เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 27

สรุปบท บทที่ 27 ปกป้องพี่ชายอย่างองอาจ: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 27 ปกป้องพี่ชายอย่างองอาจ – เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่

บท บทที่ 27 ปกป้องพี่ชายอย่างองอาจ ของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน ในหมวดนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงฉีหมิงเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทุกคนหันหน้ามากันอย่างพร้อมเพรียง สายตามาตกอยู่ที่ตัวกู้หมิงซวง

“คืออีอ้วนกู้นี่! นางมาทำไมกัน?”

“ใช่ ใช่ อีอ้วนมาที่สำนักทำไมกัน?”

คนพวกนี้ร่ำเรียนหนังสืออยู่ที่สำนักมาทั้งช่วงเช้า จึงไม่รู้เลยเรื่องที่กู้หมิงซวงอัดโจรพวกนั้นจนหนีไปเลย พอเห็นว่านางมา ก็เลยยังเรียกอีอ้วนและยัยโง่เต็มปากเต็มคำ

กู้หมิงซวงไม่อยากสนใจพวกเขา กวาดตามองไปรอบหนึ่ง สายตาก็ตกอยู่ที่กู้เหวินจูนที่คุกเข่าอยู่กลางสวน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

พอกู้เหวินจูนมองเห็นพวกนางแล้ว บนใบหน้าก็มีแววลำบากใจพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

“ท่านแม่ ซวงเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้ยังไงกัน?”

สวีจิ้นหยวนก้าวยืนออกมาด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “มาก็ดีแล้ว อีอ้วนกู้ รีบมาพาพี่ชายที่โกงข้อสอบคนนี้ของเจ้าไปซะ!”

กู้หมิงซวงฟังเสียงของเขาออก เมื่อกี้เขาเป็นคนพูดว่าให้กู้เหวินจูนรีบไสหัวไปซะ!

นางไม่มองหน้าสวีจิ้นหยวนเลยด้วยซ้ำ สายตาไปตกอยู่ที่ตัวกู้เหวินจูน “ท่านพี่ ท่านโกงข้อสอบจริง ๆ เหรอ?”

“เปล่า ข้าไม่ได้โกง! พวกเจ้าต้องเชื่อข้านะ”

กู้เหวินจูนส่ายหน้าขึ้นมาอย่างร้อนใจ

“ในเมื่อไม่ได้โกงข้อสอบ แล้วทำไมต้องมาคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วย! ท่านลุกขึ้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

น้ำเสียงกู้หมิงซวงเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก แล้วก็เดินเข้าไปดึงตัวเขาลุกขึ้นมาเลย

“ไม่ใช่เรื่องที่ท่านทำ ท่านก็ไม่ต้องคุกเข่า! ถ้าท่านคุกเข่าคุกเข่ายอมรับผิด ก็เท่ากับว่าท่านยอมรับผิดแล้วนะซิ?”

“ซวงเอ๋อร์ เจ้ายอมเชื่อข้าจริง ๆ เหรอ?”

เขาไม่ได้โกงข้อสอบ แค่ทั้งสำนัก ไม่มีใครยอมเชื่อเขาเลยสักคน

“ท่านเป็นพี่ชายข้า ข้าไม่เชื่อท่านแล้วจะไปเชื่อใคร?”

จ้องมองใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวของน้องสาวแล้ว กู้เหวินจูนก็พยักหน้าขึ้นอย่างซาบซึ้ง ในที่สุดในใจก็เกิดความกล้าขึ้นมาแล้ว

อีกด้านหนึ่ง พอสวีจิ้นหยวนเห็นว่ากู้หมิงซวงละเลยตัวเองไป ก็รู้สึกเกลียดจนกัดฟันกลอกไปตั้งนานแล้ว

ตั้งแต่ที่ถอนหมั้นกันไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบหน้ากัน

หลายวันมานี้ ทุกคนในตระกูลสวีต่างก็ดีใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องที่เขาถอนหมั้นแล้ว

แต่สวีจิ้นหยวนกลับไม่รู้สึกดีใจเลย

ในสมองของเขามักจะมีแต่ภาพสายตาดูถูกที่กู้หมิงซวงส่งมาให้ตัวเองวนเวียนขึ้นมาอยู่เรื่อย แม้แต่ในฝันก็ยังฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้กู้เอ้อยาได้กลับมาเป็นเหมือนหมากระดิกหางต่อหน้าตัวเองอีกครั้ง

พอคิดมาถึงตรงนี้ สวีจิ้นหยวนก็หึเสียงเย็นขึ้นมาคำหนึ่ง “กู้เอ้อยา เจ้านึกว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าว่าไม่ได้โกงก็คือไม่ได้โกงเหรอ? คิดว่าพวกเรามีไว้ประดับเฉย ๆ เหรอ?”

“งั้นเจ้าว่าพี่ข้าโกงข้อสอบ เจ้ามีหลักฐานเหรอ?”

สายตาของกู้หมิงซวงจ้องมองเขาอย่างเย็นชา สายตาเหมือนจ้องมองคนแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่

“หลังสือเล่มนี้ค้นออกมาจากลิ้นชักของเขา ทุกคนต่างก็เห็นกันหมด มีทั้งพยานและหลักฐานอยู่ตรงนี้ เจ้าว่ามีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ?!”

สวีจิ้นหยวนเอาหนังสือเล่มหนึ่งออกมา แล้วโยนลงตรงหน้ากู้หมิงซวง

“หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของข้า!”

กู้เหวินจูนรีบพูดขึ้นมา

“ค้นออกมาจากลิ้นชักของเจ้า เจ้าว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนใส่ไว้ กู้เหวินจูนเจ้านี่พูดโกหกโดยไม่ได้คิดคำไว้ล่วงหน้าจริง ๆ?”

“เจ้า……”

กู้เหวินจูนโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่ก็โต้แย้งอะไรไม่ออกสักคำ

ในขณะนั้นเอง กู้หมิงซวงงอตัวลงไปเก็บหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา

พอเห็นความเคลื่อนไหวของนาง สายตาของสวีจิ้นหยวนก็สั่นไหวเล็กน้อย แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่ากู้เอ้อยาอ่านหนังสือไม่ออกด้วยซ้ำ ใจที่แกว่งอยู่ถึงวางลงได้สักที

แต่กลับไม่รู้เลย ว่ากู้หมิงซวงในตอนนี้ไม่ใช่กู้หมิงซวงคนเดิมอีกแล้ว

“ใช่ พูดถูกต้อง มีสิทธิ์อะไรมานับคะแนนทั้ง ๆ ที่เขาโกงข้อสอบ?”

“งั้นต่อไปพวกเราก็ไม่ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนแล้ว แค่ตั้งใจโกงข้อสอบก็พอแล้วใช่ไหม?”

“ไสหัวออกไปจากสำนัก ไสหัวออกไปจากสำนัก……”

กู้เหวินจูนรู้สึกโมโหจนกำหมัดไว้แน่น ไม่อยากจะคิดเลยว่า พวกนี้คือเพื่อนบัณฑิตที่เขาคบหามาในยามปกติ

ตอนนี้มาเห็นว่าพอเกิดเรื่องขึ้นมา ก็ไม่มีใครยอมเชื่อเขาสักคน

จะทำยังไงดี ถ้าเขาถูกขับไล่ออกจากสำนักจริง ๆ……ชีวิตนี้ก็พังทลายแล้ว

คำว่าโกงข้อสอบสามคำ จะติดตามตัวเขาไปตลอดชีวิตอย่างกับรอยถูกไฟจี้

และขณะนั้นเอง กู้หมิงซวงก็พูดเสียงดังขึ้นว่า “ข้ามีข้อเสนออย่างหนึ่ง หรือไม่อาจารย์หลี่ก็ออกข้อสอบมาตรงนี้เลย แล้วให้พี่ชายข้าทำข้อสอบต่อหน้าทุกคน ถ้าเกิดครั้งนี้เขาสามารถทำคะแนนสูงได้เหมือนเดิม ก็จะสามารถยืนยันได้ว่าเขาใช้ความสามารถที่แท้จริงสอบติดถงเซิงเอง!”

พูดจบ นางก็หันไปมองอาจารย์หลี่ “อาจารย์ ท่านเห็นว่ายังไงบ้าง?”

“ความคิดเห็นนี้ ใช้ได้เหมือนกัน……”

ที่จริง หลี่ซิ่วฉายเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่ากู้เหวินจูนโกงข้อสอบ เขาเอาก็สอนหนังสือมาหลายปีแล้ว สามารถดูออกได้ ว่ากู้เหวินจูนเป็นเด็กดีที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง

สวีจิ้นหยวนร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย “อาจารย์ ทำไมท่านถึงฟังที่กู้เอ้อยาพูดล่ะ……”

“สวีจิ้นหยวน เจ้าเอาแต่ต่อต้านพวกเรามาตลอด หรือเป็นเกลียดแค้นอยู่ในใจกับเรื่องที่ถอนหมั้นหรือ?” กู้หมิงซวงหรี่ตาขึ้นมา “หรือว่า หนังสือเล่มนี้เป็นของที่เจ้าเอามาใส่ร้ายพี่ชายข้าหรือ?!”

พอกู้หมิงซวงพูดคำพูดนี้ออกไป ใจของสวีจิ้นหยวนก็เต้นอย่างเร็วมากขึ้นมา

เพราะจิตใจหวาดระแวง ดวงตาของเขาสั่นไหว ชั่วขณะหนึ่งกลับไม่กล้าเปิดปากพูดอีกเลย

พอเห็นว่าหลี่ซิ่วฉายได้รับปากกู้หมิงซวงยอมให้กู้เหวินจูนทำข้อสอบขึ้นมาที่นี่กะทันหัน เขาก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่เจ้าโง่กู้เหวินจูนนี่ ว่าให้ไม่มีทางทำข้อสอบได้

ในสวนสงบนิ่งไปหมด ได้ยินแต่เสียงพู่กันเขียนลงบนกระดาษของกู้เหวินจูน

นางเฉาจ้องมองแผ่นหลังของกู้เหวินจูน ประสานนิ้วมือไปอย่างไม่สบายใจ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ เจ้าว่าพี่ชายของเจ้าจะทำได้หรือเปล่า?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน