ทุกคนหันหน้ามากันอย่างพร้อมเพรียง สายตามาตกอยู่ที่ตัวกู้หมิงซวง
“คืออีอ้วนกู้นี่! นางมาทำไมกัน?”
“ใช่ ใช่ อีอ้วนมาที่สำนักทำไมกัน?”
คนพวกนี้ร่ำเรียนหนังสืออยู่ที่สำนักมาทั้งช่วงเช้า จึงไม่รู้เลยเรื่องที่กู้หมิงซวงอัดโจรพวกนั้นจนหนีไปเลย พอเห็นว่านางมา ก็เลยยังเรียกอีอ้วนและยัยโง่เต็มปากเต็มคำ
กู้หมิงซวงไม่อยากสนใจพวกเขา กวาดตามองไปรอบหนึ่ง สายตาก็ตกอยู่ที่กู้เหวินจูนที่คุกเข่าอยู่กลางสวน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
พอกู้เหวินจูนมองเห็นพวกนางแล้ว บนใบหน้าก็มีแววลำบากใจพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
“ท่านแม่ ซวงเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้ยังไงกัน?”
สวีจิ้นหยวนก้าวยืนออกมาด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “มาก็ดีแล้ว อีอ้วนกู้ รีบมาพาพี่ชายที่โกงข้อสอบคนนี้ของเจ้าไปซะ!”
กู้หมิงซวงฟังเสียงของเขาออก เมื่อกี้เขาเป็นคนพูดว่าให้กู้เหวินจูนรีบไสหัวไปซะ!
นางไม่มองหน้าสวีจิ้นหยวนเลยด้วยซ้ำ สายตาไปตกอยู่ที่ตัวกู้เหวินจูน “ท่านพี่ ท่านโกงข้อสอบจริง ๆ เหรอ?”
“เปล่า ข้าไม่ได้โกง! พวกเจ้าต้องเชื่อข้านะ”
กู้เหวินจูนส่ายหน้าขึ้นมาอย่างร้อนใจ
“ในเมื่อไม่ได้โกงข้อสอบ แล้วทำไมต้องมาคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วย! ท่านลุกขึ้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงกู้หมิงซวงเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก แล้วก็เดินเข้าไปดึงตัวเขาลุกขึ้นมาเลย
“ไม่ใช่เรื่องที่ท่านทำ ท่านก็ไม่ต้องคุกเข่า! ถ้าท่านคุกเข่าคุกเข่ายอมรับผิด ก็เท่ากับว่าท่านยอมรับผิดแล้วนะซิ?”
“ซวงเอ๋อร์ เจ้ายอมเชื่อข้าจริง ๆ เหรอ?”
เขาไม่ได้โกงข้อสอบ แค่ทั้งสำนัก ไม่มีใครยอมเชื่อเขาเลยสักคน
“ท่านเป็นพี่ชายข้า ข้าไม่เชื่อท่านแล้วจะไปเชื่อใคร?”
จ้องมองใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวของน้องสาวแล้ว กู้เหวินจูนก็พยักหน้าขึ้นอย่างซาบซึ้ง ในที่สุดในใจก็เกิดความกล้าขึ้นมาแล้ว
อีกด้านหนึ่ง พอสวีจิ้นหยวนเห็นว่ากู้หมิงซวงละเลยตัวเองไป ก็รู้สึกเกลียดจนกัดฟันกลอกไปตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ที่ถอนหมั้นกันไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบหน้ากัน
หลายวันมานี้ ทุกคนในตระกูลสวีต่างก็ดีใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องที่เขาถอนหมั้นแล้ว
แต่สวีจิ้นหยวนกลับไม่รู้สึกดีใจเลย
ในสมองของเขามักจะมีแต่ภาพสายตาดูถูกที่กู้หมิงซวงส่งมาให้ตัวเองวนเวียนขึ้นมาอยู่เรื่อย แม้แต่ในฝันก็ยังฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้กู้เอ้อยาได้กลับมาเป็นเหมือนหมากระดิกหางต่อหน้าตัวเองอีกครั้ง
พอคิดมาถึงตรงนี้ สวีจิ้นหยวนก็หึเสียงเย็นขึ้นมาคำหนึ่ง “กู้เอ้อยา เจ้านึกว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าว่าไม่ได้โกงก็คือไม่ได้โกงเหรอ? คิดว่าพวกเรามีไว้ประดับเฉย ๆ เหรอ?”
“งั้นเจ้าว่าพี่ข้าโกงข้อสอบ เจ้ามีหลักฐานเหรอ?”
สายตาของกู้หมิงซวงจ้องมองเขาอย่างเย็นชา สายตาเหมือนจ้องมองคนแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่
“หลังสือเล่มนี้ค้นออกมาจากลิ้นชักของเขา ทุกคนต่างก็เห็นกันหมด มีทั้งพยานและหลักฐานอยู่ตรงนี้ เจ้าว่ามีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ?!”
สวีจิ้นหยวนเอาหนังสือเล่มหนึ่งออกมา แล้วโยนลงตรงหน้ากู้หมิงซวง
“หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของข้า!”
กู้เหวินจูนรีบพูดขึ้นมา
“ค้นออกมาจากลิ้นชักของเจ้า เจ้าว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนใส่ไว้ กู้เหวินจูนเจ้านี่พูดโกหกโดยไม่ได้คิดคำไว้ล่วงหน้าจริง ๆ?”
“เจ้า……”
กู้เหวินจูนโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่ก็โต้แย้งอะไรไม่ออกสักคำ
ในขณะนั้นเอง กู้หมิงซวงงอตัวลงไปเก็บหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา
พอเห็นความเคลื่อนไหวของนาง สายตาของสวีจิ้นหยวนก็สั่นไหวเล็กน้อย แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่ากู้เอ้อยาอ่านหนังสือไม่ออกด้วยซ้ำ ใจที่แกว่งอยู่ถึงวางลงได้สักที
แต่กลับไม่รู้เลย ว่ากู้หมิงซวงในตอนนี้ไม่ใช่กู้หมิงซวงคนเดิมอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...