่ยงมื้อนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องดื่มน้ำข้าวกันอีกแล้ว ในถ้วยข้าวเปลี่ยนมาเป็นข้าวสวยสีขาวเต็มถ้วย!
พอกินข้าวเสร็จแล้ว นางเฉาก็เอาซาลาเปาไปส่งให้กู้เหวินจูนที่สำนักด้วยตัวเอง
กู้หมิงซวงจึงหาโอกาสไปฝังเข็มให้กู้หย่วนเต้าได้พอดี
ตอนนี้กู้หย่วนเต้ายังนอนไม่ได้สติ เพราะสูญเสียทั้งเลือดลม บาดเจ็บหนักเกินไป นางสามารถใช้เข็มเงินทำให้กู้หย่วนเต้าขับเลือดเสียออก และลมปราณไหลเวียนได้ดีขึ้น
“บอกว่าอะไร?”
“บอกว่าพี่ชายเจ้าโกงข้อสอบ จึงจะขับไล่เขาออกจากสำนัก!”
“อะไรนะ?!” กู้หมิงซวงสีหน้าเปลี่ยนไป
นางเฉาเช็ดน้ำตาแล้วพูดขึ้นว่า “จะทำยังไงดี ซวงเอ๋อร์ ถ้าพี่ชายเจ้าถูกขับออกจากสำนักจริง ๆ ต่อไปจะเป็นคนต่อไปได้ยังไงกัน? เขาจะต้องถูกซุบซิบนินทาจนตายแน่!”
“ข้าไม่เชื่อว่าท่านพี่จะโกงข้อสอบหรอก!” กู้หมิงซวงพูดขึ้นมาเด็ดเดี่ยว “ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งใจร้อน ข้าจะไปดูที่สำนักเดี๋ยวนี้แหละ ไปดูซิว่าตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่!”
พูดจบแล้ว นางก็เอากู้เสี่ยวซานฝากไว้กับซูเหิงจิ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “พี่จิ่ง รบกวนท่านช่วยข้าดูแลเสี่ยวซานด้วยนะ”
ซูเหิงจิ่งพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็ส่งคนมาบอกข้านะ”
“ขอบใจท่านมาก!” กู้หมิงซวงจ้องมองซูเหิงจิ่งอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง แล้วหันไปจับมือนางเฉาไว้แล้วออกจากบ้านไป “ท่านแม่ สำนักอยู่ทางไหนคะ?”
“อยู่ท้ายหมู่บ้าน”
นางเฉาชี้ไปที่ทางหนึ่ง ทั้งสองคนรีบเดินอย่างรวดเร็วไปทางสำนัก
ในหมู่บ้านต้าเฉียวมีสำนักอยู่เพียงแห่งเดียว เปิดโดยซิ่วฉายเฒ่าท่านหนึ่งจากหมู่บ้านข้าง ๆ ได้ยินมาว่าซิ่วฉายเฒ่าท่านนี้อายุสี่สิบกว่าแต่ยังเข้าสอบจวี่เหรินอยู่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยสอบติดสักครั้ง เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องมาเปิดสำนักสอนการศึกษาที่หมู่บ้านต้าเฉียวของพวกเขา
(จวี่เหริน หมายถึงผู้ที่สอบเข้าบัณฑิตระดับชุมชน)
หมู่บ้านต้าเฉียวไม่ได้ร่ำรวย คนที่ไปศึกษาเล่าเรียนก็มีไม่มาก
ตอนที่กู้หมิงซวงกับนางเฉาเดินมาถึงประตูสำนัก ก็เห็นข้างในมีคนอยู่เพียงสิบกว่าคน
คนสิบกว่าคนนั้นห้อมล้อมกู้เหวินจูนไว้ตรงกลาง น้ำเสียงดูถูกเสียงหนึ่งดังมาจากกลุ่มคน “กู้เหวินจูน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียนหนังสือในสำนักนี้อีก ยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก!”
“เจ้ามิสิทธิ์อะไรมาว่าเข้าโกงข้อสอบ!” กู้เหวินจูนพูดขึ้นมาด้วยดวงตาแดงก่ำ
“หนังสือถูกพบเห็นอยู่ในลิ้นชักเจ้า ถ้าเจ้าไม่ได้โกงแล้วใครโกงล่ะ?! แล้วอีกอย่างนะ ถ้าไม่โกงเจ้าจะสอบได้คะแนนสูงขนาดนี้เลยเหรอ? อาจารย์ กู้เหวินจูนโกงข้อสอบแล้วยังไม่ยอมรับอีก ข้าว่าไล่เขาออกเลยดีกว่า”
“ไหนข้าดูซิว่าใครกล้าไล่พี่ชายข้าออกบ้าง!” อยู่ ๆ น้ำเสียงของกู้หมิงซวงก็ดังก้องขึ้นมาในสวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...