การกระทำของเฉินลู่ทำให้สวีซุ่ยหนิงต้องไปนั่งกินข้าวกับลูกค้าด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ออกไปทำงานต่างเมืองยังมีเจ้านายคอยตามไปด้วย แค่นี้เธอก็หงุดหงิดมากแล้ว แต่เธอนึกว่าเธอเป็นแฟนของเฉินลู่ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไร แถมยังอนุญาตให้เธอกลับห้องไปพักผ่อนก่อนด้วย จะได้ไม่ต้องรกหูรกตา
สวีซุ่ยหนิงเหม่อ ขนาดที่ลั่วจือเห้อเดินผ่านตัวเธอไป เธอยังมองไม่เห็น จนกระทั่งเขาเอ่ยทักเธอนั่นแหละ เธอถึงได้รู้ว่าเจอคนรู้จัก
"บังเอิญจัง" เธอยิ้มบางๆ เป็นการทักทายเขา
ลั่วจือเห้อมองเธอด้วยความประหลาดใจ: "เธออารมณ์ไม่ดีเหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงฝืนพยักหน้า แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรมากนัก
"เพราะว่าเฉินลู่?" เขาดึงเธอให้ขยับมาหาตัวเอง "เดินระวังหน่อย"
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย: "โจวอี้กลับมา เธอยุให้เจียงเจ๋อข่มขืนฉัน"
สีหน้าของลั่วจือเห้อเปลี่ยนไปเพราะประโยคนี้ จากนั้นก็เอ่ยต่อเหมือนรู้ "เฉินลู่เข้าข้างโจวอี้ล่ะสิ?"
"ก็ไม่ขนาดนั้น โจวอี้ใช้คำพูดอ้อมค้อม แล้วใช้ให้คนโง่อย่างเจียงเจ๋อให้ทำแทน เขาเป็นคนโง่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดนชักจูงเป็นเรื่องธรรมดา" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย
ลั่วจือเห้อยักไหล่ แล้วยกยิ้มเล็กน้อย: "แบบนั้นคือเขาเข้าข้างโจวอี้นี่ จากที่ฉันรู้จักเขามา เขาคงจะสงสัยอยู่บ้าง หลังจากนั้นก็ตัดสินใจไม่สืบค้นต่อ หรือไม่ก็เลือกที่จะเชื่อใจ เขาไม่ยอมตัดสินตามถูกผิด แต่เฉินลู่เลือก"
สีหน้าของสวีซุ่ยหนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ลั่วจือเห้อเอ่ย: "ไม่ต้องสนใจว่าระหว่างพวกเขายังมีความรักอยู่ไหม แค่โจวอี้ยอมแต่งงานกับตาแก่นั่นตามคำสั่ง แล้วเธอได้สมบัติจากตาแก่นั่นมา แค่เฉพาะผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง เขาก็คงไม่ทำอะไรโจวอี้แล้ว ถ้าอยากแก้แค้นโจวอี้ละก็ ยากมาก"
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าโจวอี้ยอมแต่งงานกับผู้ชายแก่รุ่นพ่อ ที่แท้เพราะยังมีเหตุผลแบบนี้ซ่อนอยู่ด้วย เธอพยายามสะกดความโกรธแล้วขอคำแนะนำ: "ฉันควรทำยังไง?"
"ฉันแนะนำให้เธอยอมแพ้" ลั่วจือเห้อบอกออกมาตามตรง: "ตอนนี้โจวอี้กำลังป่วย ในสายตาของเขา ตอนนี้เธอเป็นเหมือนคนที่อ่อนแอกว่า คนอ่อนแอกว่าไม่ต้องพูดอะไรก็ทำให้คนเชื่อไปตั้งครึ่งแล้ว อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...