ค่ำคืนแรกที่สวีซุ่ยหนิงเลิกรากับเจียงเจ๋อ เธอได้พบเข้ากับชายหนุ่มรูปหล่อบ้านรวย
หลังจากดื่มเหล้าจนเมามาย เธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงหนุ่มหล่อคนนั้นไม่ยอมปล่อย
ชายหนุ่มที่ถูกสวมกอดนั้นไม่ได้ห้ามปรามเธอ ทั้งยังพูดอย่างเป็นกันเอง "เธอนี่กล้ามากนะ"
ร่างกายของสวีซุ่ยหนิงแนบชิดกับชายคนนั้น เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอส่องประกายระยิบระยับราวกับน้ำทะเล "เราขึ้นไปข้างบนกันดีไหม?"
จากนั้นชายคนนั้นผลักเธอออกไปเล็กน้อยและเอ่ยว่า "ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจียงเจ๋อ"
สวีซุ่ยหนิงชะงักงัน เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองชายคนนั้นอย่างจริงจัง ใบหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ดวงตาที่เธอคุ้นเคย ทำให้เธอตอบสนองในทันที ผู้ชายตรงหน้าเธอคือลูกพี่ลูกน้องที่มากความสามารถของแฟนเก่าเธอนั่นเอง
เฉินลู่
นักศึกษาแพทย์ ในช่วงวัยรุ่นเขาได้รับโอกาสจากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองa เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเต้านม
ครั้งก่อนที่เธอมีอาการเจ็บบริเวณทรวงอก เขาเป็นแพทย์ที่ดูแลเธอ
ในวันที่เขาทำการตรวจวินิจฉัยเธอนั้นเขาสวมแมสก์และท่าทีของเขาในตอนนั้นดูเฉยเมยและเย็นชาเป็นอย่างมาก ยามที่มือทั้งสองสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกายของเธอ ดวงตาของเขาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
เมื่อตรวจเสร็จแล้ว เขาไม่แม้แต่จะเสียเวลาพูดคุยอะไรกับเธอเลยสักคำ เพียงแค่พยักหน้าให้เธอเนื่องจากเห็นแก่หน้าเจียงเจ๋อเท่านั้น
เขาเปรียบเสมือนพระพุทธเจ้า ไร้ซึ่งกิเลส ตัณหาราคะ ที่ผู้อื่นทำได้เพียงมองเขาจากระยะไกลได้เท่านั้น
ด้วยจิตสำนึกของสวีซุ่ยหนิงที่เคารพและเกรงใจต่ออาชีพแพทย์ เธอฟื้นคืนสติในทันใด เธอยืนตัวตรงพลางเอ่ยว่า "โอ้ สวัสดี"
เฉินลู่ขยับเนคไทของเขา "ฉันจะโทรหาเจียงเจ๋อให้เขามารับเธอ"
สวีซุ่ยหนิงพูดตามความจริงออกไป "เลิกกันแล้วล่ะ"
คิ้วของเฉินลู่กระตุกเล็กน้อย ซึ่งแทบจะสังเกตไม่เห็น ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นไม่นานนักเขาเอ่ยขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย "งั้นฉันจะไปส่งเธอ"
สวีซุ่ยหนิงเห็นว่านัยต์ตาของเขานั้นราวกับว่ามีความหมายบางอย่าง ทว่าเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก
กระทั่งรถของเขาจอดอยู่ที่ชั้นล่างตรงบ้านของเธอ เขาไม่ได้เปิดประตูรถให้เธอในทันที สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกฉงน
ผู้ชายที่ไม่อยากเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อส่งแล้วเขาก็จะรีบกลับไปในทันใด
แต่ถ้าไม่รีบกลับ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องมีความคิดบางอย่าง
เธอชำเลืองมองชายคนนั้นครู่หนึ่ง ต้องยอมรับเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของตระกูลที่ร่ำรวยนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะนิสัยและบุคลิก เฉินลู่นั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาเป็นเหมือนนกกระเรียนในฝูงไก่ มีความโดดเด่นเหนือผู้อื่น
"หมอเฉิน" ฉับพลันสวีซุ่ยหนิงก็เอ่ยขึ้น "อยากจะเข้าไปในบ้านของฉันไหม?"
เมื่อเฉินลู่ได้ยิน เขาชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง ขยับเนกไทเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไร
สวีซุ่ยหนิงยิ้ม "ฉันพอจะมองออก คุณอยากจะนอนกับฉัน"
ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเสียงหัวเราะที่ยากจะได้สดับก็ดังขึ้น "ใช่ ฉันอยาก เธอจะยอมหรือเปล่า?"
...............
ในขณะที่สวีซุ่ยหนิงกำลังกดรหัส เฉินลู่ก็สวมกอดเธอจากด้านหลัง
ความหนาวเย็นจากเสื้อผ้าของเขาทำให้เธอรู้สึกเสียใจอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องดีที่จะมีความสัมพันธ์กับเขา แต่ทว่าชายหนุ่มรูปงามคนนี้ราวกับว่ามีพลังเวทมนตร์ เขาสามารถจุดไฟเผาผู้คนได้ภายในเสี้ยววินาที ความเสียใจนี้อีกไม่นานเธอก็คงจะลืมเลือน
ทักษะของเฉินลู่นั้นดีมาก ทั้งสองต่างก็รู้สึกมีความสุข
ขณะที่การพักผ่อนของสวีซุ่ยหนิงจบลง เฉินลู่ผู้สุภาพอ่อนโยน กลับดูมีความชำนาญเสียยิ่งกว่าเจียงเจ๋อผู้เป็นพี่ของเขา ต่อหน้าร่างกายของหญิงสาวแปลกหน้า เขาก็สามารถทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไร เฉินลู่ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้าของเขา
เพียงไม่กี่นาที เธอก็ไม่อาจจินตนาการถึงท่าทีที่กระตือรือร้นของเขาได้แล้ว
"หมอเฉิน?"
เฉินลู่เอ่ย "ที่โรงพยาบาลมีเรื่องนิดหน่อย ฉันต้องไปแล้ว"
จากมุมมองของเธอนั้น แผ่นหลังของเขาดูห่างเหินออกไป
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าว่าทำไมตนเองจึงเอ่ยเช่นนั้นออกไป "ฉันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน วันนี้ฉันดื่มมากไป"
"อืม" เขาตอบรับ "อย่างไรก็ตามผู้หญิงก็ต้องรักและถนอมตัวเองไว้ ความสวยงามน่ะไม่สามารถดึงดูดคนอื่นได้ในระยะยาวหรอกนะ"
สวีซุ่ยหนิงจะไม่เข้าใจความหมายของเขาได้อย่างไร
เธอสวย เฉินลู่ก็คิดเช่นนั้น แต่ด้วยสถานะที่มีขอบเขต นอกเสียจากการหลับนอนด้วยกันแล้ว ความสัมพันธ์อื่นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้
ผู้ชายหัวสูงอย่างเขา ผู้หญิงที่วนเวียนอยู่รอบตัวเขา เขาไม่อาจนับได้หรอก เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่เขาจะพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความตั้งใจ
......
เฉินลู่รีบไปโรงพยาบาลเพื่อเข้าทำการผ่าตัดเคสเล็กๆ
ขณะที่เขาสวมใส่เสื้อกาวน์ เพื่อนร่วมงานของเขาเจี่ยงหนานตั๋วก็เร่งรุดเข้ามาและ "เมื่อกี้ฉันเห็นนายอยู่ที่บาร์นะ"
เฉินลู่ทำหูทวนลม
"เห็นนายและแฟนสาวของลูกพี่ลูกน้องนายกำลังกอดกันอย่างเร่าร้อน แทบจะเข้าไปสิงร่างของกันและกันอยู่แล้ว" เป็นสวีซุ่ยหนิงที่ประทับจูบลงบนคางของเขา เฉินลู่ก็ปล่อยให้เธอกอดเขาโดยไม่ได้ผลักไส
เขายกมือขึ้นแสดงท่าทีให้หยุดจากนั้นเขาเอ่ยอย่างนิ่งเฉยว่า "เธอเมาแล้วจำฉันไม่ได้ เธอเลยมาเกาะแกะฉันก็แค่นั้น"
"แล้วหลังจากที่ออกไปด้วยกัน ผู้หญิงสวยขนาดนั้น นายไม่ทำอะไรเลยเหรอวะ?" จากนั้นเจี่ยงหนานตั๋วก็แสดงท่าทีคิดออกว่า "ก็ใช่ นอกจากคนที่อยู่ต่างประเทศคนนั้น นายจะไปนึกถึงใครได้อีก คนอื่นไม่รู้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่านาย...."
เฉินลู่ตอบ "เราได้กันแล้ว"
เจี่ยงหนานตั๋วชะงักงันไปชั่วขณะ
"ยื่นให้ถึงปากถ้ำ ทั้งยังไม่ต้องรับผิดชอบ ทำไมจะไม่ล่ะ" เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "อีกอย่าง เจียงเจ๋อก็แค่คบเธอเล่นๆ ใครก็รู้เรื่องนี้"
สวีซุ่ยหนิงเป็นเพียงแค่ของเล่นสำหรับพี่ชายของพวกเขาก็เท่านั้น มีแค่เธอที่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเจียงเจ๋อเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...