อาการหวัดรอบนี้ของเฉินลู่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ บวกกับสภาพอากาศของต่างประเทศทำให้ยากที่จะปรับตัว
คนร่างกายแข็งแรง เมื่อป่วยจะป่วยอย่างหนัก ในวันแรกเขามีอาการไออย่างรุนแรง วันรุ่งขึ้นเริ่มมีไข้และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที
การเดินทางกลับจึงล่าช้าเป็นธรรมดา
ในส่วนของสวีซุ่ยหนิง เขาเพียงบอกว่าตนเองไม่สามารถกลับไปได้ในขณะนี้
ปฏิกิริยาแรกของสวีซุ่ยหนิงคือเธอคิดว่าเขากำลังหลบหน้าเธออีกแล้วหรือไม่ ก่อนถามด้วยความน้อยใจว่า "ทำไม?"
เฉินลู่เงียบไปครู่หนึ่ง โดยรู้ว่าเหตุใดเธอจึงตอบสนองมากเช่นนี้ แต่เขาไม่ได้ตัดสินใจบอกสวีซุ่ยหนิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเธอก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เฉินลู่รู้สึกว่าเธออาจจะประนีประนอมกับเขาเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของเธอและพูดว่า "ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย"
สวีซุ่ยหนิงสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขายังคงกำลังเล่นเกมกับเธอ
บอกว่าต้องใช้เวลา แน่นอนว่าเป็นการถ่วงเวลา ถ่วงเวลาจนท้ายที่สุด บางทีเขาอาจมีวิธีทำให้เธอเลิกยืนกราน
เธอใช้เวลานานกว่าจะพูดออกมาอีกครั้งว่า “งั้นนายพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน”
เฉินลู่รู้สึกถึงความห่างเหินในน้ำเสียงจึงหยุดเล็กน้อย
สวีซุ่ยหนิงถือโทรศัพท์พร้อมกับครุ่นคิดหนึ่งหรือสองนาที ก่อนจะพูดว่า “เฉินลู่ ฉันไม่ได้พูดถึงมันมาสองสามวันแล้ว มันไม่ใช่การประนีประนอม ฉันแค่ให้เวลากับนาย ฉันตามใจนายก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันจะให้เวลานายเหมือนเดิม นายค่อยๆคิดก็ได้ เอาเถอะ ไม่พูดมากแล้ว วันนี้ฉันต้องกลับไปแล้ว ขอตัวไปเก็บของก่อนนะ”
สวีซุ่ยหนิงวางสายแล้วถอนหายใจยาว
แต่ยังไม่ทันที่สวีซุ่ยหนิงจะได้ทำ เธอก็เจอเข้ากับลั่วจือเห้อ
สวีซุ่ยหนิงยืนห่างออกไปและเห็นชายคนหนึ่งกำลังกวนใจเขา ไม่ยอมปล่อยเขาไป
เมื่อลั่วจือเห้อเงยหน้าขึ้นและเห็นเธอ เขาก็โบกมือให้
สวีซุ่ยหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังเดินก้าวต่อไป
ลั่วจือเห้อพูดเบา ๆว่า “ผู้ช่วยมาถึงแล้ว ผมขอตัวก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...