ผู้หญิงของเจียงเจ๋อนั้นมีมากมาย มีเยอะจนนับไม่ถ้วนและมากกว่าหนึ่งคนอยู่แล้ว
แต่เขาจะพูดอย่างไรได้ เขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินลู่ ต่อหน้าสวีซุ่ยหนิงเขาย่อมไม่พูดเรื่องไม่ดีของเจียงเจ๋ออยู่แล้ว
เฉินลู่พูดอย่างเหินห่าง "เรื่องส่วนตัวของเขา ฉันไม่รู้"
สวีซุ่ยหนิงเงียบไม่พูดจา เธอรู้ดีว่าคาดคั้นอะไรออกจากปากเขาไม่ได้หรอก แต่ทว่าเมื่อภายในใจมีการคาดเดาไว้แล้วก็มักจะฝังใจ หลังจากที่จางอวี้ส่งเธอกลับบ้าน เธอส่องดูแอพพลิเคชั่นโซเชียลทั้งหมดของเจียงเจ๋อ
ท้ายที่สุดเบาะแสเกี่ยวกับเจียงเจ๋อก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เธอจึงเปิดดูเวยป๋อของเฉินลู่
เธอเห็นโพสต์ในเวยป๋อของเขาเพียงโพสต์เดียว เขาโพสต์ไว้เมื่อห้าปีก่อน มีเพียงสองพยางค์เท่านั้น
หญิงชั่ว
ไม่มีเครื่องหมายวรรคตอนและไม่รู้ว่าหมายถึงใคร
คำพูดสองพยางค์ที่เรียบง่าย ทำให้คนอื่นรู้สึกได้ถึงความไม่ยินดีรวมถึงความเจ็บปวดที่ต้องอดกลั้นเอาไว้
ตามที่คิดไว้เพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้วเฉินลู่อาจจะต้องเผชิญเรื่องราวที่เลวร้ายมาก่อนอย่างแน่นอน
หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องราวแบบนั้นมาได้เขาจึงกลายเป็นคนเช่นนี้ คนไร้หัวใจ มีทักษะอย่างผู้เชี่ยวชาญ
สวีซุ่ยหนิงยังคงเหม่อลอยอยู่กับคำว่าหญิงชั่ว
อันที่จริงเธอกับเฉินลู่นั้นรู้จักกันมานานแล้ว
เมื่อห้าปีก่อน ในตอนที่เธอกำลังเข้ามหาวิทยาลัย เธออยู่โรงเรียนเดียวกับเฉินลู่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกได้จัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือกันและกัน เป็นเขาที่พาเธอเข้ากลุ่ม แต่เขาอาจจะจำเธอไม่ได้แล้ว เฉินลู่ไม่แม้แต่จะถามชื่อเธอด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่พบหน้ากันก็เพราะการฟังบรรยาย
พูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาไม่ถึงสิบนาทีก็ต่างคนต่างไป
สวีซุ่ยหนิงเคยแอบปลื้มเฉินลู่ ตอนที่เธอทำแบบฝึกหัดของชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก เธอแสร้งถามเขา "เพื่อนร่วมชั้นเฉิน เพื่อนร่วมห้องของฉันชอบนายมาก เธอให้ฉันมาถามนายว่านายชอบผู้หญิงแบบไหน"
เฉินลู่นั้นรู้เห็นทุกอย่าง เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ "ยังไงก็ไม่ใช่แบบเธอ"
หลังจากนั้น เธอรู้สึกอายที่จะให้เขาสอนภาษาอังกฤษให้กับเธออีก เช่นนั้นเธอจึงให้เพื่อนคนอื่นช่วยเหลือ
ต่อมาได้ยินว่าเขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ตามจีบผู้หญิงคนนั้นอยู่นานมาก ตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัยปีสอง เป็นการตามจีบที่เนิ่นนานหลายปี
ไม่รู้ว่าเป็นการเลิกราครั้งล่าสุดของเฉินลู่หรือเปล่า
.....
พูดได้เลยว่าการท่องโลกอินเทอร์เน็ตนั้นแม้ว่าจะระมัดระวังตัวขนาดไหนก็ตาม อย่างไรเสียก็มักจะทิ้งร่องรอยและเบาะแสไว้เสมอ
ในที่สุดสวีซุ่ยหนิงก็พบเบาะแสที่คลุมเครือของเจียงเจ๋อและผู้หญิงคนอื่น เป็นอัลบั้มภาพที่เน็ตไอดอลสาวโพสต์ลงบนโลกโซเชียล ภาพบนเตียงนั้น แม้ว่าจะไม่เห็นใบหน้าของเจียงเจ๋อ แต่เธอก็จำได้ว่าคนคนนั้นคือเจียงเจ๋อ
หากเจียงเจ๋อเลิกกับเธอไปแล้วจะพบรักครั้งใหม่ก็ไม่เป็นไร ทำตัวย่ำแย่งี่เง่าก็ไม่เป็นไร แต่เธอรับไม่ได้ว่าตัวเองนั้นถูกสวมเขา
ในวันนั้นสวีซุ่ยหนิงไปหาเจียงเจ๋อ
เมื่อเจียงเจ๋อเห็นเธอ สีหน้าท่าทางของเขานั้นดูไม่ดีนัก "เธอมาได้ไง?"
สวีซุ่ยหนิงกวาดสายตามองห้องด้านหลังเขาและเอ่ยขึ้น "บ้านของนายมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ด้วยเหรอ?"
เจียงเจ๋อตอบ "แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?"
การที่สวมเขาให้กับเธอนั้นไม่เกี่ยวกับเธอเหรอ?
สวีซุ่ยหนิงตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ แต่เธอนั้นเป็นเด็กสาวอารมณ์ดี โดยปกติแล้วแทบจะไม่โกรธเคืองสิ่งใดเลย ดังนั้นเจียงเจ๋อจึงนึกไม่ถึงว่าเธอจะยกมือขึ้นและฟาดฝ่ามือลงบนหน้าของเขา
เขาตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ก่นด่าเธอ "เธอเป็นบ้าหรือไง?"
"แล้วใครใช้ให้นายนอกใจฉัน"
เจียงเจ๋อโพล่งออกมา "ขอล่ะ เธอไม่ให้ฉันแตะต้องเลยแม้แต่น้อย ยังคิดจะให้ฉันดูแลเธอเหมือนหยกบริสุทธิ์อีกงั้นเหรอ? ตอนนั้นเพื่อที่จะได้ครอบครองเธอ ฉันต้องจ่ายเงินมากมายเท่าไรเพื่อให้พ่อเธอล้มละลาย...."
เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง เขารู้สึกตัวและชะงักงันไปชั่วขณะหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...