เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 103

สรุปบท บทที่ 103: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

บทที่ 103 – ตอนที่ต้องอ่านของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

ตอนนี้ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการโต้แย้งทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 103 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แน่นอนว่าเฉินลู่เมินความเห็นที่เจี่ยงหนานตั๋วเอ่ยออกมา ให้หรือไม่เห็นก็ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นเซ้าซี้หรือเปล่า ถ้าเกิดเป็นคนเซ้าซี้คุยกันก็น่ารำคาญ ไม่สู้ให้ๆ ไป เสร็จแล้วก็ค่อยลบ ค่าเท่ากัน

เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติเห็นว่าวันนี้เฉินลู่ไม่ได้มีท่าทีขุ่นมัวเหมือนเดิม ก็เข้ามาคุยกับเฉินลู่เช่นกัน

เฉินลู่ตอบด้วยท่าทีทั่วไป ข้าวกินได้ครึ่งหนึ่ง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาก้มลงมองสายที่โทรเข้ามา สวีซุ่ยหนิงโทรหาเขาผ่านวีแชท เขาก็เลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปรับสายด้านนอก

ดูเหมือนว่าสวีซุ่ยหนิงจะเขิน ก็เลยไม่เอ่ยอะไรออกมา

เฉินลู่ก็เลยเป็นคนทำลายความเงียบนี้เอง เขาเอ่ยเสียงนิ่ง: "ออกไปทำงานเหรอ?"

"อืม" สวีซุ่ยหนิงตอบ "หิมะตก นายก็สวมเสื้อผ้าหนาๆ ล่ะ แล้วก็อย่าเอาแต่ดื่มน้ำเย็น มันไม่ดีต่อร่างกาย"

เฉินลู่บอกออกมาเสียงเรียบ: "ไม่ได้เอาเสื้อผ้าหนาๆ มา"

"แล้วทำไมนายไม่ไปซื้อล่ะ?" สวีซุ่ยหนิงบ่น "ถ้านายเป็นหวัดก็สมควร"

เฉินลู่ฟังน้ำเสียงร้อนใจของเธอออก เขาเงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น: "กลับมาจากต่างเมืองวันไหน?"

"น่าจะมะรืน"

เฉินลู่เอ่ย: "อีกสามฉันกลับ ฉันจะนั่งเครื่องไปลงที่นั่น"

คนที่เคยมีแฟนต้องเข้าใจกันทั้งนั้น เวลาที่เอ่ยออกมาว่าจะไปหา แบบนี้หมายความว่ากำลังขอคืนดี

สวีซุ่ยหนิงคิดอยู่แป๊บหนึ่งก็เข้าใจได้ เฉินลู่ชอบที่เธอเป็นห่วงเขา

เธอก็เลยปล่อยไปตามสถานการณ์: "ถึงเวลาจะให้ฉันไปรับที่สนามบินหรือเปล่า?"

ตอนนี้สวีซุ่ยหนิงจะไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้พวกเธออารมณ์ไม่ดีกันทั้งคู่ ถ้าพูดออกไปตอนนี้ เขาก็คงเอาเรื่องงานมาแทนที่ เขาเป็นคนบอกเองว่าต้องการเวลา รอตอนเจอกัน เขาคงให้คำตอบเธอได้

เฉินลู่ตอบตกลงด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย แล้วเอ่ยว่า: "ฉันกำลังกินข้าวอยู่ เดี๋ยวดึกๆ กลับไปโรงแรมแล้วจะโทรหาใหม่"

สวีซุ่ยหนิงแค่ตอบว่า "อ๋อ" จากนั้นก็เอ่ย: "นายช่วยซื้อเซรั่มให้ฉันสักสองขวดได้ไหม?"

"ในประเทศไม่มีขาย?" เขาเลิกคิ้วถาม

"ที่นี่แพงกว่าตั้งเยอะ"

เฉินลู่เอ่ย: "ค่อยว่ากัน"

สวีซุ่ยหนิงเบะปาก แล้วเอ่ยกลับไป: "หมายความว่าไง ค่อยว่ากัน ถ้านายไม่เต็มใจ ฉันไปถามเจี่ยงหนานตั๋วก็ได้"

เฉินลู่เลิกคิ้วแล้วถามขึ้นอีกครั้ง: "ใครนะ?"

สวีซุ่ยหนิงได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของเขา

เธอถามออกมาอย่างหวั่นๆ: "หัวเราะอะไร?"

"เปล่า" เฉินลู่กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้วเอ่ยกับเธอว่า "ต้องไปกล่าวรายงานแล้ว สองสามวันนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง อีกสองวันจะไปหาเธอ"

สวีซุ่ยหนิงเองก็ไม่อยากรบกวนเขาต่อ

ที่จริงเธออยากรู้อยู่เหมือนกันว่าหลายวันมานี้เขาติดต่อกับโจวอี้บ่อยหรือเปล่า

แต่เธอคิดว่าไม่ต้องคิดอะไรมากก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าใช่ ในตอนที่เธอกำลังคิด จางอวี้ก็แคปรูปที่โจวอี้โพสต์ในวีแชทมาให้เธอดู

ในภาพมีรูปครีมบำรุงที่เป็นของนำเข้ากองใหญ่ ใจความว่า: ขอบคุณคุณหมอเฉินที่อุตส่าห์สละเวลาส่งครีมพวกนี้มาให้ทั้งๆ ที่งานยุ่ง

จางอวี้ส่งข้อความมาด้วยว่า: "เธอเอาแต่โพสต์ว่าเฉินลู่ส่งของมาให้เธอ เป็นห่วงเธอยังไงอยู่ทุกวัน คนอื่นเขาไม่เรียกเธอว่าซ้อก็แปลกแล้วล่ะ ไหนจะคำว่าหาเวลาทั้งๆ ที่งานยุ่ง ไม่ใช่จะเน้นย้ำว่าเธอสำคัญแค่ไหนในสายตาของเฉินลู่หรือไง"

สวีซุ่ยหนิงไม่เอ่ยอะไร

ของที่ส่งจากต่างประเทศมาถึงไวขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินลู่เตรียมไว้ตั้งแต่ตอนที่ไปถึงแล้ว มันก็แน่อยู่แล้วสิ งานยุ่งนี่

ดูเหมือนว่าโจวอี้กำลังอวดโดยทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะอวด แต่ว่านี่คือความจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน