ยังมิทันถึงตอนเที่ยง แกงน้ำบ๊วยเปรี้ยวกับปลาเผ็ดที่กู้หมิงซวงนำมาขายนั้นก็ถูกกระหน่ำซื้อจนหมดถังเสียแล้ว
ก็ช่วยมิได้ กู้หมิงซวงก็ทำได้แค่รีบเก็บของกลับบ้าน
“หมดแล้ว หมดแล้ว ปลาเผ็ดกับแกงน้ำบ๊วยเปรี้ยวขายหมดเกลี้ยงแล้ว”
“ว่าอย่างไรนะ?”
คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังต่างพากันบ่นขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“พวกเรายังไม่ทันได้ซื้อเลย ใยจึงหมดเกลี้ยงเสียแล้วล่ะ?”
“ขายของประสาอะไรกันเนี่ย พวกข้าก็รอกินอยู่นะ จู่ๆใยจึงไม่ขายเสียแล้ว นี่จะทำพวกข้าอยากกินจนขาดใจตายหรือไงกัน?”
กู้หมิงซวงก็คิดไม่ถึงว่าทุกคนจะพากันกระตือรือร้นซื้อถึงเพียงนี้ นางจึงปาดเหงื่อบนสองเม็ดบนหน้าผาก แล้วยกมือเอ่ย “หมดแล้วจริงๆจ้า หมดเกลี้ยงก้นถังเลย วันนี้ขออภัยทุกท่านด้วย วันพรุ่งยามเช้า ข้าก็มาตั้งร้านขายที่นี่เหมือนเดิมหนา”
พอพูดจบกู้หมิงซวงก็ยกถังไม้ว่างเปล่าขึ้นมาให้ทุกคนดู
เมื่อผู้คนพากันมองเห็นถังอันเกลี้ยงเปล่าแล้ว ก็ต่างพากันไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไร้หนทาง
อย่างไรเสียก็มิอาจจะแบกถังเปล่าเอากลับไปกินที่บ้านได้
จึงทำได้แค่รีบมาซื้อพรุ่งนี้ตอนเช้าอย่างเดียวแล้ว
กว่าจะพูดเกลี้ยกล่อมให้ทุกคนถอยจากไปนั้นช่างไม่ง่ายเลย กู้หมิงซวงปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างอับจนหนทาง ซูเหิงจิ่งก็เข้ามาลากรถให้ แล้วกลับเรือนไปพร้อมๆกัน
นางยุ่งมาตลอดทั้งเช้า จนปวดหลังเจ็บเอวไปหมด ระหว่างทางกลับไม่ว่าจะอย่างไรซูเหิงจิ่งก็ไม่ยอมให้นางเดินเอาเอง ดึงดันจะให้นางนั่งบนรถลากให้จงได้
ด้วยน้ำหนักเช่นนี้ของกู้หมิงซวงใยจะกล้านั่งบนรถลาก นางกลัวทำเอาซูเหิงจิ่งเหนื่อยแย่
จึงส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายกู้หมิงซวงก็ไม่ยอมนั่งรถลาก
ขณะที่นางกำลังจะเดินไปนั้น ทันใดชายหนุ่มก็ใช้มือกอดที่เอวนางแล้วยกตัวนางขึ้น
กู้หมิงซวงหน้าแดงก่ำขึ้นทันใด แล้วร้องเอ่ย “ซูเหิงจิ่งเจ้ามันบ้าไปแล้วหรือ รีบปล่อยข้าลงบัดเดี๋ยวนี้!”
“จะยอมนั่งบนรถได้หรือยัง?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น แล้วส่งสายตาข่มขู่เข้ามาใกล้ๆ หากในอ้อมแขนซูเหิงจิ่งเปลี่ยนเป็นสาวงามสักนาง คงนับเป็นภาพฉากอันงดงามอย่างยิ่งเลยทีเดียว แต่ขณะนี้ เพียงกู้หมิงซวงนึกถึงน้ำหนักตัวกว่าสองร้อยชั่งของตน ก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว
นางรีบหลีกเลี่ยงความอับอาย จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าตกลง
“ข้านั่งก็นั่งสิ รีบปล่อยข้าลงเถิดนะ”
ซูเหิงจิ่งดวงตาฉายแววพออกพอใจ แล้วจึงค่อยๆวางนางลงบนรถเข็นอย่างนุ่มนวลเบามือ
ทางด้านกู้เสี่ยวซานก็อ้าปากกลมค้าง “พี่จิ่งเก่งเสียจริงเลยขอรับ แข็งแกร่งยิ่งนัก”
กู้หมิงซวงยิ่งอายแทบแทรกแผ่นดินเข้าไปอีก
ในขณะที่นางเขินอายอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ใช้มือจับลงที่รถลาก แล้วลากออกมาไกลได้ระยะหนึ่ง
เมื่อเงยมองเห็นแผ่นหลังสูงๆกว้างๆของชายหนุ่ม พร้อมฝีเท้าที่ก้าวอย่างคงที่ ก็มิรู้ว่าเหตุใดมุมปากของสาวน้อยก็พลันยิ้มยกขึ้น
ชายหนุ่มผู้นี้……ทำให้คนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย
เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างไรเสียก็ไร้ทางปฏิเสธ กู้หมิงซวงจึงยอมนั่งอยู่นิ่งๆแต่โดยดี ก็ได้มีเวลาว่างนับดูเงิน
ครานี้ กลับได้มาตั้งห้าร้อยอีแปะ
หักเงินยี่สิบอีแปะที่ซื้อปลาตะปูเมื่อวานออก อีกทั้งวัตถุดิบอื่นๆอีกไม่เกินราวๆหนึ่งร้อยอีแปะ นั่นก็เท่ากับว่านางหาเงินมาได้สี่ร้อยอีแปะทั้งสิ้นในวันนี้
แม้นเงินสี่ร้อยอีแปะจะไม่ได้มากมาย แต่หากเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ สักเดือนหนึ่งก็จะกลายเป็นเงินราวๆสิบตำลึงทีเดียวเชียว
สิบตำลึง……ก็สามารถเอามาสร้างเรือนไม้ในชนบทเล็กๆสักหลังได้แล้ว
กู้หมิงซวงใคร่อยากสร้างเรือนหลังใหม่มานานแล้ว เรือนหลังเดียวอยู่กันตั้งห้าคน อีกทั้งซูเหิงจิ่งต้องนอนขดอยู่ในกระท่อมมุงหญ้าหลังเล็ก หากนานไปคงไม่ดีแน่
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...