เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 35

สรุปบท บทที่ 35 ท่านอาเหมยชอบซูเหิงจิ่ง: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน

บทที่ 35 ท่านอาเหมยชอบซูเหิงจิ่ง – ตอนที่ต้องอ่านของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน

ตอนนี้ของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 35 ท่านอาเหมยชอบซูเหิงจิ่ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“กู้เอ้อยายัยสมควรตายนี่ ตอนนั้นน่าจะขายเป็นเงินหนึ่งตำลึงให้พวกรับซื้อเด็กเอาไปเป็นเมียเด็กซะเลยนะ”

กู้เหล่าไท่ไท่เอาไม้เท้าเคาะพื้นไป บนใบหน้าเย็นชาโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยฟองน้ำลาย

“ท่านแม่ เมื่อกี้ท่านเห็นผู้ชายคนที่อยู่หลังกู้เอ้อยาหรือเปล่า?” ในหัวของกู้ตงเหมยยังคงนึกย้อนไปถึงภาพดวงตาที่คมคายของซูเหิงจิ่งอยู่ สายตาดูเหม่อลอย

“ผู้ชายอะไร?” สายตาของกู้เหล่าไท่ไท่มัวแต่ไปตกอยู่ที่เนื้อหมูป่า จะไปจำผู้ชายอะไรได้ล่ะ?

นางดมกลิ่นเนื้อหอมที่โชยออกมาจากด้านในไม่หยุด ใจก็เหมือนถูกราดด้วยน้ำมันร้อน ๆ ยังไงอย่างงั้น

อยากกิน ไม่พอใจ โกรธแค้น อารมณ์ซับซ้อนต่าง ๆ นานามาหลอมรวมเข้าด้วยกัน

เนื้อหมูป่า นี่มันเนื้อหมูป่าเชียวนะ!

นางคิดถึงการได้กินเนื้อหมูป่าครั้งสุดท้าย ก็คือครั้งที่ลูกคนโตจัดงานแต่งงาน

นี่มันเป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว นางลืมไปตั้งนานแล้วว่ารสชาติเนื้อหมูป่ามันเป็นยังไง จำได้แค่ทั้งหอมทั้งเผ็ด เป็นรสชาติที่ยากจะลืมเลือน

คิดไม่ถึงว่า วันนี้บ้านเจ้าสามกลับมาแอบกินเนื้อหมูป่าลับหลังนาง ไม่ยกไปแสดงความกตัญญูต่อนางสักถ้วยไม่ว่า แต่ยังมาไล่นางออกจากบ้านอีก

ซวยหนักแปดชั่วโคตรจริง ถึงได้คลอดลูกอกตัญญูแบบนี้ออกมาได้

กู้เหล่าไท่ไท่โกรธจนทุบหน้าอกกระทืบเท้า

ไม่ได้กินเนื้อหมูป่า นางไม่พอใจจริง ๆ

ดวงตาหมุนวนไป นางตัดสินใจแล้ว เดี๋ยวตอนกลางคืนค่อยมาอีกรอบ แล้วแอบย่องเข้าไปขโมยเนื้อหมูป่ามา

นางไม่เชื่อหรอก พอถึงตอนนั้นเนื้อหมูป่าเข้ามาอยู่ในท้องนางแล้ว พวกนางจะบังคับให้นางอวกออกมาอีกหรือ

“ตงเหมย พวกเรากลับบ้านเถอะเดี๋ยวกลางคืนค่อยมาใหม่”

กู้ตงเหมยที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้คิดถึงเนื้อหมูป่าแล้ว ในใจนางเอาแต่คิดถึงซูเหิงจิ่ง

พอได้ยินกู้เหล่าไท่ไท่บอกว่ากลางคืนจะมาอีก ในดวงตาเล็กก็เกิดแววดีใจขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็ไม่สนใจกลิ่นฉี่บนร่างกาย รีบล้วงกระจกเล็กออกมาชื่นชม“ความสวย”ของตัวเอง ในใจคิดไปว่าคืนนี้จะหว่านเสน่ห์ใส่ซูเหิงจิ่งยังไง

……

กู้เหล่าไท่ไท่กับกู้ตงเหมยมาอย่างรวดเร็ว และจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

พอได้ยินเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ห่างออกไป กู้หมิงซวงถึงจะเปิดประตูออก แล้วคว้าถังน้ำตรงข้างบ่อน้ำมาล้างกลิ่นฉี่ทิ้งไป

นางเฉาถามขึ้นมาอย่างไม่สบายใจ “ซวงเอ๋อร์ พวกเราทำแบบนี้มันเกินไปหรือเปล่า? ในเมื่อนางเป็นแม่แท้ ๆ ของพ่อเจ้านะ……”

“แม่แท้ ๆ หรือ? ตอนพ่อข้านอนหมดสติ ทำไมข้าไม่เห็นว่านางจะทำตัวเป็นแม่แท้ ๆ เลย มาดูสองสามทีทำเป็นห่วงใยเล็กน้อย แล้วอีกอย่าง เมื่อสองวันก่อน นางยังจะขายเสี่ยวซานให้ลุงใหญ่อีก เรื่องนี้ท่านแม่ลืมไปแล้วหรือ?”

หัวคิ้วของนางเฉาขมวดกันเป็นปม ที่จริงนางเองก็ไม่พอใจต่อการกระทำของกู้เหล่าไท่ไท่ แต่ลึก ๆ ในตัวมีความเชื่อมั่นอย่างงมงายแบบผิด ๆ ว่าต้องเป็นคนกตัญญู จึงทำให้นางไม่กล้าต่อต้านถึงจะไม่พอใจก็ตาม

หมู่บ้านต้าเฉียวนี้ ยังคงอยู่อาณาเขตของแคว้นฉี คนที่มีความคิดแบบนางเฉา ไม่ได้มีอยู่แค่คนเดียว

“ย่าของเจ้าทำไม่ถูกต้อง ต่อไปถ้านางมา เราไม่สนใจนางก็พอแล้ว เจ้าอย่าลงมืออีกนะ ไม่งั้นถ้าข่าวลือออกไปมันจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของเจ้า”

กู้หมิงซวงหัวเราะพรืดออกมาคำหนึ่ง

ชื่อเสียงหรือ?

นางยังมีชื่อเสียงกับผีอีกเหรอ?

เมื่อก่อนเจ้าของร่างเดิมอยู่ในหมู่บ้าน ถ้าไม่ขโมยของทางบ้านฝั่งตะวันตก ก็ไปถอนผักกาดของบ้านฝั่งตะวันออก พอถึงกลางคืนก็ปักดอกไม้แดงไว้บนหัว ตอนเช้ารังแกเด็ก ตอนบ่ายก็วิ่งไล่ตามตูดสวีจิ้นหยวนไปเรื่อย

แถวหมู่บ้านต้าเฉียวนี้ ใครเอ่ยถึงเอ้อยาบ้านตระกูลกู้แล้วก็ต้องมีสีหน้ารังเกียจทั้งนั้น

ยิ่งบวกกับช่วงก่อนหน้านี้ นางได้ตบตีสวีเฟิ่งฉินกับพวกโจรไป คาดว่าคงจะได้ฉายาผู้หญิงชั่วร้ายมาอีกชื่อแล้ว

กู้หมิงซวงไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองหรอก ปากอยู่บนร่างกายคนอื่น อยากพูดยังไงก็พูดไป

ถ้าแต่งไม่ออกจริง ๆ ก็เป็นผู้หญิงขึ้นคานที่ร่ำรวยคนหนึ่งก็ได้

นางเฉาร้อนใจขึ้นมา “ถ้าเจ้าเป็นผู้หญิงขึ้นคานไปทั้งชีวิต ต่อไปใครจะมาเลี้ยงดูเจ้าตอนแก่กันล่ะ?”

กู้เสี่ยวซานใบหน้าซื่อตรง “ยังมีพี่จิ่งอยู่อีกคนไม่ใช่หรือ? ให้พี่จิ่งเป็นพี่เขยข้าก็ได้”

นี่มันคือคำพูดไม่ทำให้คนตกใจก็ไม่ยอมหยุดจริง ๆ

กู้หมิงซวงเอาเกาลัดโยนออกไป “พูดจาไร้สาระอะไร ถ้ายังกล้าพูดจาไร้สาระอีก ต่อไปจะไม่ให้เจ้ากินเนื้อหมูป่าแล้วนะ”

นางเฉาได้ยินแล้วก็ปลื้มปีติมาก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาชื่นชมลูกสาวนางถึงบ้าน แต่ไม่ได้มาฟ้องร้อง

“เรื่องโจรเป็นเรื่องที่ซวงเอ๋อร์สมควรทำแล้ว ของพวกนี้พวกเรารับไว้ไม่ได้หรอก พวกเจ้าเอาของกลับไปเถอะนะ”

“ดูเจ้าพูดเข้าซิ ถ้าไม่ได้เอ้อยา วันนี้พวกเราคงจะไม่ได้กลับมาแล้ว ของแค่นี้ไม่มีค่าอะไรมากหรอก ผักเป็นของที่ปลูกในสวนเราเองทั้งนั้น ปลานี่กูสามีข้าไปจับมา เจ้าแค่รับไปแล้วเอาไปต้มให้เด็ก ๆ กินก็พอแล้ว”

พี่สะใภ้ซิ่งฮัวหิ้วผักเข้าไปในครัวเลย ไม่ปล่อยให้นางเฉามีโอกาสได้ปฏิเสธเลยสักนิด

ไม่เข้าไปในครัวยังพอว่า พอเข้าไปแล้วเห็นขาหมูใหญ่สองข้างที่แขวนอยู่บนคาน ปากก็อ้างจนสามารถยัดไข่ได้ฟองหนึ่งขึ้นมาทันที

“นางเฉา นี่เจ้าไปเอาขาหมูใหญ่ขนาดนี้ตั้งสองอันมาจากไปกัน?”

“เหิงจิ่งบ้านข้าไปล่ามาจากสันเขาเสี่ยวลู่เอง” พอเอ่ยถึงซูเหิงจิ่ง ใบหน้าของนางเฉาก็ยิ้มแย้มขึ้นมา

“หลานชายห่าง ๆ คนนั้นของเจ้าหรือ?”

“อืม……ใช่”

“ช่างเก่งกาจมากจริง ๆ สามารถไปล่าหมูป่าที่สันเขาเสี่ยวลู่ได้ด้วย” บนใบหน้าพี่สะใภ้ซิ่งฮัวกับป้าหนิวมีความอิจฉาปรากฏขึ้นมาระลอกหนึ่ง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไร มอบของให้เสร็จก็จากไปเลย

ชีวิตที่ผ่านมาของตระกูลกู้ค่อนข้างลำบาก ถึงพวกนางจะอิจฉามากแค่ไหน ก็ไม่มีทางไปโลภอยากได้เนื้อหมูป่าพวกนั้นหรอก

แต่ป้าหนิวพอกลับไปถึงบ้าน ก็เห็นว่าหนิฝู้กุ้ยกำลังเล่าเรื่องที่พบเห็นกู้หมิงซวงระหว่างทางให้พวกลูก ๆ ฟัง

พอฟังจบแล้ว นางก็ตบลงบนไหล่หนิฝู้กุ้ยอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วด่าขึ้นมาว่า “ปากเอาแต่พ่นน้ำลายอะไร ใครบอกเจ้าว่านั่นคือศพคน? นั่นคือหมูป่าตัวใหญ่ต่างหาก!”

“ห๋า หมูป่าตัวใหญ่เหรอ? ข้าว่าเจ้าไม่ได้ฝันไปหรอกใช่ไหม?” หนิฝู้กุ้ยคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่ก็คิดไม่ถึงเรื่องนี้เลย

“ข้าเห็นมาเองกับตายังจะฝันอะไรอีก? นางเฉาบอกกับข้าเอง ว่านั่นเป็นหมูป่าที่บ้านนางไปล่ามาจากสันเขาเสี่ยวลู่ ต่อไปเกรงใจบ้านกู้เจ้าสามหน่อยนะ ข้าเห็นว่าบ้านพวกเขากำลังจะเจริญรุ่งเรืองแล้ว”

เจริญ รุ่งเรืองแล้ว……

หนิฝู้กุ้ยนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ผ่านไปนานก็ยังตั้งสติกลับมาไม่ได้

“เจริญรุ่งเรือง” สามคำนี้ สำหรับกู้เจ้าสามในตอนนี้แล้ว ช่างห่างไกลมากจริง ๆ แต่เรื่องที่บ้านตระกูลกู้ไปล่าหมูป่าที่สันเขาเสี่ยวลู่ได้นี่ซิ ช่างเป็นข่าวที่ใหญ่มากจริง ๆ

หนิฝู้กุ้ยตัดสินใจแล้วว่า พรุ่งนี้ตอนที่ไปไถพรวนดิน จะไปพูดคุยกับพวกเขาดี ๆ สักหน่อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน