เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 2

วันรุ่งขึ้น ขณะที่สวีซุ่ยหนิงกำลังเดินอยู่บนท้องถนน เธอรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะร้องขอชีวิต

เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ทว่าเมื่อคืนนี้เธอเมามายและการรับรู้ของเธอช้ากว่าปกติหลายเท่าตัว มันก็มีบ้างที่รู้สึกเจ็บปวด แต่เธอก็ไม่ได้หยุดยั้งเฉินลู่

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเธอนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไป เธอจึงส่งใบลาให้กับโรงเรียนและตรงไปยังโรงพยาบาล

เธอไม่คาดคิดว่าชีวิตจะต้องพบเจอกับความบังเอิญขนาดนี้ เธอเผอิญชนเข้ากับเฉินลู่

เขาและเพื่อนของเขาอีกสองสามคนขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอ เขาเพิกเฉยต่อเธอ

สวีซุ่ยหนิงยืนนิ่งไม่ขยับอยู่บริเวณมุมลิฟต์ ฟังคำศัพท์เฉพาะที่พวกเขาพูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนเฉินลู่เงียบขรึมมาก เขาตอบรับเพียงสองประโยคเท่านั้น

เจี่ยงหนานตั๋วมองไม่เห็นสวีซุ่ยหนิง เขาเอ่ยถามเฉินลู่ว่า "แล้วนายกับแฟนของนายเกิดเรื่องอะไรขึ้นวะ?"

"เลิกกันแล้ว"

"ผู้หญิงที่เยี่ยมยอดขนาดนั้นนายยังทิ้งลงได้" เจี่ยงหนานตั๋วตกตะลึงมาก "ตอนแรกนายตามจีบเธอเสียแรงไปตั้งเท่าไร เพราะเธออยู่ต่างประเทศ นายไม่ชอบรักทางไกลหรือยังไง?"

สวีซุ่ยหนิงพยายามเงี่ยหูฟัง ทว่าเฉินลู่กลับไม่พูดอะไรอีก เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย ผลสุดท้ายเธอเห็นว่าดวงตาของเขากำลังจ้องมองมาทางเธอ

เพียงแค่ชำเลืองมองและละสายตาไปอย่างเฉยเมย

สวีซุ่ยหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากว่า "หมอเฉิน"

เสียงนี้ดึงดูดสายตาของทุกคน สายตาของพวกเขาจับจ้องมาที่เธอและเฉินลู่

เฉินลู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "มาหาหมอเหรอ?"

"เมื่อคืนนี้...." ใบหน้ารูปไข่ของสวีซุ่ยหนิงแดงระเรื่อ "ได้รับบาดเจ็บมานิดหน่อยน่ะ"

เฉินลู่นั้นเข้าใจดี เมื่อมองเผินๆราวกับว่าเขาเพียงทำการสอบถามอาการของผู้ป่วย “ได้รับบาดเจ็บอะไรมา?”

เป็นเพราะเขา....

สวีซุ่ยหนิงถึงกับไร้คำพูดไร้คำตอบ ความคิดภายในสมองของเธอขาวโพลน ไม่แน่ใจว่าเขากำลังหยอกล้อเธออยู่หรือไม่

เฉินลู่เอ่ย "ไปที่ห้องทำงานของฉัน ถ้าเรื่องเล็กน้อยฉันสามารถดูให้เธอได้ ฉันเองไม่มีคนไข้พอดี"

เธอพยักหน้า มาโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการเช่นนี้ จะให้พูดอธิบายก็คงยาก นี่เป็นความผิดของเฉินลู่ ฉะนั้นเขาก็ควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ

เพียงแต่ในขณะที่เขาให้ยา ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังรู้สึกเคอะเขินอยู่เล็กน้อย

มีช่วงจังหวะหนึ่งที่เขาให้ยาเธอผิดวิธี สวีซุ่ยหนิงจึงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เฉินลู่หยุดชะงัก เขาเพียงชำเลืองมองเธอด้วยแววตาเฉยเมย

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเสียงเมื่อครู่นี้ของเธอนั้นดังมากไปหน่อย เธอจึงรีบหาหัวข้อบทสนทนา "หมอเฉิน ค่าใช้จ่ายในการรักษาเท่าไร?"

“ไม่ต้อง” เขาลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงเหินห่าง "เสร็จเรียบร้อยแล้ว"

"อ่อ" เดิมทีเธอไปรับบัตรคิวพบแพทย์และได้รับคิวช่วงบ่าย แต่ตอนนี้ช่วงบ่ายเธอเองก็ว่างแล้ว เธอสามารถกลับไปนอนได้แล้ว

สวีซุ่ยหนิงยังไม่ทันเดินออกจากประตู ทันใดนั้นเธอนึกอะไรบางอย่างได้ "หมอเฉิน ฉันขอวีแชทนายหน่อยได้ไหม?"

ทันทีที่สิ้นเสียง พยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมกับสิ่งของในมือ "คุณหมอเฉินลู่ ฉันเอาผลไม้มาให้คุณค่ะ"

เฉินลู่เอ่ยขอบคุณพยาบาลและเอ่ยตอบเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ระหว่างเรานั้นไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ญาติ เป็นแค่ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มวีแชทกัน"

พยาบาลที่กำลังเดินออกไปได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหันกลับมามองสวีซุ่ยหนิง ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เพ่งมองด้วยสายตาหยามเหยียดจากนั้นก็หันหลังและเดินจากไป

สวีซุ่ยหนิงเข้าใจ เธอต้องการวีแชทเขาเพียงเพราะต้องการจะจ่ายค่ายาให้เขาก็เท่านั้น เธอไม่ได้ต้องการมีความสัมพันธ์ใดๆกับเขา เรื่องเมื่อคืนนี้แค่นั้นก็น่าอึดอัดจะแย่แล้ว

เรื่องระหว่างเธอและเขามีเจียงเจ๋อคั่นระหว่างกลาง เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมันก็บ้าบอมากพออยู่แล้ว

หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงได้สติ เธอเสียใจอย่างอดไม่ได้

...

เมื่อสวีซุ่ยหนิงเดินมาถึงประตู เธอก็เห็นจางอวี้ที่กำลังยืนรอเธออยู่นานแล้ว

"เฉินลู่ทำงานที่นี่" นี่เป็นประโยคแรกที่จางอวี้เอ่ยขึ้น

สวีซุ่ยหนิงตอบ "สนใจเขาด้วยเหรอ?"

"อย่าพูดถึงฉันเลย ถามว่ามีผู้หญิงกี่คนที่ได้เห็นเขาแล้วไม่มองจนเหลียวหลังยังจะดีกว่า?" จางอวี้เอ่ย "นอกเสียจากสายตาจะเฉียบคมมาก ก็เขานี่แหละที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด"

สวีซุ่ยหนิงเห็นด้วย พยาบาลภายในโรงพยาบาลนี้ เมื่อครู่ที่เธอและเขาเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของเขา สายตาของผู้หญิงทุกคนต่างก็เพ่งเล็งมองมา เขาเป็นที่สะดุดตาและเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิง เมื่อวานนี้ที่เธอเข้าไปเกาะแกะเขาก็ไม่ใช่เพราะหน้าตาของเขาหรืออย่างไร

หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายหน้าตาน่าเกลียด ต่อให้เธอจะเมาแค่ไหน ด้วยอุปนิสัยที่ดีงามของเธอแล้ว เรื่องเมื่อคืนวานนี้อย่างไรก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

"แต่การเติบโตขึ้นมาของไอ้พวกผู้ชายพรรณนี้ เธออย่าไปมองว่าเขานั้นร้อยพิษไม่กล้ำกราย[1] เพราะจริงๆแล้วเขาอาจจะเคยย่ำแย่จนไร้หนทางเยียวยามาก็เป็นได้" จางอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

สวีซุ่ยหนิงพลันนึกเรื่องในลิฟต์เมื่อครู่นี้ได้ เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีนิ่งเรียบ 'เลิกกันแล้ว' ไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงรู้สึกได้ว่าภายใต้อาการที่นิ่งเรียบนั้นเหมือนกับว่ามีคลื่นลมพายุที่ปั่นป่วนซ่อนอยู่

"ฉันก็คิดแบบนั้น" เธอกล่าว

จางอวี้กลับขยับตัวเข้าหาเธอด้วยท่าทีมีลับลมคมใน "ฉันคิดว่าเฉินลู่อาจจะชอบเธอนะ"

สวีซุ่ยหนิงเงียบไม่พูดอะไร

"มีครั้งหนึ่ง เธอกับเจียงเจ๋อไปงานเลี้ยงด้วยกัน เธอสวมกระโปรงสั้นเซ็กซี่สุดใจ สายตาของเขาน่ะมองต้นขาเธอและมองสำรวจใบหน้าของเธอด้วย" จางอวี้เอ่ยแซว "มองแฟนของพี่น้องตัวเองแบบนั้น เสียมารยาทไปหรือเปล่า?"

ประโยคที่ไม่ธรรมดานี้ทำให้ความคิดของสวีซุ่ยหนิงแทบจะระเบิดในทันที

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ของจางอวี้ นั่นหมายความว่าเฉินลู่ไม่ได้ปฏิบัติกับเธอเหมือนพี่สะใภ้ของลูกพี่ลูกน้องตั้งแต่แรก ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เจียงเจ๋อไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอ ดังนั้นแล้วผู้คนรอบข้างเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเธออย่างจริงจัง

หัวใจของสวีซุ่ยหนิงเต้นถี่ระรัว ฉับพลันมีความคิดผุดขึ้น : ถึงแม้ว่าการเลิกรานี้จะเป็นเธอที่เอ่ยขึ้นก่อน แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ถูกลวงหลอกเข้าแล้ว

เดิมทีเธอต้องการจะกลับไปพักผ่อน แต่เธออดไม่ได้ที่จะกลับมายังห้องทำงานของเฉินลู่

เหมือนกับว่าเธอเข้ามารบกวนเขา สีหน้าของเขาเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ แต่ด้วยการอบรมการเลี้ยงดูที่ดี เขาก็ไม่ได้กล่าวตำหนิอะไร

สวีซุ่ยหนิงเอ่ย "หมอเฉิน ฉันมีหนึ่งคำถามอยากจะถามนาย เจียงเจ๋อน่ะ นอกจากฉันแล้วเขายังมีคนอื่นอีกใช่ไหม?"

ร้อยพิษไม่กล้ำกราย[1] เปรียบเปรยได้ว่า ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน