บทที่ 30 ตระกูลกู้จะเจริญรุ่งเรืองแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
ตอนนี้ของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 30 ตระกูลกู้จะเจริญรุ่งเรืองแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ในช่วงวินาทีสำคัญ คำถามนี้คือคำถามที่ตรงประเด็นที่สุดเลย
ไม่เพียงฝูงชนเท่านั้นที่รู้สึกสงสัย แม้แต่หลี่เต๋อฉายก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมาแล้ว
เรื่องที่หม่าซานเหนียงถูกโจรข่มขืน ทีแรกเขาแค่รู้สึกว่าเป็นคราวเคราะห์เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อคราวซวยมาถึงตัวแล้ว ก็ทำได้แค่ยอมรับ แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของหม่าซานเหนียง
แต่ตอนนี้มาบอกเขาว่า เรื่องที่หม่าซานเหนียงถูกข่มขืนไม่ใช่ฝีมือของโจรพวกนั้น
งั้นใครเป็นคนทำล่ะ?
เขาลูบศีรษะตัวเองเล็กน้อย อยู่ ๆ ก็รู้สึกกระวนกระวายว่าจะถูกสวมเขาขึ้นมา
“ตกลงใครเป็นคนทำ?”
เขาหันหน้าไป ซักถามหม่าซานเหนียงด้วยท่าทีเคร่งขรึม
หม่าซานเหนียงจะกล้าพูดได้ยังไง ร้องไห้แล้วพูดขึ้นมาว่า “โจรพวกนั้นเป็นคนทำนะแหละ เจ้าไม่เชื่อข้าแต่กลับไปเชื่อกู้เอ้อยา หลี่เต๋อฉาย เจ้าไม่ละอายใจต่อข้าบ้างหรือ? ข้าไม่อยู่แล้ว ข้า พวกเจ้ารวมหัวกันมา รังแกข้าคนเดียว……”
“ยัยผู้หญิงชั่วคิดจะเอาการฆ่าตัวตายมาข่มขู่เหรอ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังกล้าปิดบังข้าอีก เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือยังไง? ยังไม่รีบสารภาพความจริงออกมาอีก ถ้าเจ้าไม่พูดข้าก็จะหย่ากับเจ้าซะ!”
“เจ้า……” หม่าซานเหนียงลนลานขึ้นมา แล้วรีบมองไปทางแม่ที่แก่ชราของนาง หญิงชราเองก็รู้สึกกระวนกระวายใจมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หลี่เต๋อฉายเป็นคนที่อารมณ์ร้อน และไม่ให้โอกาสนางได้ลังเล หยิบมีดฝ่าฝืนด้านข้างขึ้นมาก็ฟันมาเลย หม่าซานเหนียงตกใจจนความกล้าหนีหายไปหมด จึงต้องสารภาพเรื่องจริงออกมา
ที่แท้ เพราะนางแอบไปปล่อยหนี้นอกระบบที่หมู่บ้านข้าง ๆ พออีกฝ่ายชดใช้คืนไม่ได้ หม่าซานเหนียงก็เลยให้คนทางบ้านมารดาไปทุบทำลายที่บ้านอีกฝ่าย
พออีกฝ่ายมีความโกรธเกลียดขึ้นในใจ และแอบติดตามหม่าซานเหนียงมาตั้งนานแล้ว จึงฉวยโอกาสตอนที่นางกลับหมู่บ้านตัวคนเดียว ลากนางไปนอนลงบนกอหญ้าข้างทางแล้วข่มขืน
หม่าซานเหนียงไม่กล้าพูด ก็เลยเอาเรื่องนี้ผลัดไปที่ตัวโจรพวกนั้นและกู้หมิงซวง
พอหลี่เต๋อฉายฟังจบ สีหน้าก็บึ้งตึงจนกลายเป็นสีแดงตับหมู ยกเท้าถีบไปที่หน้าอกหม่าซานเหนียง จนเตะนางตัวลอยออกไปเลย
หม่าซานเหนียงกรีดร้องออกมาคำหนึ่ง แล้วก็ถูกหลี่เต๋อฉายฉุดกระชากเข้าไปในบ้านเลย
ญาติของตระกูลหม่าต่างก็ห้อมล้อมเข้าไปเกลี้ยกล่อม แถมยังแฝงไปด้วยเสียงร้องไห้เสียงดังอย่างหดหู่ของหญิงชราตระกูลหม่า
ทุกคนเห็นแล้วก็พากันส่ายหน้าขึ้นมา แต่กลับไม่ค่อยมีใครสงสารหม่าซานเหนียง การปล่อยเงินกู้นอกระบบเป็นเรื่องที่ทางการไม่อนุญาตให้ทำอยู่แล้ว พอเห็นว่านางได้รับกรรมตามสนองก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
และเพราะว่าสถานการณ์มันรุนแรงเกินไป กลัวจะทำให้เด็ก ๆ ตกใจ พวกผู้หญิงก็เลยจูงมือลูก ๆ แล้วค่อย ๆ จากไป ไม่สอดรู้สอดเห็นอีกต่อไป
คนที่เหลืออยู่ กลับใช้สายตาที่พิจารณาและนับถือมองมาที่กู้หมิงซวง
พอถูกหม่าซานเหนียงทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตแบบนี้แล้ว ก็เห็นว่าคนทั้งหมู่บ้านต้าเฉียวต่างก็รู้เรื่องกันหมดแล้ว
เอ้อยาบ้านตระกูลกู้ซัดพวกโจรจนหนีกระเจิง แถมยังหักแขนหักขาโจรพวกนั้นอีก!
ต้องรู้ไว้นะ ที่ผ่านมานางเป็นแค่ยัยโง่ที่ถูกคนอื่นรังแกมาตลอด แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่แข็งแกร่ง ยังได้ยินมาว่านางหาช่องทางหาเงินได้แล้ว และซื้อของมาให้ตระกูลกู้มากมายด้วย
ว่ากันว่าพอเจ้าสามของตระกูลกู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว และถูกตระกูลสวีถอนหมั้นไป อีกไม่นานก็ต้องบ้านแตกสาแหรกขาดแน่
ถึงปากทุกคนจะไม่พูด แต่ในใจต่างก็แอบว่ากู้หมิงซวงเป็นตัวซวย แต่พอผ่านมาไม่นาน ตัวซวยก็กลายร่างไปเป็นคนลุกขึ้นมาค้ำชูคนทั้งครอบครัวแล้ว?
แม้แต่ในบทละครเพลง ก็ยังไม่แปลกประหลาดขนาดนี้เลย
และในขณะนั้นเอง เด็กคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดึงชายเสื้อของมารดาเล็กน้อย แล้วพูดด้วยใบหน้าอิจฉาว่า “ท่านแม่ ท่านรู้หรือเปล่า ต่อไปนี้พี่เหวินจูนแห่งตระกูลกู้จะได้เป็นถงเซิงแล้วนะ”
“อะไรนะ กู้เหวินจูนได้เป็นถงเซิงแล้วงั้นหรือ?”
คราวนี้ ความตกตะลึงของทุกคนมีมากกว่าเมื่อกี้ซะอีก
“นี่มันเรื่องอะไรกัน หมู่บ้านเรามีแค่สวีจิ้นหยวนที่เป็นถงเซิงคนเดียวไม่ใช่หรือ? แล้วกู้เหวินจูนได้กลายเป็นถงเซิงไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ขอรับ……” เด็กเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่สำนักออกมารอบหนึ่ง ถึงแม้จะพูดวนไปวนมา แต่ทุกคนก็พอเข้าใจแล้วว่าเรื่องมันเป็นมายังไง
“ถ้ารู้ว่าตระกูลกู้ยังมีเงินมากมายขนาดนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นก็น่าจะเอาเงินมาให้หมดเลย แถมยังมาเสียที่ดินไปสองไร่ แม่ไก่ก็ไม่ได้สักตัว กู้เอ้อยายัยสมควรตายนี่ ทำให้พวกเราเสียเปรียบไปตั้งเยอะ”
สวีจิ้นหยวนไม่ได้ตอบอะไร สวีเฟิ่งฉินเป็นคนขี้เหนียว มักจะคิดถึงแต่ของพวกนี้ แต่สิ่งที่สวีจิ้นหยวนคิดกลับแตกต่างออกไป เขาเป็นกังวลเรื่องอย่างอื่น……
สองอาหลานกำลังเรื่องอยู่ในใจ แต่แม่ม่ายสวีกลับเดินเข้ามาจากนอกประตู
อีกฝ่ายสวมชุดกระโปรงลายดอกสีเขียวอ่อน บนใบหน้าทาแป้งขาวไว้ชั้นหนึ่ง ตรงแก้มแต่งแต้มด้วยสีแดง ดูไปแล้วดูมีความสะสวยอยู่บ้าง
เพียงแต่ว่าขจ การแต่งกายแบบนี้ไม่เหมือนผู้หญิงในหมู่บ้าน กลับเหมือนพวกรับแขก……
พอเห็นแม่ม่ายสวี สวีจิ้นหยวนก็นึกถึงเรื่องในวันนี้ขึ้นมาญฝ ถ้าไม่ใช้เพราะเส้นไหมนั่น เรื่องหนังสือก็คงจะไม่เผยพิรุธออกไป
“ท่านแม่ ท่านแตะต้องหนังสือของข้าอีกแล้วใช่ไหม?”
สวีจิ้นหยวนถามขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย
“……เมื่อวานข้าเห็นว่าหนังสือของเจ้าค่อนข้างยุ่ง ก็เลยช่วยจัดเก็บให้เจ้าสักหน่อย”
แม่ม่ายสวีจ้องมองสวีจิ้นหยวนทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง เหมือนกลัวว่าลูกชายจะโกรธยังไงอย่างงั้น
“ข้าเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามาแตะต้องของบนโต๊ะข้าญภ ใครใช้ให้ท่านไปแตะต้องกัน”
“ข้าหฌ ข้าก็แค่อยากช่วยเท่านั้น……จิ้นหยวน แม่ผิดไปแล้ว ครั้งหน้าแม่ไม่กล้าแล้ว……”
แม่ม่ายสวีก้มหน้าลง ท่าทางดูต่ำต้อยเล็กน้อย
ในใจสวีจิ้นหยวนมีไฟโกรธขึ้นมา สะบัดมือแล้วพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะช่างเถอะ ในเมื่อบอกท่านไปกี่ครั้ง ท่านก็ไม่รู้จักจำอยู่ดี”
“ลูกชาย วันนี้เป็นอะไรไป ทำไมถึงได้โมโหขนาดนี้ ระหว่างทางที่แม่กลับมา ได้ยินเรื่องของกู้เอ้อยามา เจ้าคงจะไม่ได้เสียดายที่ถอนหมั้นกับเอ้อยาหรอกนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...